โฮเชยา
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14
โฮเชยา 1
1 พระวจนะของพระเจ้าซึ่งมาถึงโฮเชยา บุตรเบเออรี ในรัชกาลอุสซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์ กษัตริย์ทั้งหลายแห่งยูดาห์และในรัชกาล เยโรโบอัม บุตรโยอาชกษัตริย์อิสราเอล
2 เมื่อพระเจ้าตรัสทางโฮเชยาเป็นครั้งแรกนั้น พระเจ้าตรัสกับโฮเชยาว่า "ไปซี ไปรับหญิงเจ้าชู้มาเป็นภรรยาและเกิดลูกชู้กับนาง เพราะว่าแผ่นดินนี้เล่นชู้อย่างยิ่ง โดยการละทิ้งพระเจ้าเสีย"
3 ดังนั้นท่านจึงไปรับนางโกเมอร์บุตรสาว ดิบลาอิมมาเป็นภรรยา และนางก็มีครรภ์กับท่านและคลอดบุตรชายคนหนึ่ง
4 และพระเจ้าตรัสกับท่านว่า "จงเรียกชื่อเขาว่า ยิสเรเอล เพราะว่าอีกไม่ช้า เราจะลงโทษพงศ์พันธุ์ของเยฮู เหตุด้วยเรื่องโลหิตของยิสเรเอล เราจะให้ราชอาณาจักรของพงศ์พันธุ์อิสราเอล สิ้นสุดลงเสียที
5 ในวันนั้น เราจะหักธนูของอิสราเอล ในหุบเขายิสเรเอล"
6 ต่อมานางก็ตั้งครรภ์ขึ้นอีก และคลอดบุตรหญิงคนหนึ่ง และพระเจ้าตรัสกับท่านว่า "จงตั้งชื่อบุตรหญิงนั้นว่าโลรุหะมาห์ เพราะเราจะไม่เมตตาพงศ์พันธุ์อิสราเอลอีกต่อไป เราจะไม่อภัยให้เขาอีกเลย
7 แต่เราจะเมตตาพงศ์พันธุ์ยูดาห์ และเราจะช่วยกู้เขาโดยพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเขาทั้งหลาย เราจะไม่ช่วยกู้เขาไว้ด้วยคันธนูหรือด้วยดาบ หรือด้วยสงคราม หรือด้วยเหล่าม้า หรือด้วยเหล่าพลม้า"
8 เมื่อนางให้โลรุหะมาห์หย่านมแล้ว นางก็ตั้งครรภ์คลอดบุตรชายคนหนึ่ง
9 และพระเจ้าตรัสว่า "จงเรียกชื่อบุตรนั้นว่าโลอัมมี เพราะเจ้าทั้งหลายมิใช่ ประชากรของเรา และเราก็มิใช่พระเจ้าของเจ้า"
10 แต่จำนวนประชาชนอิสราเอลจะมากมาย เหมือนทรายในทะเล ซึ่งจะตวงหรือนับไม่ถ้วน และในสถานที่ซึ่งทรงกล่าวแก่เขาว่า "เจ้าทั้งหลายไม่ใช่ประชากรของเรา" ก็จะกล่าวแก่เขาว่า "เจ้าเป็นบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
11 และพงศ์พันธุ์ยูดาห์กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล จะรวมเข้าด้วยกัน และเขาทั้งหลายจะตั้งผู้หนึ่งให้เป็นประมุข และจะพากันขึ้นไปจากแผ่นดินนั้น เพราะวาระของยิสเรเอลจะสำคัญมาก
โฮเชยา 2
1 จงเรียกน้องชายของเจ้าว่า "อัมมี" จงเรียกน้องสาวของเจ้าว่า "รุหะมาห์"
2 จงว่ากล่าวมารดาของเจ้า จงว่ากล่าวเถิด เพราะว่านางไม่ใช่ภรรยาของเรา และเราไม่ใช่สามีของนาง ให้เธอทิ้งการเล่นชู้เสียจากหน้าของเธอ และทิ้งการล่วงประเวณีเสียจากระหว่างถันของนาง
3 มิฉะนั้นเราจะเปลื้องผ้าของนางให้ล่อนจ้อน กระทำให้เธอเหมือนวันที่เธอเกิดมา กระทำให้เธอเหมือนถิ่นทุรกันดาร และกระทำให้เธอเหมือนแผ่นดินที่แตกระแหง และประหารเธอเสียด้วยความกระหาย
4 เราจะไม่มีความสงสารต่อบุตรทั้งหลายของนาง เพราะว่าเขาทั้งหลายเป็นลูกของการเล่นชู้
5 เพราะว่ามารดาของเขาเล่นชู้ เธอผู้ที่ให้กำเนิดเขาทั้งหลายได้ประพฤติความอับอาย เพราะนางกล่าวว่า 'ฉันจะตามคนรักของฉันไป ผู้ให้อาหารและน้ำแก่ฉัน เขาให้ขนแกะและป่านแก่ฉัน ทั้งน้ำมันและของดื่ม'
6 เพราะเหตุนี้ เราจะเอาหนามไก่ให้สะทางของนางไว้ เราจะสร้างกำแพงกั้นนางไว้ เพื่อมิให้นางหาทางของนางพบ
7 นางจะไปตามบรรดาคนรักของนาง แต่ก็จะตามไม่ทัน นางจะเที่ยวเสาะหาเขาทั้งหลาย แต่นางก็จะไม่พบเขา แล้วนางจะว่า 'ฉันจะไป หาผัวคนแรกของฉัน เพราะแต่ก่อนนั้นฐานะฉันยังดีกว่าเดี๋ยวนี้'
8 แต่นางหาทราบไม่ ว่าเราเป็นผู้ให้ ข้าว เหล้าองุ่น และน้ำมัน และได้ให้เงินและทองแก่นาง ซึ่งเขาใช้สำหรับพระบาอัล
9 เพราะฉะนั้นเราจะเรียกข้าวคืน ตามกำหนดฤดูกาล และเรียกเหล้าองุ่นคืนตามฤดู และเราจะเรียกขนแกะและป่านของเรา ซึ่งให้เพื่อใช้ปกปิดกายเปลือยเปล่าของนางนั้นคืนเสีย
10 คราวนี้เราจะเผยความลามกของนาง ต่อหน้าคนรักของนาง และไม่มีใครช่วยให้นางพ้นมือเราได้
11 เราจะให้ความร่าเริงของนางสิ้นสุดลง ทั้งเทศกาลเลี้ยง เทศกาลขึ้นหนึ่งค่ำ วันสะบาโต และบรรดาเทศกาลทั้งสิ้นของนาง
12 เราจะให้เถาองุ่นและต้นมะเดื่อของนางร้างเปล่า ที่นางคุยว่า 'นี่แหละเป็นสินจ้างของฉัน ซึ่งคนรักของฉันให้ฉัน' เราจะทำให้กลายเป็นป่า และสัตว์ป่าทุ่งจะกินเสีย
