Christian Siam

 

 

 

 

Christian Siam - เว็บสำหรับคนอยากรู้จักพระเจ้า

 
 :: สำหรับผู้สนใจพระเจ้า ::
Christian Siam คำถาม - คำตอบ
Christian Siam พระเยซูคือใคร
Christian Siam พระเยซูเกิดจริงหรือ?
Christian Siam เราเกิดมาทำไม
Christian Siam เราตายแล้วไปไหน
Christian Siam ทฤษฎีวิวัฒนาการ...จริง?
Christian Siam เป็นคริสเตียนได้อย่างไร
Christian Siam คำพยานชีวิต

Christian Siam
H O M E
:: สำหรับคริสเตียนใหม่ ::
:: สื่อคริสเตียนออนไลน์ ::
Christian Siam มานาประจำวัน
Christian Siam เพลงจาก Youtube
 

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN

         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM
         CHRISTIAN SIAM.COM

                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN
                   CHRISTIAN



๑พงศาวดาร

1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |

16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29

1พงศาวดาร 1
1 อาดัม เสท เอโนช
2 เคนัน มาหะลาเลล ยาเรด
3 เอโนค เมธูเสลาห์ ลาเมค
4 โนอาห์ เชม ฮาม ยาเฟท
5 บุตรยาเฟท ชื่อ โกเมอร์ มาโกก มาดัย ยาวาน ทูบัล เมเชค และทิราส
6 บุตรโกเมอร์ ชื่อ อัชเคนัส ดีฟัท และโทการมาห์
7 บุตรยาวาน ชื่อ เอลีชาห์ ทารชิช คิทธิม และโรดานิม
8 บุตรฮาม ชื่อ คูช อียิปต์ พูต และคานาอัน
9 บุตรคูช ชื่อ เสบา ฮาวิลาห์ สับทา ราอามา และสับเทคา บุตรราอามา ชื่อ เชบา และเดดาน
10 คูช เป็นบิดาของนิมโรดผู้เป็นคนแรกที่แกล้วกล้าในแผ่นดินโลก
11 อียิปต์เป็นบิดาของลูดิม อานามิน เลหะบิม นัฟทูฮิม
12 ปัทรุสิม คัสลูฮิม (เป็นต้นเผ่าคนฟีลิสเตีย) และคนคัฟโทร์
13 คานาอัน เป็นบิดาของไซดอน บุตรหัวปี และเฮท
14 และคนเยบุส คนอาโมไรต์ คนเกอร์กาชี
15 คนฮีไวต์ คนอารคา และคนสินี
16 คนอารวัด คนเศเมอร์ และคนฮามัท
17 บุตรเชม ชื่อ เอลาม อัสชูร อารปัคชาด ลูด อารัม อูส ฮูล เกเธอร์ และเมเชค
18 อารปัคชาด เป็นบิดาของเชลาห์ และเชลาห์เป็นบิดาของเอเบอร์
19 บุตรชายสองคนเกิดให้แก่เอเบอร์ คนหนึ่งชื่อ เปเลก (มีการแบ่งแผ่นดินกันในสมัยของเขา) และน้องชายของเขาชื่อ โยกทาน
20 โยกทานเป็นบิดาของอัลโมดัด เชเลฟ ฮาซารมาเวท และเยราห์
21 ฮาโดรัม อุซาล และดิคลาห์
22 เอบาล อาปีมาเอล เชบา
23 โอฟีร์ ฮาวิลาห์ และโยบับ เหล่านี้เป็นบุตรโยกทาน
24 เชม อารปัคชาด เชลาห์
25 เอเบอร์ เปเลก เรอู
26 เสรุก นาโฮร์ เทราห์
27 อับราม คืออับราฮัม
28 บุตรอับราฮัม ชื่อ อิสอัค และอิชมาเอล
29 ต่อไปนี้เป็นพงศ์พันธุ์ของเขา บุตรหัวปีของอิชมาเอล คือเนบาโยท และเคดาร์ อัดเบเอล มิบสัม
30 มิชมา ดูมาห์ มัสสา ฮาดัด เทมา
31 เยทูร์ นาฟิช และเคเดมาห์ เหล่านี้เป็นบุตรของอิชมาเอล
32 บุตรเคทูราห์ ภรรยาน้อยของอับราฮัม คือนางมีศิมราน โยกชาน เมดาน มีเดียน อิชบาก และชูอาห์ และบุตรโยกชาน ชื่อ เชบา และเดดาน
33 บุตรมีเดียน ชื่อ เอฟาห์ เอเฟอร์ ฮาโนค อาบีดา และเอลดาอาห์ ทั้งสิ้นเหล่านี้เป็นเชื้อสายของเคทูราห์
34 อับราฮัมเป็นบิดาของอิสอัค บุตรอิสอัค ชื่อ เอซาว และอิสราเอล
35 บุตรเอซาว ชื่อ เอลีฟัส เรอูเอล เยอูส ยาลาม และโคราห์
36 บุตรเอลีฟัส ชื่อ เทมาน โอมาร์ เศฟี กาทาม เคนัส ทิมนาและอามาเลข
37 บุตรเรอูเอล ชื่อ นาหัท เศ-ราห์ ชัมมาห์ และมิสซาห์
38 บุตรเสอีร์ชื่อ โลทาน โชบาล ศิเบโอน อานาห์ ดีโชน เอเซอร์ และดีชาน
39 บุตรโลทาน ชื่อ โฮรี และโฮมัม และน้องสาวของโลทาน คือทิมนา
40 บุตรโชบาล ชื่อ เอลียัน มานาฮาท เอบาล เชฟี และโอนัม บุตรศิเบโอน ชื่อ อัยยาห์ และอานาห์
41 บุตรอานาห์ชื่อ ดีโชน บุตรดีโชน ชื่อ ฮัมราน เอชบาน อิธรานและเคราน
42 บุตรเอเซอร์ ชื่อ บิลฮาน ศาวาน และยาอาคาน บุตรดีโชน ชื่อ อูส และอารัน
43 ต่อไปนี้เป็นพระราชาผู้ทรงครอบครองอยู่ใน แผ่นดินเอโดม ก่อนที่มีพระราชาครอบครองอยู่เหนือคนอิสราเอล คือเบลาบุตรเบโอร์ เมืองของท่านชื่อ ดินฮาบาห์
44 เมื่อเบลาสิ้นพระชนม์ โยบับบุตรเศ-ราห์แห่งเมืองโบสราห์ได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน
45 เมื่อโยบับสิ้นพระชนม์ หุชามแห่งแผ่นดินของคนเทมาน ก็ขึ้นครอบครองแทนท่าน
46 เมื่อหุชามสิ้นพระชนม์ ฮาดัดบุตรเบดัดผู้รบชนะมีเดียน ในดินแดนโมอับ ได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน และเมืองของท่านชื่อ อาวีท
47 เมื่อฮาดัดสิ้นพระชนม์สัมลาห์แห่งเมือง มัสเรคาห์ก็ขึ้นครอบครองแทนท่าน
48 เมื่อสัมลาห์สิ้นพระชนม์ ชาอูลแห่งเมืองเรโหโบทที่แม่น้ำยูเฟรติส ได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน
49 เมื่อชาอูลสิ้นพระชนม์ บาอัลฮานันบุตรอัคโบร์ได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน
50 เมื่อบาอัลฮานันสิ้นพระชนม์ ฮาดัดได้ขึ้นครอบครองแทนท่าน และเมืองของท่านชื่อปาอี และมเหสีของท่านมีพระนามว่า เมเหทาเบล ธิดาของมัทเรด ธิดาของเมซาหับ
51 และฮาดัดก็สิ้นพระชนม์ เจ้านายของเอโดมคือเจ้าทิมนา เจ้าอาลียาห์ เจ้าเยเธท
52 เจ้าโอโฮลีบามาห์ เจ้าเอลาห์ เจ้าปิโนน
53 เจ้าเคนัส เจ้าเทมาน เจ้ามิบซาร์
54 เจ้ามักดีเอล เจ้าอิราม เหล่านี้เป็นเจ้านายของเอโดม

