2.3 การงาน
"17 ข้าพเจ้าจึงเกลียดชีวิต เพราะว่าการงานที่เขาทำกันภายใต้ ดวงอาทิตย์ก่อความสลดใจให้แก่ข้าพเจ้า เพราะสารพัดก็อนิจจังคือกินลมกินแล้ง
18 ข้าพเจ้าเกลียดการงานทั้งสิ้นของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าตรากตรำอยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์ เพราะข้าพเจ้าจำต้องละการนั้นไว้ให้ แก่คนที่มาภายหลังข้าพเจ้า" (ปัญญาจารย์ 2:17-18)
|
ความรู้สึกที่พระองค์มีต่อวัฎจักรการทำงานที่ไม่มีวันจบสิ้นนี้ เป็นความรู้สึกที่เราทุกคนคงจะคุ้นเคยดี
แม่ที่มีลูกเล็ก ๆ อาจจะต้องใช้เวลาเกือบครึ่งวันในการซักเสื้อผ้า แต่กลับเห็นลูกน้อยจอมซนละเลงอาหารบนเสื้อผ้าที่สวมอยู่ หรือวิ่งตกลงไปเปื้อนโคลน "โดยไม่ได้ตั้งใจ" หรือ
นักธุรกิจอาจจะใช้เวลาทั้งวัน หรือตลอดสัปดาห์ เพื่อเตรียมข้อเสนอใหม่ แต่กลับถูกหัวหน้าปฏิเสธ หรือ
ชายคนหนึ่งใช้เวลาทั้งวันในการล้าง และขัดรถ แต่กลับถูกชนจนกันชนบุบในวันนั้นเอง
|
จะเป็นอย่างไร หากชีวิตของคุณดำเนินมาตลอดโดยมีทัศนคตคิว่า ความสำเร็จทั้งหมดที่คุณได้รับนั้นไม่มีคุณค่า ปราศจากความหมาย ว่างเปล่า และไร้ประโยชน์ ? ความคิดเช่นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าหากคุณพยายามใช้ชีวิต "ภายใต้ดวงอาทิตย์" ของคุณโดยปราศจากพระเจ้า เมื่อซาโลมอนทรงมองย้อนกลับไปในชีวิตที่ผ่านมา ก็พบว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญกับความสำเร็จของตัวเองมากเกินไป
ซาโลมอนประสบความสำเร็จในเรื่องใดบ้าง ?
ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ บทที่ 1-11 ได้บรรยายถึงความสำเร็จมากมายที่ซาโลมอนทรงได้รับ
พระองค์ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่มั่งคั่ง (พงศ์กษัตริย์ 4:22-28; 10:14-29)
แผ่นดินที่พระองค์ทรงปกครองนั้น เริ่มต้นตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงพรมแดนอียิปต์ (พงศ์กษัตริย์ 4:21)
ชื่อเสียงของพระองค์ในฐานะนักประพันธ์และนักปราชญ์นั้น เลื่องลือไปนานาประเทศ (พงศ์กษัตริย์ 4:32-33)
พระองค์ทรงสร้างพระนิเวศที่สง่างามถวายแด่พระเจ้า (พงศ์กษัตริย์ 6:1-38) และพระราชวังของพระองค์นั้น ถือได้ว่าเป็นผลงานแห่งความงามชิ้นเอก (พงศ์กษัตริย์ 7:1-12)
แต่เมื่อพระองค์ทรงมองดูผลงานของพระองค์เอง และของคนอื่น ๆ พระองค์กลับกล่าวว่า
"22 เพราะว่าเขาได้อะไรจากบรรดางานตรากตรำ และคร่ำเครียดที่เขาต้องทำภายใต้ดวงอาทิตย์เล่า
23 ด้วยว่าปีเดือนของเขามีแต่ความเจ็บปวด และกิจธุระของเขาก่อความสลดใจ ถึงกลางคืนจิตใจของเขาก็ไม่หยุดพักสงบ นี่ก็อนิจจังด้วย" (ปัญญาจารย์ 2:22-23)
เมื่อไรที่เราถูกครอบงำมากเกินไปจากสิ่งที่เราครอบครองอยู่ ?
มีคนมากมายที่อยากจะร่ำรวยแม้เพียงเสี้ยวหนึ่งของซาโลมอน และนี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลอตเตอรี่และสลากกินแบ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความหวังที่จะเป็นหนึ่งในล้านคนที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ผู้คนมากมายที่เล่นเกมโชว์ทางโทรทัศน์ ต่างส่งเสียงร้องและแสดงกิริยาที่ไม่น่าดูออกมา เพื่อแข่งขันชิงเงินหรือรางวัลจากทางรายการ แต่ซาโลมอนทรงย้ำเตือนเราว่า
"คนรักเงินย่อมไม่อิ่มเงิน และคนรักสมบัติไม่รู้จักอิ่มกำไร นี่ก็อนิจจังด้วย" (ปัญญาจารย์ 5:10)
เราควรมีทัศนคติอย่างไรต่อสิ่งที่เรามีอยู่ ?