13 เราจะทำโทษนางเนื่องในวันเทศกาลเลี้ยงพระบาอัล เมื่อนางเผาเครื่องหอมบูชาพระนั้น แล้วก็แต่งกายของนางด้วยแหวนและทองรูปพรรณ และติดตามบรรดาคนรักของนางไป และลืมเราเสีย พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
14 "ดูเถิด เหตุนี้เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และปลอบใจนาง
15 เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น กระทำให้หุบเขาอาโคร์ เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะตอบอย่างสมัยเมื่อนางยังสาวอยู่ ดังในสมัยเมื่อนางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์"
16 "พระเจ้าตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า 'สามีของฉัน' เจ้าจะไม่เรียกเราว่า 'พระบาอัลของฉัน' อีกต่อไป
17 เพราะว่าเราจะเอาชื่อพวกพระบาอัลออกเสีย จากปากของนาง นางจะไม่เรียกชื่อนี้อีกต่อไป
18 ในครั้งนั้นเพื่อเขา เราจะกระทำพันธสัญญากับบรรดา สัตว์ป่าทุ่ง บรรดานกในอากาศ และบรรดาสัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดิน เราจะทำลายคันธนู ดาบและสงครามเสียจากแผ่นดิน และเราจะกระทำให้เขานอนลงอย่างปลอดภัย
19 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราเป็นนิตย์ เออ เราจะหมั้นเจ้าไว้ด้วยความชอบธรรม ความยุติธรรม ความรักมั่นคงและความกรุณา
20 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราด้วยความสัตย์ซื่อ และเจ้าจะรู้จักพระเจ้า
21 พระเจ้าตรัสว่า "ในวันนั้น เราจะตอบฟ้าสวรรค์ และฟ้าสวรรค์จะตอบพิภพ
22 และพิภพจะตอบข้าว เหล้าองุ่นและน้ำมัน สิ่งเหล่านี้จะตอบยิสเรเอล
23 เราจะหว่านเขาไว้ในแผ่นดินสำหรับเรา เราจะเมตตาโลรุหะมาห์ และเราจะพูดกับโลอัมมี ว่า 'เจ้าเป็นประชากรของเรา' และเขาจะกล่าวว่า 'พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์'"
โฮเชยา 3
1 และพระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า "จงไปอีกครั้งหนึ่ง ไปสมานรักกับหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนรักของชู้และเป็นหญิงล่วงประเวณี เหมือนพระเจ้าทรงรักพงศ์พันธุ์อิสราเอลอย่างนั้นแหละ แม้ว่าเขาจะหลงใหลไปตามพระอื่น และนิยมชมชอบกับขนมลูกองุ่นแห้ง"
2 ดังนั้นแหละ ข้าพเจ้าจึงได้ซื้อนางมาเป็น เงินสิบห้าเชเขลกับข้าวบารลีหนึ่งโฮเมอร์กึ่ง
3 ข้าพเจ้าจึงพูดกับนางว่า "เธอต้องรอฉันให้หลายวันหน่อย อย่าเล่นชู้อีก อย่าไปเป็นของชายอื่นอีก ส่วนฉันก็จะไม่เข้าหาเธอด้วย"
4 เพราะว่าพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะคงอยู่อย่างไม่มีกษัตริย์ และไม่มีเจ้านายเป็นเวลานาน ทั้งจะไม่มีการสักการบูชา หรือเสาศักดิ์สิทธิ์ หรือเอโฟด หรือรูปพระ
5 ภายหลังพงศ์พันธุ์อิสราเอลจะกลับมา และแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา และแสวงหาดาวิดกษัตริย์ของเขาทั้งหลาย และในกาลต่อไปเขาจะมีความยำเกรงต่อพระเจ้า และแสวงความดีของพระองค์
โฮเชยา 4
1 โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอล จงฟังพระวจนะของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงมีคดีกับชาวแผ่นดินนั้น ในแผ่นดินนั้นไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต ความรักเมตตา หรือความรู้ในเรื่องพระเจ้า
2 มีแต่การสบถสาบาน การมุสา การฆ่ากัน การโจรกรรมและการล่วงประเวณี เขาหาญหักพันธะทั้งสิ้น มีแต่การฆาตกรรมซ้อนการฆาตกรรม
3 เพราะฉะนั้น แผ่นดินจึงเป็นทุกข์ บรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นก็อ่อนระอาใจ ทั้งสัตว์ป่าทุ่ง และนกในอากาศด้วย และปลาในทะเลก็ถูกนำเอาไปเสียหมด
4 แต่อย่าให้ผู้ใดใส่ความ หรืออย่าให้ผู้ใดฟ้อง เพราะคดีของเราก็อยู่กับท่านนะ ปุโรหิต
5 เวลากลางวันท่านจะสะดุด และผู้เผยพระวจนะจะสะดุดกับท่านในเวลากลางคืน และเราจะทำลายมารดาของท่าน
6 ประชากรของเราถูกทำลายเพราะขาดความรู้ เพราะเจ้าปฏิเสธไม่รับความรู้ เราก็ปฏิเสธเจ้าไม่ให้รับเป็นปุโรหิตของเรา เพราะเจ้าหลงลืมพระบัญญัติแห่งพระเจ้าของเจ้า เราก็จะลืมพงศ์พันธุ์ของเจ้าเสียด้วย