1พงศาวดาร 2
1 ต่อไปนี้เป็นบุตรอิสราเอล คือรูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ เศบูลุน
2 ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์
3 บุตรยูดาห์ชื่อ เอร์ โอนัน และเชลาห์ ทั้งสามคนนี้นางบัทชูวาคนคานาอันมีให้แก่ท่าน ฝ่ายเอร์บุตรหัวปีของยูดาห์นั้นชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเจ้า และพระองค์ทรงประหารท่านเสีย
4 ทามาร์บุตรสะใภ้ของท่านก็คลอดเปเรศ และเศ-ราห์ให้ท่านด้วย ยูดาห์มีบุตรชายห้าคนด้วยกัน
5 บุตรเปเรศชื่อเฮสโรน และฮามูล
6 บุตรเศ-ราห์คือศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดาราห้าคนด้วยกัน
7 บุตรคารมีชื่ออาคาน์ ผู้นำความเดือดร้อนให้แก่อิสราเอล ผู้ละเมิดในเรื่องของที่ต้องห้ามนั้น
8 และบุตรเอธานชื่ออาซาริยาห์
9 บุตรเฮสโรนซึ่งเกิดแก่ท่านนั้น คือเยราเมเอล ราม และเคลุบัย
10 รามเป็นบิดาของอัมมีนาดับ และอัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโชน เจ้านายในบุตรของยูดาห์
11 นาโชนเป็นบิดาของสัลมา สัลมาเป็นบิดาของโบอาส
12 โบอาสเป็นบิดาของโอเบด โอเบดเป็นบิดาของเจสซี
13 เจสซีเป็นบิดาของเอลีอับบุตรหัวปีของท่าน อาบีนาดับที่สอง ชิเมอาที่สาม
14 นาธันเอลที่สี่ รัดดัยที่ห้า
15 โอเซมที่หก ดาวิดที่เจ็ด
16 และพี่สาวของเขาคือเศรุยาห์ และอาบีกายิล บุตรนางเศรุยาห์ชื่ออาบีชัย โยอาบ และอาสาเฮล สามด้วยกัน
17 อาบีกายิลมีอามาสา และบิดาของอามาสาชื่อเยเธอร์ คนอิชมาเอล
18 คาเลบบุตรเฮสโรนมีบุตรกับอาซุบาห์ภรรยาของตน และกับเยรีโอท ต่อไปนี้เป็นบุตรของนาง คือเยเชอร์ โชบับ และอารโดน
19 เมื่ออาซุบาห์สิ้นชีพ คาเลบก็แต่งงานกับเอฟราธาห์ผู้มีเฮอร์ ให้แก่ท่าน
20 เฮอร์เป็นบิดาของอุรี และอุรีเป็นบิดาของเบซาเลล
21 ภายหลังเฮสโรนได้เข้าหาธิดาของมาคีร์บิดาของกิเลอาด และได้แต่งงานด้วยเมื่อท่านมีอายุหกสิบปี และนางก็มีบุตรให้ท่านชื่อเสกุบ
22 และเสกุบเป็นบิดาของยาอีร์ ผู้มีหัวเมืองยี่สิบสามหัวเมืองในแผ่นดินกิเลอาด
23 แต่จากหัวเมืองเหล่านั้นเกชูร์กับอารัมได้ยึดหัวเมืองฮาวโฮทยาอีร์ และหัวเมืองเคนาทกับบรรดาชนบทของหัวเมือง หกสิบชนบทด้วยกัน ทั้งสิ้นเหล่านี้เป็นเชื้อสายของมาคีร์บิดาของกิเลอาด
24 ภายหลังเฮสโรนสิ้นชีพในคาเลบเอฟราธาห์ แล้วอาบียาห์ภรรยาของเฮสโรนก็มีอัชฮูร์ให้แก่ เขาเป็นบิดาของเทโคอา
25 บุตรเยราเมเอลบุตรหัวปีของเฮสโรน คือราม บุตรหัวปีของท่าน บุนาห์ โอเรน โอเซม และอาหิยาห์
26 เยราเมเอลมีภรรยาอีกคนหนึ่งชื่ออาทาราห์ นางเป็นมารดาของโอนัม
27 บุตรรามบุตรหัวปีของเยราเมเอลชื่อมาอัส ยามีน และเอเคอร์
28 บุตรโอนัมชื่อชัมมัยและยาดา บุตรชัมมัย ชื่อนาดับ และอาบีชูร์
29 ภรรยาของอาบีชูร์ชื่ออาบีฮาอิล และนางมีอัคบาน และโมลิดให้ท่าน
30 บุตรนาดับชื่อเสเลด และอัปปาอิมและเสเลดได้สิ้นชีพ ไม่มีบุตร
31 บุตรอัปปาอิมชื่ออิชอี บุตรอิชอีชื่อเชชัน บุตรเชชันชื่ออัคลัย
32 บุตรยาดา น้องชายของชัมมัยชื่อเยเธอร์ และโยนาธาน และเยเธอร์สิ้นชีพไม่มีบุตร
33 บุตรโยนาธานชื่อเปเลธ และศาซา เหล่านี้เป็นเชื้อสายของเยราเมเอล
34 ฝ่ายเชชันไม่มีบุตรชายมีแต่บุตรหญิง แต่เชชันมีทาสชาวอียิปต์อยู่คนหนึ่งชื่อยารฮา
35 เชชันจึงยกบุตรหญิงของตนให้เป็นภรรยาของยารฮา ทาสของตน และนางก็มีบุตรให้เขาชื่ออัททัย
36 อัททัยเป็นบิดาของนาธัน และนาธันเป็นบิดาของศาบาด
37 ศาบาดเป็นบิดาของเอฟลาล และเอฟลาลเป็นบิดาของโอเบด
38 โอเบดเป็นบิดาของเยฮู และเยฮูเป็นบิดาของอาซาริยาห์
39 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเฮเลส และเฮเลสเป็นบิดาของเอลาอาสาห์
40 เอลาอาสาห์เป็นบิดาของสิสะมัย และสิสะมัยเป็นบิดาของชัลลูม
41 ชัลลูมเป็นบิดาของเยคามิยาห์ และเยคามิยาห์เป็นบิดาของเอลีชามา
42 บุตรคาเลบน้องชายของเยราเมเอล ชื่อมาเรชาห์บุตรหัวปีของท่าน เป็นบิดาของศีฟ บุตรมาเรชาห์ คือเฮโบรน
43 บุตรเฮโบรนชื่อโคราห์ ทัปปูวาห์ เรเคม และเชมา
44 เชมาเป็นบิดาของราฮัม ผู้เป็นบิดาของโยรเคอัม และเรเคมเป็นบิดาของชัมมัย
45 บุตรชัมมัยคือมาโอน และมาโอนเป็นบิดาของเบธซูร์
46 เอฟาห์ภรรยาน้อยของคาเลบมีฮาราน โมซาและกาเซส และฮารานเป็นบิดาของกาเซส
47 บุตรยาดัยชื่อเรเกม โยธาม เกชาน เปเลท เอฟาห์ และชาอัฟ
48 มาอาคาห์ ภรรยาน้อยของคาเลบมีเชเบอร์และทีรหะนาห์
49 นางมีชาอัฟบิดาของมัดมันนาห์ เชวาบิดาของมัคเบนาห์ และบิดาของกิเบอาด้วย บุตรหญิงของคาเลบชื่ออัคสาห์
50 เหล่านี้เป็นเชื้อสายของคาเลบ บุตรเฮอร์ บุตรหัวปีของเอฟราธาห์ ชื่อโชบาล บิดาของคีริยาทเยอาริม
51 สัลมาบิดาของเบธเลเฮม และฮาเรฟ บิดาของเบธกาเดอร์
52 โชบาลบิดาของคีริยาทเยอาริมมีบุตรอีกชื่อฮาโรเอห์ กึ่งหนึ่งของตระกูลเมนูโหท
53 และตระกูลของคีรียาทเยอาริม คือตระกูลอิทไรต์ ตระกูลปุไท ตระกูลชุมัท ตระกูลมิชรา จากคนเหล่านี้บังเกิดชาวโศราห์ และชาวเอชทาโอล
54 บุตรสัลมาคือเบธเลเฮม ชาวเนโทฟาห์ อัทโรทเบธโยอาบ และกึ่งหนึ่งของตระกูลเมนูโหท ผู้เป็นชาวโศราห์
55 ทั้งตระกูลของอาลักษณ์ซึ่งอยู่ ณ เมืองยาเบส คือตระกูลทิราไธต์ ตระกูลชิเมอี และตระกูลสุคาเหล่านี้เป็นคนเคไนต์ผู้มาจากฮัมมัท บิดาของเชื้อสายเรคาบ

