6.3 พระเยซูคริสตสำแดงการมหัศจรรย์
เรื่องลึกลับมหัศจรรย์ต่าง ๆ มิใช่ของใหม่สำหรับคนไทยเรา เรามักมีเรื่องแปลกประหลาดมาเล่าสู่กันฟังเสมอ แต่จะน่าเชื่อแค่ไหนนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องพิจารณาโดยรอบคอบ
ในกรณีของพระเยซูคริสต์ การอัศจรรย์ทั้งสิ้นที่พระองค์กระทำ เป็นส่วนสำคัญมาก ที่ยืนยันถึงความเป็นพระเจ้าของพระองค์ เพราะหากพระเจ้ามาบังเกิดเป็นมนุษย์จริงแล้ว เราย่อมคาดหวังว่าต้องมีการอัศจรรย์เกิดขึ้น
เอกสาร 4 ฉบับที่บันทึกเรื่องชีวประวัติของพระเยซูคริสต์ (มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น) ได้เขียนถึงการอัศจรรย์มากมายที่พระองค์ทำ อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า พระองค์แสดงอำนาจเหนือสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ คือ
|
ก. อำนาจเหนือความเจ็บป่วย เช่น รักษาคนตาบอด (มารโก 8:22-25) คนหูหนวกและคนใบ้ (มาระโก 7:31-37) คนง่อย (ยอห์น 5:1-9)
ข.อำนาจเหนือผีร้าย เช่น พระเยซูทรงขับผีที่สิงในตัวคนออกไป (มาระโก 1:23-28; 9:14-29)
ค. อำนาจเหนือธรรมชาติ เช่น พระเยซูทรงห้ามพายุให้สงบ (มัทธิว 8:23-26) เปลี่ยนน้ำธรรมดาเป็นเหล้าองุ่น (ยอห์น 2:1-11) เลี้ยงคนห้าพันคน ด้วยขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัว (มัทธิว 14:15-21) |
ง. อำนาจเหนือความตาย พระเยซูทรงทำให้คนตายกลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่ เช่น ลูกสาวนายธรรมศาลา (มาระโก 5:35-43) ลูกชายแม่ม่ายคนหนึ่ง (ลูกา 7:11-15) และ ลาซารัสแห่งเบธานี (ยอห์น 11:1-14)
สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการอัศจรรย์ต่าง ๆ ที่พระเยซูคริสต์กระทำ คือ พระองค์ประกอบการอัศจรรย์ส่วนใหญ่ต่อหน้ามหาชนอย่างเปิดเผย ซึ่งผู้ไม่เชื่อพระองค์สามารถสืบสวนหามูลความจริงได้ ที่สำคัญกว่านั้น คือ ศัตรูของพระองค์ในสมัยนั้นไม่ได้ปฏิเสธความจริงเกี่ยวกับการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ แต่กลับหาหนทางกำจัดพระองค์ด้วยเหตุผลว่า
"ถ้าเราปล่อยเขาไว้อย่างนี้ คนทั้งปวงจะเชื่อถือเขา" (ยอห์น 11:48)
นอกเหนือจากเอกสารบันทึกประวัติของพระเยซูคริสต์ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว ยังมีเอกสารอื่น ๆ นอกเหนือจากพระคัมภีร์ ที่เป็นหลักฐานยืนยันถึงการอัศจรรย์ที่พระองค์กระทำด้วย ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ถึงเอกสารเชิงประวัติศาสตร์ ชื่อ Antiquities ของ Flavius Josephus และแม้แต่พระคัมภีร์กุรอานของศาสนาอิสลามเอง ก็ได้กล่าวถึงความสามารถในการประกอบการอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์
นี่ย่อมยืนยันว่า การอัศจรรย์ของพระเยซูคริสต์ไม่ใช่เรื่องยกเมฆ แต่มีเหตุผล หลักฐาน ต่าง ๆ รองรับอยู่อย่างหนักแน่น ทำให้เราเห็นความจริงข้อหนึ่งว่า พระเจ้าเท่านั้นที่มีอำนาจสามารถกระทำสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้
6.4 พระเยซูคริสตเป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนมากที่สุดในโลก
คงไม่เกินความจริงมากไป หากจะพูดว่าพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตคนมากที่สุดในโลก ในทุกยุคทุกสมัย นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น แต่เป็นคำกล่าวของนักประวัติศาสตร์เรืองนามท่านหนึ่ง ชื่อ Kenneth Scott Latourette ท่านเขียนไว้ว่า
"พระเยซูคริสต์เป็นผู้มีอิทธิพลต่อชีวิตของคนมากที่สุดในโลก อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาในประวัติศาสตร์ และอิทธิพลที่พระองค์มีต่อชีวิตคนนั้น นับวันจะทวีขึ้นเรื่อย ๆ"
พระเยซูคริสต์ใช้เวลาในการทำราชกิจของพระองค์เพียงสามปีเท่านั้น แต่เป็นสามปีที่มีความหมายสูงสุด เป็นสามปีที่ได้พลิกโฉมหน้าของประวัติศาสตร์โลก ดังที่เราเห็นจากตัวอย่างข้อเท็จจริงเหล่านี้
- พระเยซูไม่เคยเขียนหนังสือแม้แต่สักเล่ม แต่มีหนังสือในทุกชาติภาษาที่เขียนถึงเรื่องของพระองค์ พระเยซูคริสต์เป็นครูที่มีศิษย์มากที่สุดในโลก (จำนวนคริสตชนในปัจจุบันมีมากกว่าหนึ่งพันล้านคน)
- พระเยซูคริสต์ได้รับษาผู้ที่จิตใจฟกช้ำมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ตลอดทุกยุคทุกสมัย
- ในประวัติศาสตร์ มีคนจำนวนมหาศาล ยินยอมพลีชีพเพื่อพระเยซูคริสต์ ด้วยความจงรักภักดี ทั้งที่พระองค์มิได้เป็นผู้กุมอำนาจทางการทหารหรือการเมือง
ใช่แล้ว สามัญชนผู้นี้แหละ ที่คนจำนวนมากทั่วโลกยินดีมอบชีวิตของตน เพื่อติดตามพระองค์ ทำไมหรือ ? ก็เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จึงสามารถเข้าใจ และเห็นใจในความอ่อนแอบกพร่อง ตลอดจนความทุกข์ และความเจ็บปวดในชีวิตของเรา และพระองค์ยังเป็นพระเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่ในปัจจุบัน จึงสามารถเป็นที่ปรึกษา และเป็นเพื่อนอยู่กับเราตลอดไปได้
สมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย (นคท.)
จากหนังสือ เรื่อง เยซูคือใคร
Back 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 Next |