7 เขาทวีมากขึ้นเท่าใด เขาก็กระทำบาปต่อเรามากขึ้นเท่านั้น เราจะให้ศักดิ์ศรีของเขากลายเป็นความอับอาย
8 เขาเลี้ยงชีพอยู่ด้วยบาปแห่งประชากรของเรา เขามุ่งที่จะอิ่มด้วยความบาปชั่วของคนเหล่านั้น
9 ปุโรหิตเป็นอย่างไร ประชาชนก็จะเป็นอย่างนั้น เราจะลงทัณฑ์เขาเนื่องด้วยวิธีการของเขา เราจะลงโทษเขาตามการกระทำของเขา
10 เขาจะรับประทาน แต่ไม่รู้จักอิ่มหนำ เขาจะเล่นชู้ แต่ไม่เกิดผลดก เพราะว่าเขาได้ทอดทิ้งพระเจ้า เพื่อจะประกอบการเล่นชู้
11 เหล้าองุ่น และเหล้าองุ่นใหม่ ชิงเอาความเข้าใจไปเสีย
12 ประชากรของเราไปขอความเห็นจากสิ่งที่ทำด้วยไม้ และไม้ติ้วก็ให้คำพยากรณ์แก่เขา เพราะจิตใจที่ชอบเล่นชู้นำให้เขาหลงไป และเขาทั้งหลายได้ละทิ้งพระเจ้าของ เขาเสียเพื่อไปเล่นชู้
13 เขาถวายสัตวบูชาอยู่ที่ยอดภูเขา และทำสักการบูชาเผาอยู่ที่เนินเขา ใต้ต้นก่อ ต้นไค้ และต้นก่อหลวง เพราะว่าร่มไม้เหล่านี้เย็นดี เพราะฉะนั้นธิดาทั้งหลายของเจ้าจึงเล่นชู้ และเจ้าสาวทั้งหลายจึงล่วงประเวณี
14 เมื่อธิดาทั้งหลายของเจ้าเล่นชู้ เราก็ไม่ลงโทษ หรือเมื่อเจ้าสาวของเจ้าล่วงประเวณี เราก็ไม่ลงทัณฑ์ เพราะผู้ชายเองก็หลงไปกับหญิงแพศยา และทำสักการบูชากับหญิงผู้ทำกามพลี ชนชาติที่ไม่มีความเข้าใจมาถึงความพินาศ
15 โอ อิสราเอลเอ๋ย ถึงเจ้าจะเล่นชู้ ก็อย่าให้ยูดาห์มีความผิด อย่าเข้าไปในเมืองกิลกาล หรือขึ้นไปยังเบธาเวน และอย่าสาบานว่า "พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด"
16 อิสราเอลนั้นดื้อดึง เหมือนวัวสาวที่ดื้อ พระเจ้าจะทรงเลี้ยงเขา อย่างเลี้ยงแกะที่ทุ่งกว้างได้หรือ
17 เอฟราอิมก็ผูกพันอยู่กับรูปเคารพแล้ว ปล่อยเขาแต่ลำพัง
18 เมื่อเขาเมาแล้ว เขาก็ปล่อยตัวไปเล่นชู้ เขารักความอับอายยิ่งกว่ารักศักดิ์ศรีของเขา
19 ลมพายุเอาปีกห่อเขาไว้ เขาจะอดสูเพราะแท่นบูชาของเขา
โฮเชยา 5
1 โอ ปุโรหิตทั้งหลาย จงฟังข้อนี้ โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย จงสดับ โอ ราชวงศ์กษัตริย์ จงเงี่ยหูฟัง เพราะเจ้าทั้งหลายจะต้องถูกพิพากษา เพราะเจ้าเป็นกับอยู่ที่เมืองมิสปาห์ และเป็นข่ายกางอยู่ที่เมืองทาโบร์
2 เขาขุดหลุมที่เมืองชิทธีมนั้นให้ลึก แต่เราจะตีสอนเขาเหล่านี้ทั้งหมด
3 เรารู้จักเอฟราอิม และอิสราเอลก็มิได้ปิดบังไว้จากเรา โอ เอฟราอิมเอ๋ย เจ้าเล่นชู้ อิสราเอลก็เป็นมลทิน
4 การกระทำของเขาไม่ยอมให้เขากลับไปยังพระเจ้าของเขา เพราะจิตใจที่เล่นชู้อยู่ในตัวเขา เขาจึงไม่รู้จักพระเจ้า
5 ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลก็ปรากฏเป็นพยานที่หน้าเขาแล้ว อิสราเอลและเอฟราอิมจึงจะสะดุดเพราะความผิดของตน ยูดาห์ก็จะพลอยล้มคว่ำไปกับเขาทั้งหลายด้วย
6 เขาจะไปหาพระเจ้า ด้วยนำเอาฝูงแพะแกะฝูงโคไป แต่เขาจะหาพระองค์ไม่พบ พระองค์ทรงจากเขาไปแล้ว
7 เขาได้ทรยศต่อพระเจ้า เพราะเขาเกิดลูกนอกรีต บัดนี้วันขึ้นค่ำจะผลาญเขาเสีย พร้อมกับไร่นาของเขา
8 จงเป่าเขาสัตว์ที่ในกิเบอาห์ จงเป่าแตรที่ในรามาห์ จงร้องตะโกนที่เบธาเวน โอ เบนยามินเอ๋ย จงสั่นสะท้านเถิด
9 ในวันที่ลงโทษนั้น เอฟราอิมจะเริศร้าง เราประกาศสิ่งที่เป็นจริง อยู่ท่ามกลางเผ่าอิสราเอล
10 เจ้านายของยูดาห์ได้กลายเป็นเหมือนคนที่ย้ายหลักเขต เราจะเทพระพิโรธของเราเหนือเขาให้เหมือนอย่างเทน้ำ
11 เอฟราอิมถูกบีบบังคับ และถูกขยี้ด้วยการทำโทษ เพราะเขาตั้งจิตตั้งใจที่จะติดตามอนิจจัง
12 เพราะฉะนั้นเราจะเป็นเหมือนตัวแมลงต่อเอฟราอิม และเป็นเหมือนสิ่งผุต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์
13 เมื่อเอฟราอิมเห็นความเจ็บป่วยของตน และยูดาห์เห็นบาดแผลของตน เอฟราอิมก็ไปหาอัสซีเรีย และส่งคนไปหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้น แต่ท่านก็ไม่สามารถจะรักษาเจ้า หรือรักษาบาดแผลของเจ้าได้
14 เพราะเราจะเป็นเหมือนสิงห์ต่อเอฟราอิม และเป็นเหมือนสิงห์หนุ่มต่อพงศ์พันธุ์ของยูดาห์ เรา คือเรานี่แหละ จะฉีกแล้วก็ไปเสีย เราจะลากเอาไป และใครจะช่วยก็ไม่ได้