1พงศาวดาร 3
1 ต่อไปนี้เป็นโอรสของดาวิดประสูติให้แก่พระองค์ ในกรุงเฮโบรน อัมโนนโอรสหัวปี พระนางอาหิโนอัม ชาวยิสเรเอลประสูติ องค์ที่สองคือดาเนียล พระนางอาบีกายิลชาวคารเมลประสูติ
2 องค์ที่สาม คืออับซาโลมพระมารดามี พระนามว่ามาอาคาห์ราชธิดาของทัลมัย พระราชาของเมืองเกชูร์ องค์ที่สี่คืออาโดนียาห์ พระมารดาทรงพระนามว่าฮักกีท
3 องค์ที่ห้าคือเชฟาทิยาห์ พระนางอาบีทัลประสูติ องค์ที่หกคืออิทเรอัม เอกลาห์มเหสีของพระองค์ประสูติ
4 ทั้งหกองค์ประสูติให้แก่พระองค์ในกรุงเฮโบรนที่นั่นพระองค์ ทรงครอบครองเจ็ดปีกับหกเดือน และพระองค์ทรงครอบครองในกรุงเยรูซาเล็มสามสิบสามปี
5 ต่อไปนี้เป็นโอรสที่ประสูติให้แก่ พระองค์ในกรุงเยรูซาเล็ม คือชิเมอา โชบับ นาธัน และซาโลมอน สี่องค์นี้พระนางบัทชูวา
6 แล้วก็มีอิบฮาร์ เอลีชามา เอลีเฟเลท
7 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย
8 เอลีชามา เอลียาดา และเอลีเฟเลท เก้าองค์ด้วยกัน
9 ทั้งสิ้นนี้เป็นโอรสของดาวิด นอกเหนือจากบุตรชายของนางสนม และทามาร์เป็นขนิษฐาของโอรส
10 โอรสของซาโลมอนคือเรโหโบอัม โอรสของเรโหโบอัมคืออาบียาห์ โอรสของอาบียาห์คืออาสา โอรสของอาสาคือเยโฮชาฟัท
11 โอรสของเยโฮชาฟัทคือโยรัม โอรสของโยรัมคืออาหัสยาห์ โอรสของอาหัสยาห์คือโยอาช
12 โอรสของโยอาชคืออามาซิยาห์ โอรสของอามาซิยาห์คืออาซาริยาห์ โอรสของอาซาริยาห์คือโยธาม
13 โอรสของโยธามคืออาหัส โอรสของอาหัสคือเฮเซคียาห์ โอรสของเฮเซคียาห์ คือมนัสเสห์
14 โอรสของมนัสเสห์คืออาโมน โอรสของอาโมนคือโยสิยาห์
15 โอรสของโยสิยาห์คือโยฮานัน โอรสหัวปี องค์ที่สองคือเยโฮยาคิม องค์ที่สามคือเศเดคียาห์ องค์ที่สี่คือชัลลูม
16 โอรสของเยโฮยาคิมคือเยโคนิยาห์ โอรสของเยโคนิยาห์คือเศเดคียาห์
17 และโอรสของเยโคนิยาห์เชลยนั้นชื่อเชอัลทิเอล โอรสของพระองค์
18 มัลคีราม เปดายาห์ เชนาสซาร์ เยคามิยาห์ โฮชามา เนดาบียาห์
19 และบุตรเปดายาห์คือเศรุบบาเบล และชิเมอี และบุตรเศรุบบาเบลคือเมชุลลาม ฮานันยาห์และน้องสาวของเขาชื่อเชโลมิท
20 ฮาชูบาห์ โอเฮล เบเรคิยาห์ ฮาสาดิยาห์ และยูชับเฮเลด ห้าคนด้วยกัน
21 บุตรของฮานันยาห์ คือปาลาติยาห์ และเยชายาห์ บุตรหลานของเรไฟยาห์ บุตรหลานของอารนัน บุตรหลานของโอบาดีห์ บุตรหลานของเชคานิยาห์
22 บุตรเชคานิยาห์คือ เชไมอาห์และบุตรเชไมอาห์คือฮัทธัช อิกาล บารียาห์ เนอารียาห์ และชาฟัทหกคนด้วยกัน
23 บุตรเนอารียาห์คือเอลีโอนัย เฮเสคียาห์ และอัสรีคัม สามคนด้วยกัน
24 บุตรเอลีโอนัยคือโฮดาวิยาห์ เอลียาชีบ เปไลยาห์ อักขูบ โยฮานัน เดไลยาห์ และอานานี เจ็ดคนด้วยกัน

1พงศาวดาร 4
1 บุตรยูดาห์คือเปเรศ เฮสโรน คารมี เฮอร์ และโชบาล
2 เรอายาห์ บุตรโชบาลเป็นบิดาของยาหาท และยาหาท เป็นบิดาของอาหุมัย และลาฮาด เหล่านี้เป็นตระกูลของชาวโศราห์
3 ต่อไปนี้เป็นบุตรบิดาของเอธาม คือยิสเรเอล อิชมา และอิดบาช และน้องสาวของเขาชื่อฮัสเซเลลโพนี
4 และเปนูเอลผู้เป็นบิดาของเกโดร์ และเอเซอร์ผู้เป็นบิดาของหุชาห์ เหล่านี้เป็นบุตรเฮอร์ บุตรหัวปีของเอฟราธาห์ผู้เป็นบิดาของเบธเลเฮม
5 อัชฮูร์บิดาของเทโคอา มีภรรยาสองคน คือเฮลาห์และนาอาราห์
6 นาอาราห์คลอด อาหุสซาม เฮเฟอร์ เทเมนี และฮาอาหัชทารีให้แก่เขาเหล่านี้เป็นบุตรนาอาราห์
7 บุตรเฮลาห์ คือเศเรท อิสฮาร์และเอทนาน
8 ฮักโขสเป็นบิดาของอานูบ โศเบบาห์และบรรดาตระกูลของอาหารเฮล บุตรฮารูม
9 ฝ่ายยาเบส เป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา มารดาของเขาเรียกชื่อเขาว่า ยาเบส กล่าวว่า "เพราะเราคลอดเขาด้วยความเจ็บปวด"
10 ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า "ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์ และขอพระหัตถ์ของพระองค์ อยู่กับข้าพระองค์ และขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บใจปวดกาย" และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ
11 เคลูบพี่ชายของชูอาห์ เป็นบิดาของเมหิร์ผู้เป็นบิดาของเอชโทน
12 เอชโทนเป็นบิดาของเบธราฟา ปาเสอาห์ และเทหินนาห์ผู้เป็นบิดาของอิรนาหาช เหล่านี้เป็นคนของเรคาห์
13 บุตรเคนัส คือโอทนีเอล และเสไรอาห์ และบุตรโอทนีเอล คือฮาธาท และเมโอโนธัย
14 เมโอโนธัยเป็นบิดาของโอฟราห์ และเสไรอาห์เป็นบิดาของโยอาบ ผู้เป็นบิดาของเกหะราชิม เพราะเขาเป็นช่างฝีมือ
15 บุตรคาเลบผู้เป็นบุตรเยฟุนเนห์คืออิรู เอลาห์และนาอัม และบุตรเอลาห์ และเคนัส
16 บุตรเยฮาลเลเลลคือศิฟ ศิฟาห์ ทิรียา และอาสาเรล
17 บุตรเอสราห์ คือเยเธอร์ เมเรดเอเฟอร์ และยาโลน และนางก็ตั้งครรภ์คลอดมิเรียม ชัมมัย และอิชบาห์บิดาของเอชเทโมอา
18 และภรรยาชาติยิวของท่านคลอดเยเรดบิดาของเกโดร์ เฮเบอร์บิดาของโสโค และเยคูธีเอลบิดาของศาโนอาห์ เหล่านี้เป็นบุตรบิทิยาห์ ธิดาของฟาโรห์ผู้ที่เมเรดได้แต่งงานด้วย
19 บุตรชายภรรยาของโฮดียาห์น้องสาวของ นาฮัมเป็นบิดาของเคอีลาห์ ผู้เป็นตระกูลเกเรม และเอชเทโมอาผู้เป็นตระกูลมาอาคาห์
20 บุตรชิโมนคืออัมโนน รินนาห์ เบนฮานัน และทิโลน บุตรอิชอี คือโศเหท และเบนโซเฮท
21 บุตรเชลาห์ผู้เป็นบุตรยูดาห์ คือเอร์ บิดาของเลคาห์ ลาอาดาห์บิดาของมาเรชาห์ และบรรดาตระกูลของผู้ทำผ้าป่านแห่งเบธชัชเบอา
22 และโยคิม และคนเมืองโคเซบา และโยอาช และสาราฟผู้ปกครองในเมืองโมอับ และกลับมายังเมืองเลเฮม (เป็นเรื่องแต่โบราณกาล)
23 คนเหล่านี้เป็นช่างหม้อ เป็นชาวเมืองเนทาอิมและเกเดราห์ ที่นั่นเขาอาศัยอยู่กับพระราชารับราชการ
24 บุตรสิเมโอนชื่อเนมูเอล ยามีน ยารีบ เศ-ราห์ และชาอูล
25 บุตรของชาอูลคือชัลลูม บุตรของชัลลูมคือมิบสัม บุตรของมิบสัม คือมิชมา
26 บุตรของมิชมาคือฮัมมูเอล บุตรของฮัมมูเอลคือศักเกอร์ บุตรของศักเกอร์คือชิเมอี
27 ชิเมอีมีบุตรชายสิบหกคนและบุตรหญิงหกคน แต่พี่น้องของชิเมอีหามีบุตรมากไม่ ตระกูลของเขาก็ไม่ทวีมากขึ้นอย่างกับคนเผ่ายูดาห์
28 เขาทั้งหลายอาศัยอยู่ในเมืองเบเออร์เชบา โมลาดาห์ ฮาซารชูอาล
29 และที่บิลฮาห์ เอเซม โทลัด
30 เบธูเอล โฮรมาห์ ศิกลาก
31 เบธมารคาโบท ฮาซารสูสิม เบธบิรี และที่ชาอาราอิม เหล่านี้เป็นหัวเมืองของเขาจนถึงดาวิดขึ้นครอบครอง
32 และชนบทของเขาทั้งหลายคือเอตาม อายิน ริมโมน โทเคน และอาชัน ห้าหัวเมือง
33 รวมอยู่กับชนบทของเขาซึ่ง อยู่รอบหัวเมืองเหล่านี้ไกลไปจนถึงเมืองบาอัล เหล่านี้เป็นภูมิลำเนาของเขา และเขามีสำมะโนครัวเชื้อสาย
34 เมโชบับ ยัมเลค โยชาห์บุตรอามาซิยาห์
35 โยเอล เยฮู บุตรโยชิบียาห์ ผู้เป็นบุตรเสไรอาห์ ผู้เป็นบุตรอาสิเอล
36 เอลีโอนัย ยาอาโคบาห์ เยโชฮายาห์ อาสายาห์ อาดีเอล เยสิมีเอล เบไนยาห์
37 ศีซา บุตรชิฟี ผู้เป็นบุตรอาโลน ผู้เป็นบุตรเยดายาห์ ผู้เป็นบุตรชิมรี ผู้เป็นบุตรเชไมอาห์
38 ท่านที่กล่าวชื่อมานี้เป็นเจ้านายในตระกูลของท่าน และครอบครัวของเขาทั้งหลายก็เพิ่มขึ้นมากมาย
39 เขาทั้งหลายได้เดินทางไปถึงทางเข้าเมืองที่เกโดร์ ถึงข้างทิศตะวันออกของที่ลุ่ม เพื่อหาทุ่งหญ้าให้ฝูงแพะแกะของเขา
40 เขาทั้งหลายก็พบทุ่งหญ้าอุดมดี และแผ่นดินนั้นก็กว้างขวางเงียบและสงบศานติ เพราะชาวเมืองที่อยู่ก่อนนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ของฮาม
41 แล้วคนเหล่านี้ซึ่งมีชื่อในสำมะโนครัว ได้เข้ามาในสมัยของเฮเซคียาห์พระราชาแห่งยูดาห์ และโจมตีเต็นท์ของเขา และพวกเมอูนิมที่พบอยู่ที่นั่น และกวาดล้างเขาเสียจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็ตั้งภูมิลำเนาอยู่ในที่ของเขา เพราะที่นั่นมีทุ่งหญ้าให้ฝูงแพะแกะของเขา
42 ส่วนหนึ่งของเขาเหล่านั้น คือส่วนคนสิเมโอนห้าร้อยคนพากันไปที่ภูเขาเสอีร์ มีประมุขชื่อเป-ลาทียาห์ เนอารียาห์ เรไฟยาห์และอุสซีเอล บุตรชายทั้งหลายของอิชอี
43 และเขาได้โจมตีคนอามาเลขส่วนที่เหลือ อยู่ซึ่งหนีรอดไป แล้วเขาทั้งหลายก็อาศัยอยู่ที่นั่นจนทุกวันนี้

