Christian Siam

 

 

 

 

Christian Siam - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า

 
 :: สำหรับผู้สนใจพระเจ้า ::
Christian Siam คำถาม - คำตอบ
Christian Siam พระเยซูคือใคร
Christian Siam พระเยซูเกิดจริงหรือ?
Christian Siam เราเกิดมาทำไม
Christian Siam เราตายแล้วไปไหน
Christian Siam ทฤษฎีวิวัฒนาการ...จริง?
Christian Siam เป็นคริสเตียนได้อย่างไร
Christian Siam คำพยานชีวิต

Christian Siam
H O M E
:: สำหรับคริสเตียนใหม่ ::
:: สื่อคริสเตียนออนไลน์ ::
Christian Siam มานาประจำวัน
Christian Siam เพลงจาก Youtube
 

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN

         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN



เหตุใดพวกคริสเตียนจึงไม่กราบไหว้ศพ ?

พระคัมภีร์ได้ย้ำหลายตอนว่า "จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า" และ "ถ้าผู้ใดไม่เลี้ยงดูวงศ์ญาติของตน โดยเฉพาะคนในครอบครัว (รวมทั้งพ่อและแม่)  ผู้นั้นก็ชั่วยิ่งกว่าคนไม่เชื่อพระเจ้าเสียอีก" (1ทิโมธี 5:8)

คริสเตียนสยาม - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า
จากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ทำให้เราเห็นว่าพระคัมภีร์ให้พวกเราที่เป็นคริสเตียน ดูแลให้เกียรติในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ให้ดีที่สุด  และการเลี้ยงดูพ่อแม่ของคริสเตียนนั้น  ไม่ใช่หมายความว่า  พ่อแม่อยากกินอะไรก็ซื้อให้กิน  พ่อแม่อยากเที่ยวที่ไหนก็พาไป  พ่อแม่ไม่มีเงินก็ให้เงินพ่อแม่ใช้  นี่ไม่ใช่การเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของคริสเตียน  เพราะถ้าเช่นนี้ก็ไม่ผิดอะไรกับการเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว  ที่อยากกินอะไรก็หาให้มันกิน  พามันไปเดินเล่น  อาบน้ำให้มัน  กอดจูบมัน  เวลาอารมณ์ดีก็จับมันมากอดจูบ  เวลาอารมณ์เสียก็เตะตีมัน


แต่การเลี้ยงดูพ่อแม่ของคริสเตียนนั้น  จะไม่เพียงแต่ดูแลพ่อแม่เพียงร่างกายเท่านั้น  แต่จะรวมไปถึงการให้เกียรติแก่ท่าน  ไม่ตะคอกท่านเสียงดัง ๆ  ไม่ใช้สายตาขมึงถึงต่อพ่อแม่  ไม่ทุ่มเถียงพ่อแม่  มีความสุภาพอ่อนน้อมต่อพ่อแม่  มีอะไรก็ปรึกษาพ่อแม่  จะทำอะไรก็นึกถึงพ่อแม่  นี่จึงจะเป็นการกตัญญูต่อพ่อแม่อย่างแท้จริง

และเมื่อเวลาที่พ่อแม่จากโลกนี้ไป  เราก็จัดงานศพ และทำการฝังศพของท่านให้เรียบร้อย  ในงานศพนั้นเราก็มีการจัดพิธีไว้อาลัยโดยสงบ  อธิษฐานต่อพระเจ้า  และใช้งานศพของท่านในการเตือนคนที่ยังอยู่ข้างหลังโดยใช้พระวจนะของพระเจ้า  ให้เขาระลึกถึงชีวิตของตน  และสำหรับญาติพี่น้องของผู้ตาย  พระวจนะของพระเจ้าก็จะทำให้พวกเขาจะได้รับการปลอดประโลม และสันติสุขจากพระเจ้าในยามที่ต้องพบกับการพลัดพรากจากคนที่พวกเขารัก

ส่วนว่า  ทำไมพวกเราที่เป็นคริสเตียนจึงไม่กราบไหว้ศพนั้น  ก็เพราะพวกเราเน้นที่จิตใจภายในของผู้ที่มาร่วมงานศพ (เราเชื่อว่าการมีใจจริงในการมาร่วมระลึกถึงผู้ตาย ก็ดีกว่ามาให้เกียรติผู้ตายโดยการเคารพแต่เพียงพิธี  หลังจากนั้นก็กินเหล้า  เล่นการพนัน)