15 เราจะกลับมายังสถานที่ของเราอีก จนกว่าเขาจะยอมรับความผิดของเขาและแสวงหาหน้าของเรา เมื่อเขารับความทุกข์ร้อน เขาจะแสวงหาเรา
โฮเชยา 6
1 "มาเถิด ให้เรากลับไปหาพระเจ้า เพราะว่าพระองค์ทรงฉีก และจะทรงรักษาเราให้หาย พระองค์ทรงโบยตี และจะทรงพันบาดแผลให้แก่เรา
2 อีกสองวันพระองค์จะทรงให้เราฟื้น พอถึงวันที่สามจะทรงยกเราขึ้น เพื่อเราจะดำรงอยู่ต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์
3 ให้เรารู้จักให้เราพยายามรู้จักพระเจ้า การที่พระองค์เสด็จออกก็แน่นอนเหมือนอรุณ พระองค์จะเสด็จมาหาเราอย่างห่าฝน ดังฝนชุกปลายฤดูที่รดพื้นแผ่นดิน"
4 เอฟราอิมเอ๋ย เราจะทำอะไรกับเจ้าดี ยูดาห์เอ๋ย เราจะทำอะไรกับเจ้าหนอ ความรักของเจ้าก็เหมือนเมฆในยามเช้า เหมือนอย่างน้ำค้างที่หายไปแต่เช้าตรู่
5 ฉะนี้ เราจึงให้ผู้เผยพระวจนะแกะสลักเขา เราประหารเขาเสียด้วยคำพูดจากปากของเรา การพิพากษาของเราก็ออกไปอย่างแสงสว่าง
6 เพราะเราประสงค์ความรักมั่นคงไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา เราประสงค์ความรู้ในพระเจ้ายิ่งกว่าเครื่องเผาบูชา
7 แต่เขาหักพันธสัญญาที่ตำบลอาดัม ณที่นั่น เขาทรยศต่อเรา
8 กิเลอาดเป็นเมืองของคนกระทำความชั่ว มีรอยโลหิตเป็นทางไป
9 อย่างเหล่าโจรซุ่มคอยดักคนฉันใด พวกปุโรหิตก็ซุ่มคอยฉันนั้น เขากระทำฆาตกรรมตามทางที่ไปเชเคม แท้จริง เขาทำการลามก
10 เราเห็นสิ่งน่าสยดสยองในนิเวศของอิสราเอล การเล่นชู้ของเอฟราอิมก็อยู่ที่นั่น อิสราเอลเป็นมลทิน
11 โอ ยูดาห์เอ๋ย เจ้าก็เหมือนกันด้วย ฤดูเกี่ยวก็กำหนดไว้ให้เจ้าแล้ว เมื่อเราจะให้ประชากรของเรากลับสู่ สภาพเดิมจากการเป็นเชลย
โฮเชยา 7
1 เมื่อเราจะรักษาอิสราเอลให้หาย ความเสื่อมทรามของเอฟราอิมก็เผยออก ทั้งการกระทำที่ชั่วร้ายของสะมาเรียก็แดงขึ้น เพราะว่าเขาทุจริต ขโมยก็หักเข้ามาข้างใน และพวกปล้นก็ปล้นอยู่ข้างนอก
2 แต่เขามิได้สำนึกในใจว่า เราจดจำการกระทำที่ชั่วทั้งหมดของเขาได้ บัดนี้การกระทำของเขาห้อมล้อมเขาไว้แล้ว การเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าเรา
3 เขากระทำให้กษัตริย์ชื่นชมยินดีด้วยความชั่วร้ายของเขา กระทำให้เจ้านายพอใจด้วยการมุสาของเขา
4 เขาเป็นคนล่วงประเวณีทุกคน เขาเป็นเตาอบที่ร้อน ซึ่งช่างทำขนมหยุดเร่งให้ร้อนแล้ว ตั้งแต่เขาจะต้องนวดแป้ง จนแป้งจะฟูขึ้น
5 ในวันฉลองกษัตริย์ของเรา เจ้านายก็ป่วย ด้วยฤทธิ์ของเหล้าองุ่น กษัตริย์ทรงเหยียดออกพร้อมกับคนขี้เยาะเย้ย
6 ใจของเขาก็ร้อนด้วยเล่ห์เหลี่ยมเหมือนเตาอบ ตลอดคืนความโกรธก็ลุกกรุ่นอยู่ พอถึงรุ่งเช้าก็พลุ่งออกมาอย่างกับเปลวเพลิง
7 ทุกคนก็ร้อนอย่างกับเตาอบ และเขมือบผู้ครอบครองทั้งหลายของเขา กษัตริย์ทั้งสิ้นของเขาก็ล้มลง แต่ในพวกกษัตริย์ไม่มีใครร้องถึงเรา
8 เอฟราอิมเอาตัวเข้าปนกับชนชาติทั้งหลาย เอฟราอิมเหมือนขนมปิ้งที่มิได้พลิกกลับ
9 คนต่างด้าวก็กินแรงของเขา เขาก็ไม่รู้ตัว ผมของเขาก็หงอกประปรายแล้ว และเขาก็ไม่รู้ตัว
10 ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลเป็นพยานปรักปรำเขา เขาก็ยังไม่กลับไปหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา เขามีเรื่องทั้งหมดเช่นนี้ เขาก็มิได้แสวงหาพระองค์
11 เอฟราอิมเป็นเหมือนนกพิราบ โง่เขลาและไร้ความคิด ร้องเรียกอียิปต์ วิ่งไปหาอัสซีเรีย
12 เมื่อเขาไป เราจะกางข่ายของเราออกคลุมเขา เราจะดึงเขาลงมาเหมือนดักนกในอากาศ เราจะจับเขา ในเมื่อฝูงนั้นทำเสียงขึ้น
13 วิบัติแก่เขา เพราะเขาได้หลงเจิ่นไปจากเรา ความพินาศจงมีแก่เขา เพราะเขาได้กบฏต่อเรา เราจะไถ่เขาไว้แล้ว แต่เขาพูดมุสาเรื่องเรา
14 เขามิได้ร้องทุกข์ต่อเราจากใจจริงของเขา แต่เขาคร่ำครวญอยู่บนที่นอนของเขาเท่านั้น เขาเชือดเฉือนตัวของเขาเพื่อขอข้าวและขอเหล้าองุ่นใหม่ เขากบฏต่อเรา
15 แม้ว่าเราจะได้ฝึกและเพิ่มกำลังแขนให้เขา เขาก็ยังคิดทำร้ายต่อเรา
16 เขาไม่กลับไปหาพระองค์ผู้สูงสุด เขาเป็นคันธนูที่หลอกลวง เจ้านายของเขาจะล้มลงด้วยคมดาบ เพราะลิ้นที่โอหังของเขา เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ให้เขาเย้ยหยันกันในแผ่นดินอียิปต์