1พงศาวดาร 5
1 บุตรรูเบนบุตรหัวปีของอิสราเอล (เขาเป็นบุตรหัวปีก็จริง แต่เพราะเขาได้กระทำให้ที่นอนของบิดาของเขามี มลทิน สิทธิบุตรหัวปีของเขาจึงตกอยู่กับบุตรโยเซฟผู้เป็น บุตรอิสราเอล ดังนั้นรูเบนมิได้ขึ้นทะเบียนไว้ในสำมะโนครัวเชื้อสายตามสิทธิบุตรหัวปี
2 แม้ว่ายูดาห์มีกำลังมากในพวกพี่น้องของตน และเจ้านายองค์หนึ่งก็มาจากเขา แต่สิทธิบุตรหัวปีก็ยังเป็นของโยเซฟ)
3 บุตรรูเบน บุตรหัวปีของอิสราเอล คือฮาโนค ปัลลู เฮสโรนและคารมี
4 บุตรของโยเอลคือเชไมอาห์ บุตรของเชไมอาห์คือโกก บุตรของโกกคือชิเมอี
5 บุตรของชิเมอีคือมีคาห์ บุตรของมีคาห์คือเรอายาห์ บุตรของเรอายาห์คือบาอัล
6 บุตรของบาอัลคือเบเอราห์ ผู้ซึ่งทิกลัทปิเลเสอร์ กษัตริย์เมืองอัสซีเรียได้กวาดไปเป็นเชลย ท่านเป็นเจ้านายของคนรูเบน
7 และญาติของท่านตามตระกูล เมื่อขึ้นทะเบียนสำมะโนครัวเชื้อสายไว้นั้นคือ เจ้าเยอีเอล และเศคาริยาห์
8 และเบลาบุตรอาซาสบุตรเชมา บุตรโยเอล ผู้อาศัยอยู่ในอาโรเออร์ ไกลไปถึงเมืองเนโบและบาอัลเมโอน
9 ท่านอาศัยอยู่ทางทิศตะวันออกไกลออกไปถึง ทางเข้าถิ่นทุรกันดารซึ่งอยู่ฟากข้างนี้ของแม่น้ำยูเฟรติสด้วย เพราะสัตว์เลี้ยงของเขาทวีมากขึ้นในแผ่นดินกิเลอาด
10 ในรัชกาลของซาอูลเขาทั้งหลาย ทำสงครามกับคนฮาการ์ผู้ต้องล้มตายด้วยมือของเขา เขาทั้งหลายอาศัยอยู่ในเต็นท์ของเขา ตลอดแถบตะวันออกของกิเลอาด
11 ลูกหลานของกาดอาศัยอยู่ตรงหน้าเขา ในแผ่นดินบาชานไปจนถึงเมืองสาเลคาห์
12 โยเอลเป็นเจ้า ชาฟามเป็นที่สอง ยานัย และชาฟัทในบาชาน
13 และวงศ์ญาติของเขาตามตระกูลของเขา คือมีคาเอล เมชุลลาม เชบา โยรัย ยาคาน ศิอา และเอเบอร์เจ็ดคนด้วยกัน
14 คนเหล่านี้เป็นบุตรอาบีฮาอิล ผู้เป็นบุตรหุรี ผู้เป็นบุตรยาโรอาห์ ผู้เป็นบุตรกิเลอาด ผู้เป็นบุตรมีคาเอล ผู้เป็นบุตรเยชิชัย ผู้เป็นบุตรยาโด ผู้เป็นบุตรบุส
15 อาหิเป็นบุตรอับดีเอลผู้เป็นบุตรกุนี เป็นเจ้านายในตระกูลของเขา
16 และเขาทั้งหลายอาศัยอยู่ในกิเลอาด ในบาชาน และตามหัวเมือง และในเขตทุ่งหญ้าทั้งสิ้นของชาโรน จนสุดเขต
17 คนเหล่านี้ทั้งสิ้นขึ้นทะเบียนสำมะโนครัวเชื้อสายไว้ ในรัชกาลของโยธามพระราชาแห่งยูดาห์ และในรัชกาลของเยโรโบอัมพระราชาแห่งอิสราเอล
18 คนรูเบน คนกาด และคนเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่งมีคนเก่งกล้า ผู้ถือโล่และดาบ และโก่งธนู ชำนาญศึกสี่หมื่นสี่พันเจ็ดร้อยหกสิบคน พร้อมที่จะเข้ารบ
19 เขาทำศึกกับคนฮาการ์ เยทูร์ นาฟิช และโนดับ
20 และเมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือ คนฮาการ์และพวกที่อยู่ด้วยก็ถูกมอบไว้ในมือของเขา เพราะเขาร้องทูลต่อพระเจ้าในการสงคราม และพระองค์ทรงประสาทตามคำทูลของเขา เพราะเขาทั้งหลายวางใจในพระองค์
21 เขาได้กวาดเอาฝูงสัตว์ของข้าศึกไป คืออูฐห้าหมื่นตัว แกะสองแสนห้าหมื่นตัว ลาสองพัน และคนหนึ่งแสน
22 เพราะเขาล้มตายเสียมาก ด้วยการศึกครั้งนั้นเป็นมาจากพระเจ้า และเขาทั้งหลายอาศัยอยู่ในที่ของเขาจนถูกกวาดไปเป็นเชลย
23 คนเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น เขามีมากด้วยกันตั้งแต่เมืองบาชานถึงเมืองบาอัลเฮอร์โมน เสนีร์ และภูเขาเฮอร์โมน
24 ต่อไปนี้เป็นหัวหน้าของตระกูลของเขาคือเอเฟอร์ อิชอี เอลีเอล อัสรีเอล เยเรมีย์ โฮดาวิยาห์ และยาดีเอล เป็นทแกล้วทหาร คนมีชื่อเสียงเป็นหัวหน้าตระกูลของเขา
25 แต่เขาทั้งหลายละเมิดต่อพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเขา และเล่นชู้กับบรรดาพระของชนชาติทั้งหลายแห่งแผ่นดินนั้น ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงทำลายเสียต่อหน้าเขาทั้งหลาย
26 เพราะฉะนั้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลจึงทรงเร้าจิตใจของปูล พระราชาแห่งอัสซีเรีย และจิตใจของ ทิกลัทปิเลเสอร์ พระราชาแห่งอัสซีเรีย และพระองค์ทรงกวาดเขาไปเสีย คือคนรูเบน คนกาด และคนเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่ง และพาเขาทั้งหลายมายังฮาลาห์ ฮาโบร์ ฮารา และแม่น้ำเมืองโกซาน จึงถึงทุกวันนี้