ซาโลมอนตรัสว่า
"อนึ่ง ทุกๆคนที่พระเจ้าประทานทรัพย์สมบัติให้ ก็ได้ทรงโปรดให้รับประทานของเหล่านั้น ได้รับส่วนของตน และยินดีปรีดาในการงานของตนได้ นี่แหละเป็นของประทานจากพระเจ้า" (ปัญญาจารย์ 5:19)
คนที่มีความปรารถนาอยู่ตลอดเวลาในสิ่งที่ตัวเองไม่มี เป็นคนที่ไม่เคยพบกับความอิ่มใจ ซาโลมอนยังทรงทราบอีกว่า ความอิ่มใจจะไม่อยู่กับคนที่มองดูสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ในมือด้วยจิตใจที่ว่างเปล่า
กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความอิ่มใจ ก็คือ ความพึงพอใจในสิ่งที่พระเจ้าทรงประทานให้อย่างเพียงพอตามความจำเป็นของเรา
"11 ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน เพราะข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจอยู่อย่างนั้น
12 ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน
13 ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า" (ฟิลิปปี 4:11-13)
"และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานสิ่งสารพัดที่พวกท่านขาดอยู่นั้น จากทรัพย์อันรุ่งเรืองของพระองค์ในพระเยซูคริสต์" (ฟิลิปปี 4:11-13)
เหตุใดการพยายามไขว่คว้าเพื่อให้ไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตจึงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ?
ผู้คนมากมายทุ่มเทชีวิตในการปีนป่ายขึ้นสุ่บันไดแห่งความสำเร็จ แต่ซาโลมอนทรงชี้ให้เราเห็นว่า ผู้ที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด จะไม่สามารถยืนอยู่ที่ตรงนั้นได้ตลอดไป เขาจะถูกลืม เมื่อมีคนอื่นเข้ามาแทนที่ (ปัญญาจารย์ 4:13-16) เกียรติยศ ชื่อเสียง และอำนาจ เป็นสิ่งที่อยู่ไม่นาน และไม่สามารถตอบสนองความต้องการในจิตใจมนุษย์ได้ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงทราบบางสิ่งที่พวกเราทั้งหลายควรจะรู้ด้วย นั่นก็คือ อำนาจและชื่อเสียงไม่ได้เป็นของผู้ที่สมควรได้รับที่สุดเท่านั้น
5 มีสิ่งสามานย์ที่ข้าเห็นภายใต้ดวงอาทิตย์ ประหนึ่งว่าเป็นความผิดซึ่งมาจากผู้มีอำนาจ
6 คือคนเขลาถูกแต่งตั้งไว้ในตำแหน่งสูงใหญ่ และคนมั่งคั่งรับตำแหน่งต่ำต้อย
7 ข้าพเจ้าเห็นทาสขี่ม้า และเจ้านายเดินที่พื้นแผ่นดินอย่างทาส (ปัญญาจารย์ 10:5-71)
ถ้าเช่นนั้นเราจะทำงานไปเพื่ออะไรกัน ?
ซาโลมอนทรงบอกให้รู้ว่า การงานเป็นสิ่งที่ดี ถ้าหากคุณไม่ให้ความสำคัญกับมันมากจนเกินไป พระองค์ทรงย้ำเตือนเราเกี่ยวกับมุมมองของพระเจ้าในเรื่องการงานและเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตว่า
"สำหรับมนุษย์นั้นไม่มีอะไรดีไปกว่ากิน และดื่ม กับหาความชื่นบานในการงานของเขา นี่แหละข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นมาจากพระหัตถ์ของพระเจ้า" (ปัญญาจารย์ 2:24)
ดังนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะกล่าวต่อไปอีกว่า
"ด้วยถ้าไม่อาศัยพระองค์แล้วใครจะกินได้เล่า หรือใครจะมีความชื่นบานได้" (ปัญญาจารย์ 2:25)
อันเป็นการอ้างถึงสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้นของหนังสือปัญญาจารย์เกี่ยวกับความต้องการพระเจ้า หากเราต้องการพบกับความพึงพอใจในชีวิต
หากว่าเราลำดับความสำคัญในชีวิตของเราไม่ดี ผลเสียจะเกิดขึ้นกับตัวเราเอง การพยายามที่จะแสวงหาความพึงพอใจในชีวิตโดยไม่พึ่งพระเจ้า ก็เปรียบเหมือนกับการเล่นเทนนิส หรือตีกอล์ฟ โดยไม่ใช่ไม้ตี
คิดทบทวน
- เหตุใดพระเจ้าจึงมีคำสั่งให้ชนชาติอิสราเอลสงวนวันหนึ่งไว้สำหรับการพักผ่อน การเก็บรักษาวันหนึ่งไว้สำหรับการนมัสการจะช่วยให้เรามีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการทำงานได้อย่างไร ?
"12 'จงถือวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชา ไว้แก่เจ้า
13 จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน
14 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโต(แปลว่า หยุด หยุดพัก (งาน)) แห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำงานสิ่ง ใดๆ คือเจ้าเอง หรือบุตราบุตรีของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือโคของเจ้า หรือลาของเจ้า หรือสัตว์ใช้ใดๆของเจ้า หรือแขกที่อยู่ในเมืองของเจ้า เพื่อทาสทาสีของเจ้าจะได้หยุดพักอย่างเจ้า
15 จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้พาเจ้าออกมาจากที่นั่น ด้วยพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์และด้วยพระกรที่เหยียดออก เหตุฉะนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้ทรงบัญชาให้เจ้ารักษาวันสะบาโต' " (เฉลยธรรมบัญญัติ 5:12-15)
- คุณจัดการงานไว้เป็นลำดับที่เท่าไหร่ในชีวิต
เขียนโดย เคิร์ท เดอ ฮาน
แปลโดย ปาริชาติ แสงอัมพร
เรียบเรียงโดย ชนิดา จิตตรุทธะ
จากหนังสือ ฉันมาอยู่ในโลกนี้ทำไม ?
Back 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 Next |