โฮเชยา 8
1 จงจรดเขาสัตว์ไว้ที่ริมฝีปากของเจ้า เพราะว่าแร้งตัวหนึ่งกำลังอยู่เหนือพระนิเวศของพระเจ้า เพราะเขาได้หักพันธสัญญาของเรา และละเมิดธรรมบัญญัติของเรา
2 เขาทั้งหลายร้องทุกข์ต่อเราว่า "ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เหล่าอิสราเอลรู้จักพระองค์"
3 อิสราเอลได้ทอดทิ้งความดีเสียแล้ว ศัตรูจะไล่ติดตามเขา
4 เขาทั้งหลายได้แต่งตั้งกษัตริย์ แต่เรามิได้เสนอให้ทำ เขาทั้งหลายแต่งตั้งเจ้านาย แต่เราไม่รู้เรื่องเลย เขาทั้งหลายสร้างรูปเคารพด้วยเงินและทองคำของเขา เพื่อแก่ความพินาศของเขาเอง
5 โอ สะมาเรียเอ๋ย เราทิ้งรูปลูกวัวของเจ้าเสีย ความกริ้วของเราพลุ่งขึ้นต่อเขา อีกนานสักเท่าใดหนอ เขาจึงจะบริสุทธิ์กันได้ในอิสราเอล
6 รูปหล่อนั้น ช่างเป็นผู้ทำขึ้น รูปนั้นมิได้เป็นพระเจ้า รูปลูกวัวของสะมาเรีย จะต้องถูกทุบให้เป็นชิ้นๆ
7 เพราะว่าเขาหว่านลม เขาจึงต้องเกี่ยวลมบ้าหมู ต้นข้าวไม่มีรวง จะไม่เกิดข้าวสำหรับทำแป้ง ถึงจะเกิด คนต่างด้าวก็เอาไปกิน
8 อิสราเอลถูกกินเสียหมดแล้ว เดี๋ยวนี้อยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย เป็นเหมือนภาชนะไร้ประโยชน์
9 เขาทั้งหลายขึ้นไปหาอัสซีเรีย ดังลาป่าที่ท่องเที่ยวอยู่ลำพัง เอฟราอิมได้จ้างคนรักมา
10 แม้ว่าเขาจ้างประชาชาติอื่นให้เป็นพันธมิตร ไม่ช้าเราจะต้อนเขาให้รวมกัน เขามีความหวังน้อย จากคำของกษัตริย์จอมเจ้านาย
11 เพราะเหตุเอฟราอิมได้ก่อสร้างแท่นบูชาเพิ่มขึ้นเพื่อบาป แท่นบูชาเหล่านั้นก็กลับกลายเป็นแท่นเพื่อบาปให้เขา
12 ถึงเราจะเขียนธรรมบัญญัติไว้ให้สักหมื่นข้อ เขาจะถือว่าเป็นเพียงของแปลก
13 ส่วนเครื่องสัตวบูชาที่ถวายแก่เรานั้น เขาถวายเนื้อและรับประทานเนื้อนั้น แต่พระเจ้ามิได้พอพระทัยในตัวเขา บัดนี้พระองค์จะทรงระลึกถึงความชั่วของเขา และจะทรงลงโทษเขาเพราะบาปของเขา เขาจะกลับไปยังอียิปต์
14 เพราะว่าอิสราเอลได้ลืมผู้สร้างของตนเสียแล้ว จึงสร้างวังขึ้นหลายแห่ง และยูดาห์ก็สร้างเมืองมีกำแพงเพิ่มขึ้น เราจะส่งไฟมาเผาเมืองเหล่านี้ ไฟจะไหม้ที่กำบังเข้มแข็งทั้งหลายของเขาเสีย
โฮเชยา 9
1 โอ อิสราเอลเอ๋ย อย่าเปรมปรีดิ์ไป อย่าเปรมปรีดิ์อย่างชนชาติทั้งหลายเลย เพราะเจ้าทั้งหลายเล่นชู้นอกใจพระเจ้าของเจ้า เจ้าทั้งหลายรักค่าสินจ้างของหญิงแพศยา ตามบรรดาลานนวดข้าว
2 แต่ลานนวดข้าวและบ่อย่ำองุ่นจะไม่พอเลี้ยงเขา และเหล้าองุ่นใหม่ก็จะขาดคราว
3 เขาทั้งหลายจะไม่ได้ค้างอยู่ในแผ่นดินของพระเจ้า แต่เอฟราอิมจะกลับไปยังอียิปต์ เขาจะรับประทานอาหารไม่สะอาดอยู่ที่ในอัสซีเรีย
4 เขาจะไม่ได้ทำพิธีเทเหล้าองุ่นถวายพระเจ้า เขาจะไม่กระทำให้พระองค์พอพระทัยด้วย เครื่องสัตวบูชาของเขา ขนมปังของเขาจะเป็นขนมปังสำหรับไว้ทุกข์ ผู้ใดรับประทานก็จะมีมลทิน เพราะว่าขนมปังของเขาก็เพื่อดับความหิวของเขาเอง จะไม่มาถึงพระวิหารของพระเจ้า
5 เจ้าจะทำอะไรกัน เมื่อถึงวันเทศกาล และในวันเทศกาลของพระเจ้า
6 เพราะ ดูเถิด เขากำลังหนีความพินาศ อียิปต์จะรวบรวมเขาไว้ เมืองเมมฟิสจะฝังเขา ต้นตำแยจะยึดสิ่งประเสริฐที่ทำด้วยเงินของเขาไว้เสีย ต้นกระชับจะงอกขึ้นในเต็นท์ของเขา
7 วันลงโทษมาถึงแล้ว และวันที่จะทดแทนก็มาถึงแล้ว อิสราเอลคงจะรู้เรื่อง ผู้เผยพระวจนะเป็นคนเขลาไปแล้ว ผู้ที่มีพระวิญญาณก็บ้าไป เนื่องด้วยความบาปผิดใหญ่ยิ่งของเจ้า และความเกลียดชังยิ่งใหญ่ของเจ้า
8 ผู้เผยพระวจนะเป็นยามกับพระเจ้าของเราดูแลเอฟราอิม แต่กับของพรานดักนกอยู่ตามทางของเขาทั่วไปหมด และความเกลียดชังอยู่ในพระนิเวศแห่งพระเจ้าของเขา
9 เขาเสื่อมทรามลึกลงไปในความชั่วอย่างมากมาย ดังสมัยเมืองกิเบอาห์ พระองค์จะทรงระลึกถึงความชั่วช้าของเขา พระองค์จะทรงลงโทษเพราะบาปของเขา
10 เราพบอิสราเอล เหมือนพบผลองุ่นอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เราพบบรรพบุรุษของเจ้าทั้งหลาย เหมือนพบผลมะเดื่อรุ่นแรกที่ต้นมะเดื่อ เมื่อออกในฤดูแรก แต่เขามาหาพระบาอัลเปโอร์ และถวายตัวของเขาไว้แด่สิ่งอันน่าอดสูนั้น และกลายเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างสิ่งที่เขารักนั้น