1พงศาวดาร 6
1 บุตรของเลวีคือเกอร์โชม โคฮาทและเมรารี
2 บุตรของโคฮาทชื่ออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล
3 บุตรของอัมรามคืออาโรน โมเสส และนางมีเรียม บุตรอาโรน คือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์และอิธามาร์
4 เอเลอาซาร์เป็นบิดาของฟีเนหัส ฟีเนหัสเป็นบิดาของอาบีชูวา
5 อาบีชูวาเป็นบิดาของบุคคี บุคคีเป็นบิดาของอุสซี
6 อุสซีเป็นบิดาของเศ-ราหิยาห์ เศ-ราหิยาห์เป็นบิดาของเมราโยท
7 เมราโยทเป็นบิดาของอามาริยาห์ อามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ
8 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก ศาโดกเป็นบิดาของอาหิมาอัส
9 อาหิมาอัสเป็นบิดาของอาซาริยาห์ อาซาริยาห์เป็นบิดาของโยฮานัน
10 และโยฮานันเป็นบิดาของอาซาริยาห์ (ท่านนี้แหละที่ทำหน้าที่ปุโรหิตอยู่ในพระนิเวศ ซึ่งซาโลมอนทรงสร้างในเยรูซาเล็ม)
11 อาซาริยาห์เป็นบิดาของอามาริยาห์ อามาริยาห์เป็นบิดาของอาหิทูบ
12 อาหิทูบเป็นบิดาของศาโดก ศาโดกเป็นบิดาของชัลลูม
13 ชัลลูมเป็นบิดาของฮิลคียาห์ ฮิลคียาห์เป็นบิดาของอาซาริยาห์
14 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเสไรอาห์ เสไรอาห์เป็นบิดาของเยโฮซาดัก
15 และเยโฮซาดักถูกกวาดไปเป็นเชลย เมื่อพระเจ้าได้ทรงให้ยูดาห์ และเยรูซาเล็มเข้าสู่การ ถูกกวาดไปเป็นเชลยด้วยหัตถ์ของเนบูคัดเนสซาร์
16 บุตรของเลวี คือเกอร์โชม โคฮาท และเมรารี
17 ต่อไปนี้เป็นชื่อบุตรของเกอร์โชม คือลิบนี และชิเมอี
18 บุตรของโคฮาทคืออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล
19 บุตรเมรารีคือมาห์ลีและมูชี เหล่านี้เป็นตระกูลของคนเลวีตาม พงศ์พันธุ์บิดาของเขา
20 บุตรของเกอร์โชม มีลิบนี บุตรของลิบนีคือยาหาท บุตรยาหาทคือศิมมาห์
21 บุตรศิมมาห์คือโยอาห์ บุตรโยอาห์คืออิดโด บุตรอิดโด คือเศ-ราห์ บุตรเศ-ราห์คือเยอาเธรัย
22 บุตรโคฮาทคืออัมมีนาดับ บุตรอัมมีนาดับคือโคราห์ บุตรโคราห์คืออัสสีร์
23 บุตรอัสสีร์คือเอลคานาห์ บุตรเอลคานาห์คือเอบียาสาฟ บุตรเอบียาสาฟ คืออัสสีร์
24 บุตรอัสสีร์คือทาหัท บุตรทาหัท คืออุรีเอล บุตรอุรีเอลคืออุสซียาห์ บุตรอุสซียาห์คือชาอูล
25 บุตรเอลคานาห์คืออามาสัยและอาหิโมท
26 บุตรเอลคานาห์คือโศฟัย บุตรโศฟัย คือนาหัท
27 บุตรนาหัทคือเอลีอับ บุตรเอลีอับคือเยโรฮัม บุตรเยโรฮัมคือเอลคานาห์
28 บุตรซามูเอลคือโยเอลบุตรหัวปีของเขา คนที่สองอาบียาห์
29 บุตรเมรารีคือมาห์ลี บุตรมาห์ลีคือลิบนี บุตรลิบนีคือชิเมอี บุตรชิเมอีคืออุสซาห์
30 บุตรอุสซาห์คือชิเมอี บุตรชิเมอีคือฮักกียาห์ บุตรฮักกียาห์คืออาสายาห์
31 เหล่านี้เป็นบุคคลที่ดาวิดทรงแต่งตั้งให้ ดูแลการร้องเพลงในพระนิเวศของพระเจ้า หลังจากที่หีบพันธสัญญามาตั้งอยู่ที่นั่นแล้ว
32 เขาทั้งหลายทำการปรนนิบัติด้วยเพลง ข้างหน้าพลับพลาเต็นท์นัดพบ จนซาโลมอนได้ทรงสร้างพระนิเวศของพระเจ้าในเยรูซาเล็ม และเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ของเขาตามตำแหน่ง
33 ต่อไปนี้เป็นบุคคลที่ปฏิบัติงานอยู่พร้อมกับบุตรของเขา พวกบุตรคนโคฮาทคือเฮมาน นักร้องผู้เป็นบุตรโยเอล ผู้เป็นบุตรซามูเอล
34 ผู้เป็นบุตรเอลคานาห์ ผู้เป็นบุตรเยโรฮัม ผู้เป็นบุตรเอลีเอล ผู้เป็นบุตรโทอาห์
35 ผู้เป็นบุตรศูฟ ผู้เป็นบุตรเอลคานาห์ ผู้เป็นบุตรมาฮาท ผู้เป็นบุตรอามาสัย
36 ผู้เป็นบุตรเอลคานาห์ ผู้เป็นบุตรโยเอล ผู้เป็นบุตรอาซาริยาห์ ผู้เป็นบุตรเศฟันยาห์
37 ผู้เป็นบุตรทาหัท ผู้เป็นบุตรอัสสีร์ ผู้เป็นบุตรเอบียาสาฟ ผู้เป็นบุตรโคราห์
38 ผู้เป็นบุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรโคฮาท ผู้เป็นบุตรเลวี ผู้เป็นบุตรอิสราเอล
39 กับอาสาฟพี่น้องของเขา ผู้ซึ่งยืนอยู่ข้างขวามือของเขา คืออาสาฟบุตรเบเรคิยาห์ ผู้เป็นบุตรชิเมอา
40 ผู้เป็นบุตรมีคาเอล ผู้เป็นบุตรของบาอาเสยาห์ ผู้เป็นบุตรมัลคิยาห์
41 ผู้เป็นบุตรเอทนี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ ผู้เป็นบุตรอาดายาห์
42 ผู้เป็นบุตรเอธาน ผู้เป็นบุตรศิมมาห์ ผู้เป็นบุตรชิเมอี
43 ผู้เป็นบุตรยาหาท ผู้เป็นบุตรเกอร์โชม ผู้เป็นบุตรเลวี
44 ที่ข้างซ้ายมือมีบุตรของเมรารี พี่น้องของเขา คือเอธานผู้เป็นบุตรคีชี ผู้เป็นบุตรอับดี ผู้เป็นบุตรมัลลูค
45 ผู้เป็นบุตรฮาชาบิยาห์ ผู้เป็นบุตรอามาซิยาห์ ผู้เป็นบุตรฮิลคียาห์
46 ผู้เป็นบุตรอัมซี ผู้เป็นบุตรบานี ผู้เป็นบุตรเชเมอร์
47 ผู้เป็นบุตรมาห์ลี ผู้เป็นบุตรมูชี ผู้เป็นบุตรเมรารี ผู้เป็นบุตรเลวี
48 และคนเลวีพี่น้องของเขา ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานทุกอย่างของพลับพลา ของพระนิเวศของพระเจ้า
49 แต่อาโรนกับ บุตรชายของท่านถวายเครื่องบูชาบนแท่นเครื่องเผาบูชา และบนแท่นเครื่องหอม และปฏิบัติงานในอภิสุทธิสถาน และกระทำการลบมลทินบาปของอิสราเอล ตามอย่างที่โมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้าได้บัญชาไว้
50 ต่อไปนี้เป็นบุตรอาโรน คือเอเลอาซาร์ บุตรของเอเลอาซาร์ คือฟีเนหัส บุตรของฟีเนหัส คืออาบีชูวา
51 บุตรอาบีชูวาคือบุคคี บุตรของบุคคี คืออุสซี บุตรของอุสซีคือเศ-ราหิยาห์
52 บุตรของเศ-ราหิยาห์คือเมราโยท บุตรของเมราโยทคืออามาริยาห์ บุตรอามาริยาห์คืออาหิทูบ
53 บุตรอาหิทูบคือศาโดก บุตรศาโดกคืออาหิมาอัส
54 ต่อไปนี้เป็นที่อาศัยของเขาตาม ภูมิลำเนาในเขตแดนของเขา คือพงศ์พันธุ์ของอาโรนตระกูลคนโคฮาท (เพราะฉลากตกเป็นของเขาก่อน)
55 เขาได้รับเมืองเฮโบรนในแผ่นดินยูดาห์ และทุ่งหญ้าซึ่งอยู่ล้อมรอบนั้น
56 แต่ทุ่งนา และตามชนบทของเมืองนั้น เขายกให้แก่คาเลบบุตรเยฟุนเนห์
57 เขาให้เมืองลี้ภัยแก่พงศ์พันธุ์ของอาโรน คือเมืองเฮโบรน เมืองลิบนาห์ กับทุ่งหญ้าเมืองยาททีร์ เมืองเอชเทโมอากับทุ่งหญ้า
58 ฮีเลนพร้อมกับทุ่งหญ้า เดบีร์พร้อมกับทุ่งหญ้า
59 อาชานพร้อมกับทุ่งหญ้า และเบธเชเมช พร้อมกับทุ่งหญ้า
60 และจากดินแดนเผ่าเบนยามินก็มอบเมืองเกบาพร้อมกับทุ่งหญ้า อาเลเมทพร้อมกับทุ่งหญ้า และอานาโธทพร้อมกับทุ่งหญ้า หัวเมืองทั้งสิ้นของเขาทุกตระกูลเป็นสิบสามหัวเมืองด้วยกัน
61 ส่วนคนโคฮาทที่เหลืออยู่นั้นได้รับ ส่วนมอบโดยฉลากที่ได้จากตระกูลของเผ่า จากเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่งมีสิบหัวเมือง
62 และมอบสิบสามหัวเมืองจากเผ่าอิสสาคาร์ เผ่าอาเชอร์ เผ่านัฟทาลี และจากเผ่ามนัสเสห์ในบาชานให้แก่คนเกอร์โชม ตามตระกูลของเขา
63 และมอบสิบสองหัวเมืองจากเผ่ารูเบน เผ่ากาด และเผ่าเศบูลุนให้แก่คนเมรารี ตามตระกูลของเขา
64 ดังนี้แหละประชาชนอิสราเอลได้มอบหัวเมืองพร้อมกับ ทุ่งหญ้าให้แก่คนเลวี
65 และคนอิสราเอลได้จับฉลากให้หัวเมืองจากเผ่ายูดาห์ เผ่าสิเมโอน และเผ่าเบนยามิน ตามที่กล่าวชื่อไว้นั้นด้วย
66 และตระกูลคนโคฮาทบางตระกูลมี หัวเมืองอันเป็นดินแดนของเขาจากเผ่าเอฟราอิม
67 คนอิสราเอลได้ให้หัวเมืองลี้ภัย คือเมืองเชเคมพร้อมกับทุ่งหญ้าในถิ่นภูเขาเอฟราอิม เมืองเกเซอร์พร้อมกับทุ่งหญ้า
68 เมืองโยกเมอัมพร้อมกับทุ่งหญ้า เมืองเบธโฮโรนพร้อมกับทุ่งหญ้า
69 เมืองอัยยาโลนพร้อมกับทุ่งหญ้า เมืองกัทริมโมน พร้อมกับทุ่งหญ้า
70 และมอบเมืองจากเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่ง คือเมืองอาเนอร์พร้อมกับทุ่งหญ้า เมืองบิเลอัมพร้อมกับทุ่งหญ้าให้แก่ตระกูลคนโคฮาทที่เหลืออยู่
71 ดินแดนของมนัสเสห์กึ่งเผ่าที่มอบให้แก่คนเกอร์โชม คือโกลานในเมืองบาชานพร้อมกับทุ่งหญ้า และอัชทาโรท พร้อมกับทุ่งหญ้า
72 และจากเผ่าอิสสาคาร์ คือเมืองเคเดชพร้อมกับทุ่งหญ้า เมืองดาเบรัทพร้อมกับทุ่งหญ้า
73 และราโมทพร้อมกับทุ่งหญ้าและอาเนมพร้อมกับทุ่งหญ้า
74 จากเผ่าอาเชอร์ คือมาชาล พร้อมกับทุ่งหญ้า ฮับโดนพร้อมกับทุ่งหญ้า
75 หุกอกพร้อมกับทุ่งหญ้า และเรโหบพร้อมกับทุ่งหญ้า
76 และจากเผ่านัฟทาลี คือเคเดชในกาลิลีพร้อมกับทุ่งหญ้า ฮัมโมนพร้อมกับทุ่งหญ้า คีริยาธาอิมพร้อมกับทุ่งหญ้า
77 ส่วนคนเมรารีที่เหลืออยู่นั้นได้รับจากเผ่าเศบูลุน คือริมโมโนพร้อมกับทุ่งหญ้า ทาโบร์พร้อมกับทุ่งหญ้า
78 และฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้นที่เยรีโค คือฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนนั้น จากเผ่ารูเบน คือเบเซอร์ในถิ่นทุรกันดาร พร้อมกับทุ่งหญ้า ยาซาห์พร้อมกับทุ่งหญ้า
79 เคเดโมทพร้อมกับทุ่งหญ้า และเมฟาอาทพร้อมกับทุ่งหญ้า
80 และจากเผ่ากาด คือราโมทในกิเลอาดพร้อมกับทุ่งหญ้า มาหะนาอิมพร้อมกับทุ่งหญ้า
81 เฮสโบนพร้อมกับทุ่งหญ้า ยาเซอร์พร้อมกับทุ่งหญ้า