วิธีที่เราจัดงานศพ  ก็คือ  จัดช่อดอกไม้  และจัดบริเวณงานศพให้สวยงาม  สะอาดเรียบร้อย  เพื่อให้เกียรติแก่ผู้ตาย (พวกเราจะไม่ลวก ๆ สกปรก หรือยังไงก็ได้เป็นอันขาด)  หลังจากนั้นเราก็จะสงบใจหรือยืนไว้อาลัยแก่ผู้ตาย  และกล่าวถึงชีวประวัติของผู้ตายและขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงรับเขากลับบ้าน (ในกรณีผู้ตายเป็นคริสเตียน)  และนี่ก็เป็นการจัดงานศพและไว้อาลัยแก่ผู้ตายของพวกเราที่เป็นคริสเตียน

(แท้จริงแล้ว  ถ้าเราถามตัวเราเองดูว่า  เราอยากให้ลูกหลานของเรา หรือเพื่อนพ้องของเราทำดีต่อเราเมื่อยังมีชีวิตอยู่ หรือว่าตายไปแล้ว จึงค่อยมาทำ และให้เกียรติ)

ไว้วันหลังหรือก่อนตายค่อยเชื่อพระเยซูได้ไหม?

ได้ครับ  ขอเพียงแต่คุณยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้น  คุณก็ยังมีโอกาสเชื่อพระเยซูได้ แต่ทว่าประสบการณ์ได้บอกพวกเราว่า  ถ้าคุณรอวันหลังค่อยเชื่อ  บางทีคุณอาจจะไม่มีโอกาสที่จะตัดสินใจเชื่อก็อาจเป็นได้  เพราะ

  1. ถ้าคุณทิ้งช่วงเวลาที่จะตัดสินใจตอนนี้  และคิดว่าวันหลังค่อยว่ากันใหม่แล้ว  เมื่อคุณวางหนังสือเล่มนี้ลง และทำงานในอาชีพของคุณต่อไป  คุณก็จะต้องพบกับปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน  ในที่สุดสภาพแวดล้อมก็ทำให้จิตใจที่อยากจะเชื่อพระเยซูของคุณค่อย ๆ จางลง  และมารซาตานก็ฉวยโอกาสตอนที่สภาพจิตใจของคุณกำลังเปลี่ยนไปนั้น  มันก็จะบอกคุณหลายอย่าง  จนทำให้คุณหมดความเชื่อลง  ส่วนมากคำพูดที่มันมักจะใช้ก็คือ "การเชื่อพระเยซูยุ่งยากจริง ๆ" "เดี๋ยวคนอื่นก็หัวเราะเยาะ" "เฮ้ย อย่าไปเชื่อ  เดี๋ยวไม่มีคนคบหรอก" "บ้าเหรอ ไปเชื่อพระเยซู"  เป้นต้น  และคุณก็ไม่มีกำลังพอที่จะต่อต้านเสียงกระซิบเหล่านี้ของมัน  ในที่สุดการอยากตัดสินใจเชื่อของคุณก็ยืดออกไปเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด
  2. คุณควรจะเข้าใจอย่างหนึ่ง  ก็คือ  คุณไม่ทราบเลยว่า  อีก 5 นาทีข้างหน้าจะมีอะไรบ้างเกิดขึ้นกับคุณ  อุบัติเหตุที่อยู่ข้างหน้าคุณนั้น  มันพร้อมที่จะอุบัติขึ้นได้ทุกเมื่อ  มีหลายคนที่บอกว่าวันหลังค่อยเชื่อพระเยซู  แต่ก็ถูกรถชนตายไปก่อน  เขาไม่มีวันหลังที่ให้เขาเชื่อแล้ว  ผมขอถามคุณหน่อยเถิดว่า  คุณสามารถที่จะควบคุมวันพรุ่งนี้ได้หรือ  คุณคิดว่าคุณจะยังคงแข็งแรงเหมือนกับวันนี้หรือ  คุณมั่นใจหรือว่า "พรุ่งนี้คุณจะไม่พบอุบัติเหตุ"

ถ้าหากวันนี้คุณได้เข้าใจผลดีของการเชื่อพระเยซูคริสต์แล้ว  และก็รู้อีกว่าวันนี้คุณสามารถพึ่งพระองค์ที่จะรอดพ้นจากความบาปและความตายในนรกแล้ว  ทำไมจะต้องรอถึงวันหลังล่ะ  หากวันนี้มีนักโทษคนหนึ่งที่ถูกจำคุกอยู่  วันหนึ่งพอรู้ว่าในหลวงทรงมีพระราชสารอภัยโทษให้ไปรับด่วน  คุณคิดว่านักโทษคนนั้นจะรอวันหลังหรือ  ไม่มีทาง  เขาจะรีบไปรับสารนั้นอย่างรวดเร็วที่สุด  หรือคุณว่าไม่จริง

อ. นิกร สิทธิจริยาภรณ์
จากหนังสือ คุณพร้อมแล้วหรือ?

Back 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10

 © Copyright 2009. Christian Siam.com