11 ศักดิ์ศรีของเอฟราอิมก็จะบินไปเหมือนอย่างนก ไม่มีการคลอด ไม่มีการมีท้อง ไม่มีการตั้งครรภ์
12 ถึงแม้ว่าเขาจะเลี้ยงลูกไว้ได้จนโต เราก็จะพรากเขาไปเสียจนไม่เหลือสักคนเดียว วิบัติแก่เขา เมื่อเราพรากจากเขาไป
13 พงศ์พันธุ์ของเอฟราอิมนั้น ดังที่เราเห็น ก็ถูกกำหนดให้เป็นเหยื่อ เอฟราอิมต้องนำพงศ์พันธุ์ของตนไปมอบให้ผู้ฆ่า
14 โอ พระเจ้า เจ้าข้า ขอประทานแก่เขา พระองค์จะประทานอะไรแก่เขา ขอประทานมดลูกที่แท้งบุตร และหัวนมที่เหี่ยวแห้งแก่เขาทั้งหลาย
15 ความชั่วของเขาทุกอย่างอยู่ในกิลกาล เราเริ่มเกลียดชังเขา ณ ที่นั่น เราจะขับเขาออกไปจากนิเวศของเรา เพราะความชั่วร้ายแห่งการกระทำของเขา เราจะไม่รักเขาอีกเลย เจ้านายทั้งสิ้นของเขาก็ล้วนแต่คนกบฏ
16 เอฟราอิมถูกทำลายเสียแล้ว รากของเขาก็เหี่ยวแห้งไป เขาทั้งหลายจะไม่มีผลอีก แม้ว่าเขาจะเกิดบุตรหลาน เราก็จะฆ่าลูกหลานที่รักของเขาเสีย
17 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะเหวี่ยงเขาทิ้งไป เพราะเขาทั้งหลายมิได้เชื่อฟังพระองค์ เขาจะเป็นคนพเนจรอยู่ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
โฮเชยา 10
1 อิสราเอลเป็นเถาองุ่นงอกงาม ที่เกิดผลอุดม ยิ่งเกิดผลมากขึ้นเท่าใด ยิ่งสร้างแท่นบูชามากขึ้นเท่านั้น เมื่อประเทศของเขาเฟื่องฟูขึ้น เขาก็ยิ่งให้เสาศักดิ์สิทธิ์ของเขาเจริญขึ้น
2 จิตใจของเขาเทียมเท็จ บัดนี้เขาจึงต้องทนรับโทษของความผิด พระองค์จะทรงพังแท่นบูชาของเขาลง และทำลายเสาศักดิ์สิทธิ์ของเขาเสีย
3 คราวนี้เขาจะพูดเป็นแน่ว่า "เราไม่มีกษัตริย์ เพราะเราไม่ยำเกรงพระเจ้า หากเรามีกษัตริย์ ท่านจะทำประโยชน์อะไรให้แก่เราบ้าง"
4 เขาพูดพล่อยๆ เขาทำพันธสัญญาด้วยคำสาบานลมๆแล้งๆ การพิพากษาจึงงอกงามขึ้นมาเหมือนดีหมี อยู่ในร่องรอยไถที่ในทุ่งนา
5 ชาวสะมาเรียก็ตัวสั่น เพราะเหตุลูกวัวที่เบธาเวน โยมวัวจะไว้ทุกข์เพราะรูปนั้น และปฏิมากรปุโรหิตจะพิลาปเพราะรูปนั้น เพราะเหตุศักดิ์ศรีที่หมดไปจากรูปนั้น
6 เออ รูปเคารพนั้นเองก็จะต้องถูกนำไปยังอัสซีเรีย เป็นบรรณาการแก่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ เอฟราอิมจะได้รับความอัปยศ อิสราเอลจะรู้สึกอับอายขายหน้าเหตุแผนการของเขา
7 กษัตริย์ของสะมาเรียจะพินาศ เหมือนเศษไม้ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
8 ปูชนียสถานสูงของเมืองอาเวนอันเป็นบาปของอิสราเอล จะต้องถูกทำลาย ต้นไม้และพืชที่มีหนามงอกขึ้นบนแท่นบูชาของเขา เขาจะร้องบอกกับภูเขาว่า จงปกคลุมเราไว้ และร้องบอกเนินเขาว่า จงล้มทับเราเถิด
9 โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้กระทำบาปตั้งแต่สมัยกิเบอาห์ เขายังกระทำเรื่อยมา สงครามจะไม่มาทันเขาที่ในกิเบอาห์หรือ
10 เราจะมาลงโทษทรชน ชนชาติทั้งหลายจะประชุมกันสู้เขา เมื่อเขาถูกมัดเพราะความผิดสองประการของเขา
11 เอฟราอิมเป็นโคสาวที่ได้รับการสอน มันชอบนวดข้าว เราจึงหวงคออันงามของมันไว้ แต่เราจะเอาเอฟราอิมเข้าเทียมแอก ยูดาห์ก็ต้องไถ ยาโคบต้องคราดสำหรับตนเอง
12 จงหว่านความชอบธรรมไว้สำหรับตัว จงเกี่ยวผลของความรักมั่นคง เจ้าจงไถดินที่ร้างอยู่ เพราะเป็นเวลาที่จะแสวงหาพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะเสด็จมาโปรยความรอดลงให้แก่เจ้า
13 เจ้าทั้งหลายได้ไถความชั่วมาแล้ว เจ้าทั้งหลายได้เกี่ยวความผิดบาป เจ้าได้รับประทานผลของการมุสา ด้วยเหตุว่าเจ้าวางใจในรถรบของเจ้า และในจำนวนพลรบของเจ้า
14 เหตุฉะนั้นเสียงสงครามจึงจะเกิดขึ้น ท่ามกลางชนชาติของเจ้า ป้อมปราการทั้งสิ้นของเจ้าจะถูกทำลาย อย่างกับกษัตริย์ชัลมันทำลายเมืองเบธาร์เบลในวันสงคราม พวกแม่ถูกฟาดลงอย่างยับเยินพร้อมกับลูกของนาง
15 โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เขาจะกระทำแก่เจ้าเช่นนี้แหละ เพราะความชั่วร้ายใหญ่ยิ่งของเจ้า ในเวลารุ่งเช้า กษัตริย์อิสราเอลจะถูกตัดขาดเสียหมดสิ้น