1พงศาวดาร 7
1 บุตรอิสสาคาร์ คือโทลา ปูอาห์ ยาชูบ และชิมโรน สี่คนด้วยกัน
2 บุตรโทลาคืออุสซี เรไฟยาห์ เยรีเอล ยามัย ยิบสัม และเชมูเอล หัวหน้าตระกูลของเขา คือของโทลาเป็นทแกล้วทหารของชาติพันธุ์ของเขา และจำนวนของคนเหล่านี้ในรัชสมัยของดาวิด เป็นสองหมื่นสองพันหกร้อยคน
3 บุตรอุสซีคือ อิสราหิยาห์ และบุตรอิสราหิยาห์ คือมีคาเอล โอบาดีห์ โยเอล และอิสชีอาห์ ห้าคนด้วยกันทุกคนเป็นคนชั้นหัวหน้า
4 และพร้อมกับคนเหล่านี้ตามชาติพันธุ์ของเขา ตามตระกูลของเขา มีหน่วยทหารศึกสามหมื่นหกพันคน เพราะเขามีภรรยาและบุตรมาก
5 ญาติพี่น้องของเขาซึ่งเป็นคนในบรรดา ตระกูลของอิสสาคาร์ มีหมดด้วยกันเป็นทแกล้วทหารแปดหมื่นเจ็ดพันคน ขึ้นทะเบียนไว้ในสำมะโนครัวเชื้อสาย
6 บุตรเบนยามินคือเบลา เบเคอร์ และเยดียาเอล สามคนด้วยกัน
7 บุตรเบลา คือเอสโบน อุสซี อุสซีเอล เยรีโมท และอิรี ห้าคนด้วยกัน เป็นหัวหน้าของตระกูล เป็นทแกล้วทหารและจำนวนที่ขึ้น ทะเบียนไว้ในสำมะโนครัวเชื้อสายของเขา เป็นสองหมื่นสองพันสามสิบสี่คน
8 บุตรเบเคอร์คือเศมิราห์ โยอาช เอลีเยเซอร์ เอลีโอนัย อมรี เยเรโมท อาบียาห์ อานาโธท และอาเลเมท ทั้งหมดนี้เป็นบุตรเบเคอร์
9 และจำนวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ในสำมะโนครัวเชื้อสาย ตามชาติพันธุ์เป็นหัวหน้าตระกูลของเขา เป็นทแกล้วทหาร เป็นสองหมื่นสองร้อยคน
10 บุตรเยดียาเอล คือบิลฮาน และบุตรบิลฮาน คือเยอูช เบนยามิน เอฮูด เคนาอะนาห์ เศธาน ทารชิช และอาหิชาฮาร์
11 ทั้งหมดนี้เป็นบุตรเยดียาเอลตามหัวหน้าตระกูลของเขา เป็นทแกล้วทหาร เป็นหนึ่งหมื่นเจ็ดพันสองร้อยคน พร้อมที่จะรับราชการสงคราม
12 และชุปปิม และหุปปิม เป็นบุตรอิระ หุชิมบุตรอาเฮอร์
13 บุตรของนัฟทาลี คือยาซีเอล กุนี เยเซอร์ และชัลลูม พงศ์พันธุ์ของนางบิลฮาห์
14 บุตรมนัสเสห์ คืออัสรีเอล ซึ่งภรรยาน้อยชาวอารัมมี นางมีมาคีร์บิดาของกิเลอาด
15 มาคีร์ก็รับภรรยาจากหุปปิม และชุปปิม พี่สาวของเขาชื่อมาอาคาห์ และคนที่สองชื่อเศโลเฟหัด และเศโลเฟหัดมีบุตรหญิง
16 และมาอาคาห์ภรรยาของมาคีร์มีบุตรชายคนหนึ่ง นางเรียกเขาว่า เปเรช และน้องชายของเขาชื่อเชเรช และบุตรของเขาชื่อ อุลาม และราเคม
17 บุตรอุลามคือเบดาน เหล่านี้เป็นบุตรกิเลอาด ผู้เป็นบุตรมาคีร์ ผู้เป็นบุตรมนัสเสห์
18 และฮัมโมเลเคทน้องสาวของเขามีอิชโฮด อาบีเยเซอร์ และมาลาห์
19 บุตรเชมิดา คืออาหิยัน เชเคม ลิคฮี และอานียัม
20 บุตรเอฟราอิมคือชูเธลาห์ และบุตรของชูเธลาห์คือเบเรด บุตรของเบเรดคือทาหัท บุตรของทาหัทคือเอเลอาดาห์ บุตรของเอเลอาดาห์คือทาหัท
21 บุตรของทาหัท คือศาบาด บุตรของศาบาดคือชูเธลาห์ กับเอเซอร์ และเอเลอัดซึ่งคนของกัทผู้ที่เกิดในเมืองนั้นได้ฆ่าเสีย เพราะเขาทั้งหลายลงมาปล้นสัตว์เลี้ยงของเขา
22 และเอฟราอิมบิดาของเขาไว้ทุกข์โศกเศร้าเป็นหลายวัน และพี่น้องของเขาก็มาเล้าโลมเขา
23 และเอฟราอิมก็เข้าไปหาภรรยา และนางก็ตั้งครรภ์มีบุตรชายคนหนึ่ง และท่านเรียกชื่อเขาว่า เบรียาห์ เพราะเหตุชั่วร้ายตกอยู่กับเรือนของเขา
24 บุตรหญิงของเขาชื่อ เชเอราห์ ผู้ซึ่งสร้างเมืองเบธโฮโรนล่างและบน และเมืองอุสเซนเชเอราห์
25 เอฟราอิมมีบุตรชื่อเรฟาห์ บุตรเรฟาห์ คือเรเชฟ บุตรเรเชฟ คือเทลาห์ บุตรเทลาห์คือทาหาน
26 บุตรทาหานคือลาดาน บุตรลาดานคืออัมมีฮูด บุตรอัมมีฮูดคือเอลีชามา
27 บุตรเอลีชามาคือนูน บุตรนูนคือโยชูวา
28 ที่ดินกรรมสิทธิ์และภูมิลำเนาของเขา คือเบธเอลพร้อมกับบรรดาหัวเมืองและนาอารันด้านตะวันออก และเกเซอร์ ด้านตะวันตก พร้อมกับบรรดาหัวเมืองเชเคมพร้อม กับบรรดาหัวเมืองและอัยยาห์พร้อมกับบรรดาหัวเมือง
29 และตามพรมแดนของคนมนัสเสห์ มีเมืองเบธชานพร้อมกับบรรดาหัวเมือง ทาอานาคพร้อมกับบรรดาหัวเมือง เมกิดโดพร้อมกับบรรดาหัวเมือง โดร์พร้อมกับบรรดาหัวเมือง พงศ์พันธุ์โยเซฟบุตรอิสราเอลได้อาศัยอยู่ในที่เหล่านี้
30 บุตรอาเชอร์คืออิมนาห์ อิชวาห์ อิชวี เบรียาห์ และเสราห์น้องสาวของเขา
31 บุตรเบรียาห์คือเฮเบอร์และมัลคีเอล ผู้เป็นบิดาของบิรซาวิธ
32 เฮเบอร์เป็นบิดาของยาเฟล็ท โชเมอร์ โฮธามและชูวาน้องสาวของเขา
33 บุตรยาเฟล็ท คือปาสัค บิมฮาล และอัชวาท เหล่านี้เป็นบุตรยาเฟล็ท
34 บุตรเชเมอร์น้องชายของเขา คือโรกาห์ เยฮุบบาห์ และอารัม
35 บุตรเฮเลมน้องชายของเขา คือโศฟาห์ อิมนา เชเลช และอามัล
36 บุตรโศฟาห์ คือสุอาห์ ฮารเนเฟอร์ ชูอัล เบรี อิมราห์
37 เบเชอร์ โฮด ชัมมา ชิลชาห์ อิธราน และเบโอรา
38 บุตรเยเธอร์ คือเยฟุนเนห์ ปิสปา และอารา
39 บุตรอุลลา คืออาราห์ ฮันนีเอล และรีเซีย
40 ทั้งสิ้นเหล่านี้เป็นคนของอาเชอร์ หัวหน้าตระกูลของเขาเป็นทแกล้วทหารที่คัดเลือกไว้ เป็นเจ้านายใหญ่จำนวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ใน สำมะโนครัวเชื้อสาย เพื่อเข้ารับราชการสงครามเป็นสองหมื่นหกพันคน

1พงศาวดาร 8
1 เบนยามินเป็นบิดาของเบ-ลาบุตรหัวปีของเขา อัชเบลคนที่สอง อาหะราห์คนที่สาม
2 โนฮาห์คนที่สี่ ราฟาคนที่ห้า
3 และเบ-ลามีบุตรคืออัดดาห์ เก-รา อาบีฮูด
4 อาบีชูวา นาอามาน อาโหอาห์
5 เก-รา เชฟูฟาน และหุราม
6 ต่อไปนี้เป็นบุตรเอฮูด (เขาทั้งหลายเป็นหัวหน้าบรรดาตระกูลที่เป็นชาวเมืองเกบา และเขาถูกกวาดไปเป็นเชลยยังเมืองมานาฮาท)
7 คือนาอามาน อาหิยาห์ และเก-รา เขาทั้งหลายถูกกวาดไปเป็นเชลย และท่านเป็นบิดาของอุสซา และอาหิฮูด
8 และชาหะราอิมมีบุตรชายในดินแดนโมอับ ภายหลังจากที่เขาได้ไล่หุชิมและบาอารา ภรรยาของเขาไปแล้ว
9 เขามีบุตรกับโฮเดชภรรยาของเขา คือโยบับ ศิเบีย เมชา มัลคาม
10 เยอูส สาเคีย และมิรมาห์ เหล่านี้เป็นบุตรของเขาเป็นหัวหน้าตระกูลของเขา
11 เขามีบุตรกับหุชิมด้วย คืออาบีทูบและเอลปาอัล
12 บุตรเอลปาอัล คือเอเบอร์ มิชอัม และเชเมด ผู้สร้างเมืองโอโน และเมืองโลดพร้อมกับหัวเมือง
13 และเบรียาห์ และเชมา (เขาทั้งหลายเป็นหัวหน้าบรรดาตระกูลที่เป็นชาวเมืองอัยยาโลน ผู้ซึ่งขับไล่ชาวเมืองกัทไปเสียนั้น)
14 และอาหิโย ชาชัก และเยเรโมท
15 เศบาดิยาห์ อาราด เอเดอร์
16 มีคาเอล อิชปาห์ และโยฮา เป็นบุตรเบรียาห์
17 เศบาดิยาห์ เมชุลลาม ฮิสคี เฮเบอร์
18 อิชเมรัย อิสลิยาห์ และโยบับเป็นบุตรเอลปาอัล
19 ยาคิม ศิครี ศับดี
20 เอลีเยนัย ศิลเลธัย เอลีเอล
21 อาดายาห์ เบไรอาห์ และชิมราท เป็นบุตรชิเมอี
22 อิชปาน เอเบอร์ เอลีเอล
23 อับโดน ศิครี ฮานาน
24 ฮานันยาห์ เอลาม อันโธธียาห์
25 อิฟไดยาห์ และเปนูเอล เป็นบุตรชาชัก
26 ชัมเชรัย เชหะรียาห์ อาธาลิยาห์
27 ยาอาเรชียาห์ เอลียาห์ และศีครี เป็นบุตรเยโรฮัม
28 คนเหล่านี้เป็นหัวหน้าตระกูลของเขา ตามชาติพันธุ์ของเขา เป็นชั้นหัวหน้า คนเหล่านี้อยู่ในเยรูซาเล็ม
29 และในกิเบโอนก็มีบิดาของกิเบโอนอาศัยอยู่ และภรรยาของท่านชื่อ มาอาคาห์
30 บุตรหัวปีของท่านชื่อ อับโดน แล้วก็มี ศูร์ คีช บาอัล นาดับ
31 เกโดร์ อาหิโย เศเคอร์
32 และมิกโลท (เขาเป็นบิดาของชิเมอาห์) คนเหล่านี้อาศัยอยู่ตรงข้ามกับญาติของเขาในเยรูซาเล็มด้วย เขาอยู่กับญาติของเขา
33 เนอร์เป็นบิดาของคีช คีชเป็นบิดาของซาอูล ซาอูลเป็นบิดาของโยนาธาน มัลคีชูวา อาบีนาดับ และเอชบาอัล
34 และบุตรโยนาธานคือเมริบบาอัล และเมริบบาอัลเป็นบิดาของมีคาห์
35 บุตรมีคาห์คือปีโธน เมเลค ทาเรีย และอาหัส
36 และอาหัสเป็นบิดาของเยโฮอัดดาห์ และเยโฮอัดดาห์เป็นบิดาของอาเลเมท อัสมาเวท และศิมรี ศิมรีเป็นบิดาของโมซา
37 โมซาเป็นบิดาของบิเนอา บุตรบิเนอาคือราฟาห์ บุตรราฟาห์ คือเอเลอาสาห์ บุตรเอเลอาสาห์คืออาเซล
38 อาเซลมีบุตรหกคน และต่อไปนี้เป็นชื่อของเขา อัสรีคัม โบเครู อิชมาเอล เชอาริยาห์ โอบาดีย์ และฮานัน ทั้งหมดนี้เป็นบุตรอาเซล
39 บุตรเอเชกน้องชายของเขา คืออุลามบุตรหัวปีของเขา เยอูชคนที่สอง และเอลีเฟเลทคนที่สาม
40 บุตรชายอุลามเป็นคนที่เป็นทแกล้วทหาร นักธนู มีลูกหลานมากหนึ่งร้อยห้าสิบคน คนเหล่านี้ทั้งสิ้นเป็นพงศ์พันธุ์เบนยามิน