โฮเชยา 11
1 ครั้งเมื่ออิสราเอลยังเด็กอยู่เราก็รักเขา เราได้เรียกบุตรชายของเราออกมาจากอียิปต์
2 เรายิ่งเรียกเขามากเท่าใด เขายิ่งออกไปห่างจากเรามากเท่านั้น เขาถวายสัตวบูชาแก่พระบาอัล และเผาเครื่องหอมถวายแก่รูปเคารพอยู่เรื่อยไป
3 แต่เรานี่แหละสอนเอฟราอิมให้เดิน เราอุ้มเขาทั้งหลายไว้ แต่เขาหาทราบไม่ว่า เราเป็นผู้รักษาเขาให้หาย
4 เราจูงเขาด้วยสายมนุษยธรรม และด้วยปลอกแห่งความรัก เราเป็นผู้กระทำให้แอกที่ขากรรไกรของเขาเบาลง และเราก้มลงเลี้ยงเขา
5 เขาจะไม่กลับไปยังแผ่นดินอียิปต์หรือ และอัสซีเรียจะเป็นกษัตริย์ของเขา เพราะเขาปฏิเสธไม่ยอมกลับไปหาเรา
6 ดาบจะรุกรานบรรดาหัวเมืองของเขา ทำลายดาลประตูของเขาเสีย และผลาญเขาเสียเพราะแผนการของเขา
7 ประชากรของเราโน้มไปในทางที่เหินห่างจากเรา เขาจึงถูกกำหนดให้ประจำแอก ไม่มีใครจะปลดเขาให้พ้นไปได้
8 โอ เอฟราอิมเอ๋ย เราจะปล่อยเจ้าได้อย่างไร โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะโยนเจ้าไปให้ผู้อื่นได้อย่างไร เราจะปล่อยเจ้าให้เหมือนเมืองอัดมาห์ได้อย่างไร เรากระทำเจ้าให้เหมือนเมืองเศโบยิมได้อย่างไร จิตใจของเราปั่นป่วนอยู่ภายใน ความเอ็นดูของเราก็คุกรุ่นขึ้น
9 เราจะไม่ลงอาชญาตามที่เรากริ้วจัด เราจะไม่ทำลายเอฟราอิมอีก เพราะเราเป็นพระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ เราเป็นผู้บริสุทธิ์ท่ามกลางพวกเจ้า เราจะไม่เข้าในเมือง
10 เขาทั้งหลายจะติดตามพระเจ้าไป ผู้ซึ่งมีสิงหนาทดั่งราชสีห์ เออ พระองค์จะทรงเปล่งพระสุรเสียง และบุตรทั้งหลายของพระองค์ จะตัวสั่นสะท้านมาจากทิศตะวันตก
11 เขาจะตัวสั่นสะท้านมาเหมือนวิหคจากอียิปต์ และเหมือนนกพิราบจากแผ่นดินอัสซีเรีย เราจะให้เขากลับไปบ้านของเขา พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
12 เอฟราอิมได้กั้นล้อมเราไว้ด้วยความมุสา และพงศ์พันธุ์อิสราเอลล้อมเราด้วยเล่ห์ลวง และยูดาห์ยังเถลไถลไปจากพระเจ้า และจากองค์บริสุทธิ์ผู้เที่ยงธรรม
โฮเชยา 12
1 เอฟราอิมเลี้ยงตนด้วยลม และตามหาลมตะวันออกอยู่วันยังค่ำ เขาทวีความมุสาและความรุนแรง เขาทำพันธสัญญากับอัสซีเรีย และขนเอาน้ำมันไปให้อียิปต์
2 พระเจ้าทรงมีคดีกับยูดาห์ และจะลงโทษยาโคบตามการประพฤติของเขา และจะทรงทดแทนเขาตามการกระทำของเขา
3 ในครรภ์ของมารดาเขายึดส้นเท้าพี่ชายของเขา และเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่เขาก็สู้กับพระเจ้า
4 เออ เขาสู้กับทูตสวรรค์และมีชัย เขาร้องไห้และขอความเมตตา เขาพบพระเจ้าที่เบธเอล และพระเจ้าตรัสสนทนากับเขาที่นั่น
5 พระเจ้าแห่งพลโยธา พระเยโฮวาห์เป็นพระนามของพระองค์
6 "โดยพระอนุเคราะห์ของพระเจ้าเจ้าจงกลับมา ยึดความรักมั่นคงและความยุติธรรมไว้ให้มั่น และรอคอยพระเจ้าของเจ้าอยู่เสมอ"
7 เขาเป็นพ่อค้า ในมือของเขามีตราชูขี้ฉ้อ เขารักที่จะบีบบังคับ
8 เอฟราอิมได้กล่าวว่า "แท้จริงข้าพเจ้าเป็นคนมั่งมี ข้าพเจ้าหาทรัพย์เพื่อตนเอง" แต่ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาไม่พอที่จะลบล้าง ความผิดบาปที่เขาได้กระทำไว้แล้วนั้น
9 เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ตั้งแต่ครั้งแผ่นดินอียิปต์ เราจะกระทำให้เจ้าอาศัยอยู่ในเต็นท์อีก ดังในสมัยที่มีเทศกาลเลี้ยง
10 เราพูดกับบรรดาผู้เผยพระวจนะ เราให้เกิดนิมิตมากขึ้น เราให้คำอุปมาโดยทางผู้เผยพระวจนะ
11 มีความชั่วในกิเลอาดจริง เขาทั้งหลายก็เป็นอนิจจัง เขาเอาวัวผู้ถวายบูชาในกิลกาล เออ แท่นบูชาของเขาก็จะเหมือนกองหิน อยู่บนรอยไถในท้องนา
12 (ยาโคบหนีไปยังแผ่นดินอารัม อิสราเอลได้ทำงานเพื่อจะได้ภรรยาที่นั่น ท่านเลี้ยงแกะเพื่อให้ได้ภรรยา)
13 พระเจ้าทรงนำคนอิสราเอลขึ้นมาจากอียิปต์ โดยผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง พระองค์ทรงรักษาเขาไว้โดยผู้เผยพระวจนะคนหนึ่ง
14 เอฟราอิมกระทำให้พระองค์โทมนัสอย่างขมขื่น ดังนั้นพระเจ้าทรงปล่อยให้กรรมของการฆ่าคนติดอยู่กับเขา และทรงสนองเขาด้วยความอัปยศ ซึ่งเขาให้ตกกับพระองค์
โฮเชยา 13
1 เมื่อเอฟราอิมพูดด้วยตัวสั่น พระองค์ได้ทรงรับการยกย่องในอิสราเอล แต่เมื่อเอฟราอิมได้กระทำผิดด้วยพระบาอัล เขาก็ตาย
2 เดี๋ยวนี้เขายิ่งทำบาปมากขึ้น และสร้างรูปหล่อไว้สำหรับตัว เป็นรูปเคารพที่สร้างด้วยเงินตามความคิดของเขาเอง เป็นงานของช่างที่สร้างขึ้นทั้งนั้น เขากล่าวว่า จงถวายสัตวบูชาแด่สิ่งเหล่านี้ ดูเถิด มนุษย์จูบรูปลูกวัว
3 เพราะฉะนั้นเขาจึงเหมือนหมอกในเวลาเช้า หรือเหมือนน้ำค้างที่หายไปตั้งแต่เช้า เหมือนแกลบที่ลมพัดไปจากลานนวดข้าว หรือเหมือนควันที่ออกมาจากช่องลม
4 เราคือพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเจ้า ตั้งแต่ครั้งแผ่นดินอียิปต์ เจ้าทั้งหลายไม่รู้จักพระเจ้าอื่นนอกจากเรา ไม่มีผู้ช่วยอื่นใดนอกจากเรา
5 เรานี่แหละที่คุ้นเคยกับเจ้าที่ในถิ่นทุรกันดาร ในแผ่นดินที่กันดารน้ำ
6 เมื่อเขาได้รับประทานเต็มคราบแล้ว เขาก็อิ่มหนำ และจิตใจของเขาก็ผยองขึ้น เพราะฉะนั้นเขาจึงลืมเราเสีย
7 ดังนั้นเราจึงเป็นเหมือนสิงห์ต่อเขา และเราจะซุ่มคอยอยู่ตามทางอย่างเสือดาว
8 เราจะตะครุบเขาอย่างกับแม่หมีที่ถูกพรากลูก เราจะฉีกอกของเขา และจะกินเขาเสียที่นั่นอย่างสิงห์ สัตว์ป่าทุ่งจะฉีกเขา
9 โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะทำลายเจ้า ใครเล่าจะช่วยเจ้าได้
10 เดี๋ยวนี้กษัตริย์ของเจ้าอยู่ที่ไหน ที่จะช่วยเจ้าในเมืองทั้งหลายของเจ้า และผู้ปกครองของเจ้าอยู่ที่ไหน คือพวกเหล่านั้น ที่เจ้าได้กล่าวเรื่องเขาว่า "ขอตั้งกษัตริย์และเจ้านายไว้ให้แก่ข้าพเจ้า"
11 เพราะความกริ้วของเรา เราจึงให้เจ้ามีกษัตริย์ และเพราะความโกรธของเรา เราจึงเอากษัตริย์นั้นไปเสีย
12 ความผิดบาปของเอฟราอิมก็ห่อไว้ บาปของเขาก็เก็บสะสมไว้
13 การเจ็บท้องเตือนให้เขาคลอดก็มาถึงเขา แต่เขาเป็นบุตรที่เขลา ด้วยว่าถึงเวลาแล้ว เขาก็ไม่ยอมคลอดออกมา
14 ควรที่เราจะไถ่เขาให้พ้นอำนาจแดนคนตายหรือ ควรที่เราจะไถ่เขาให้พ้นความตายหรือ โอ มัจจุราชเอ๋ย วิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน โอ แดนคนตายเอ๋ย ความพินาศของเจ้าอยู่ที่ไหน ความเมตตาเอ็นดูได้ถูกบดบังไว้พ้นสายตาของเราแล้ว
15 แม้ว่าเขาจะงอกงามขึ้นท่ามกลางพี่น้อง ลมตะวันออก คือลมของพระเจ้าจะพัดมา ขึ้นมาจากถิ่นทุรกันดาร และตาน้ำของเขาจะแห้งไป และน้ำพุก็จะแห้งผาก ลมนั้นจะริบของมีค่าทั้งหมด เอาไปจากคลังของเขา
16 สะมาเรียจะรับโทษความผิดของตน เพราะได้กบฏต่อพระเจ้าของเขา เขาทั้งหลายจะล้มลงด้วยดาบ ลูกอ่อนของเขาจะถูกฟาดลงอย่างยับเยิน และหญิงมีครรภ์จะถูกผ่าท้อง
โฮเชยา 14
1 โอ อิสราเอลเอ๋ย จงกลับมาหา พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เจ้าสะดุดก็เพราะความผิดบาปของเจ้า
2 จงนำถ้อยคำมาด้วย และกลับมาหาพระเจ้า จงทูลพระองค์ว่า "ขอทรงโปรดยกความผิดบาปทั้งหมด ขอทรงรับสิ่งดี ข้าพระองค์จึงจะนำผลริมฝีปากมาถวาย
3 อัสซีเรียจะไม่ช่วยข้าพระองค์ทั้งหลาย ข้าพระองค์ทั้งหมดจะไม่ขี่ม้า ข้าพระองค์ทั้งหลายจะไม่กล่าวต่อไปว่า 'พระเจ้าของเราทั้งหลาย' แก่สิ่งที่มือของข้าพระองค์ได้สร้างขึ้น เพราะว่าในพระองค์ลูกกำพร้าพบพระกรุณาคุณ"
4 เราจะช่วยรักษาเขาให้หายจากการกลับสัตย์ของเขา เราจะรักเขาทั้งหลายด้วยเต็มใจ เพราะว่าความกริ้วของเราหันไปจากเขาแล้ว
5 เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างแก่อิสราเอล เขาจะเบิกบานอย่างดอกพลับพลึง เขาจะหยั่งรากเหมือนเลบานอน
6 กิ่งก้านของเขาจะขยายออก เขาจะงามเหมือนมะกอกเทศ และจะมีกลิ่นหอมเหมือนเลบานอน
7 เขาทั้งหลายจะกลับมาอยู่ใต้ร่มเงาของเรา เขาจะเจริญขึ้นเหมือนอุทยาน จะออกดอกเหมือนเถาองุ่น และจะมีกลิ่นเหมือนเหล้าองุ่นแห่งเลบานอน
8 เอฟราอิมต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพต่อไป เราเองเป็นผู้ตอบและดูแลเขา เราเป็นเหมือนต้นสนสามใบเขียวสด และผลของเจ้าก็ได้มาจากเรา
9 ผู้ใดที่ฉลาด ก็ให้เข้าใจสิ่งเหล่านี้เถิด ผู้ใดที่ช่างสังเกต ก็ให้เขารู้ เพราะว่าพระมรรคาของพระเจ้าก็เที่ยงตรง ผู้ชอบธรรมทั้งหลายก็เดินในทางนี้ แต่ผู้ทรยศก็สะดุดอยู่ในทางนี้
|