1พงศาวดาร 9
1 ดังนั้นอิสราเอลทั้งปวงได้ขึ้นทะเบียนไว้ในสำมะโนครัว เชื้อสายและทะเบียนนี้ก็บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดาร กษัตริย์แห่งอิสราเอล และยูดาห์ก็ถูกกวาดไปเป็นเชลยในบาบิโลน เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเขา
2 ฝ่ายพวกแรกที่เข้ามาอาศัยในที่กรรมสิทธิ์ของเขาอีก ในบรรดาหัวเมืองของเขานั้นคืออิสราเอล พวกปุโรหิต พวกเลวี และพวกคนใช้ประจำพระวิหาร
3 และในเยรูซาเล็มมีประชาชนบางคนในพวกยูดาห์ พวกเบนยามิน พวกเอฟราอิม และพวกมนัสเสห์ ได้อาศัยอยู่
4 คืออุธัยเป็นบุตรอัมมีฮูด ผู้เป็นบุตรอมรี ผู้เป็นบุตรอิมรี ผู้เป็นบุตรบานีในพวกบุตรเปเรศ ผู้เป็นบุตรยูดาห์
5 และจากคนชิโลห์ คืออาสายาห์บุตรหัวปี และบุตรของเขา
6 จากบุตรเศ-ราห์ คือเยอูเอล กับญาติของเขาเป็นหกร้อยเก้าสิบคน
7 จากพงศ์พันธุ์เบนยามิน คือสัลลูผู้เป็นบุตรเมชุลลาม เป็นบุตรโฮดาวิยาห์ ผู้เป็นบุตรหัสเสนูอาห์
8 อิบเนยาห์บุตรเยโรฮัม เอลาห์บุตรอุสซี ผู้เป็นบุตรมิครี และเมชุลลามบุตรเชฟาทิยาห์ ผู้เป็นบุตรเรอูเอล ผู้เป็นบุตรอิบนียาห์
9 และญาติของเขาตามชาติพันธุ์ของเขาเป็น เก้าร้อยห้าสิบหกคน ทั้งสิ้นนี้เป็นหัวหน้าตระกูลตามตระกูลของเขา
10 จากพวกปุโรหิต มีเยดายาห์ เยโฮยาริบ ยาคีน
11 และอาซาริยาห์ ผู้เป็นบุตรฮิลคียาห์ ผู้เป็นบุตรเมชุลลาม ผู้เป็นบุตรศาโดก ผู้เป็นบุตรเมราโยท ผู้เป็นบุตรอาหิทูบ เจ้าหน้าที่ปกครองของพระนิเวศแห่งพระเจ้า
12 และอาดายาห์ผู้เป็นบุตรเยโรฮัม ผู้เป็นบุตรปาชเฮอร์ ผู้เป็นบุตรมัลคิยาห์และมาอาสัย ผู้เป็นบุตรอาดีเอล ผู้เป็นบุตรยาเซราห์ ผู้เป็นบุตรเมชุลลาม ผู้เป็นบุตรเมชิลเลมิท ผู้เป็นบุตรอิมเมอร์
13 และญาติของเขา หัวหน้าตระกูลของเขา รวมเป็นหนึ่งพันเจ็ดร้อยหกสิบคน เป็นคนสามารถมากที่จะทำงาน ปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า
14 จากคนเลวี มีเชไมอาห์ผู้เป็นบุตรหัสชูบ ผู้เป็นบุตรอัสรีคัม ผู้เป็นบุตรฮาซาบิยาห์เชื้อสายของเมรารี
15 กับบัคบัคคาร์ เฮเรช กาลาล และมัทธานิยาห์ ผู้เป็นบุตรมีคา ผู้เป็นบุตรศิครี ผู้เป็นบุตรอาสาฟ
16 และโอบาดีห์ ผู้เป็นบุตรเชไมอาห์ ผู้เป็นบุตรกาลาล ผู้เป็นบุตรเยดูธูน และเบเรคยาห์ผู้เป็นบุตรอาสา ผู้เป็นบุตรเอลคานาห์ ผู้อาศัยอยู่ในชนบทของชาวเนโทฟาห์
17 ผู้เฝ้าประตู คือชัลลูม อักขูบ ทัลโมน อาหิมาน และญาติของเขา (ชัลลูมเป็นหัวหน้า)
18 ประจำอยู่จนบัดนี้ที่พระทวารของ พระราชาทางด้านตะวันออก คนเหล่านี้เป็นผู้เฝ้าประตูค่ายของคนเลวี
19 ชัลลูมเป็นบุตรโคเรผู้เป็นบุตรเอลียาสาฟ ผู้เป็นบุตรโคราห์ และญาติในตระกูลของเขา คือคนโคราห์ เป็นผู้ดูแลการงานปรนนิบัติ เป็นผู้เฝ้าธรณีประตูของเต็นท์ ดังบรรพบุรุษของเขาเป็นผู้ดูแลค่ายของพระเจ้า เป็นผู้ดูแลทางเข้า
20 และฟีเนหัสบุตรเอเลอาซาร์ เป็นผู้ครอบครองเหนือเขาในกาลก่อน พระเจ้าทรงสถิตกับเขา
21 เศคาริยาห์บุตรเมเชเลมิยาห์เป็นผู้เฝ้าทางเข้า ประตูเต็นท์นัดพบ
22 ผู้ถูกเลือกเป็นผู้เฝ้าประตูที่ธรณีนั้นมีสองร้อยสิบสองคน เขาขึ้นทะเบียนสำมะโนครัวเชื้อสายไว้ในชนบทของเขา ดาวิดและซามูเอลผู้ทำนายได้สถาปนาเขาไว้ใน ตำแหน่งหน้าที่
23 ดังนั้นเขาและเชื้อสายของเขา จึงเป็นผู้ดูแลประตูรั้วพระนิเวศของพระเจ้า เป็นผู้เฝ้าประตูรั้วพระนิเวศคือเต็นท์
24 ผู้ดูแลประตูรั้วอยู่ทั้งสี่ด้าน คือด้านตะวันออก ตะวันตก เหนือ และใต้
25 และญาติของเขาซึ่งอยู่ในชนบทของเขาต้องเข้ามาทุกๆ เจ็ดวันตามเวลากำหนด เพื่อจะอยู่กับคนเหล่านี้
26 เพราะนายประตูรั้วทั้งสี่คน ผู้เป็นพวกเลวีนั้น มีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้ดูแลห้องและคลังของ พระนิเวศแห่งพระเจ้า
27 และเขาพักอาศัยอยู่รอบพระนิเวศของพระเจ้า เพราะหน้าที่เฝ้าตกอยู่กับเขา และเขามีหน้าที่เปิดทุกเช้า
28 บางคนเป็นคนดูแลเครื่องใช้ในการปรนนิบัติ เพราะว่าจะเบิกออกไปหรือส่งเข้ามาต้องนับทุกครั้ง
29 และบางคนถูกแต่งตั้งให้ดูแลเครื่องใช้และดูแล เครื่องใช้บริสุทธิ์ทั้งสิ้น ดูแลยอดแป้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน กำยาน และเครื่องเทศ
30 และบางคนซึ่งเป็นเชื้อสายของปุโรหิต ก็เตรียมเครื่องเทศประสม
31 และมัททีธิยาห์คนเลวีคนหนึ่ง ผู้เป็นบุตรหัวปีของชัลลูม คนโคราห์มีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้ดูแลสิ่งที่ปิ้งในถาด
32 และญาติของเขาบางคนซึ่งเป็นคนโคฮาทเป็นผู้ ดูแลขนมตั้งถวาย มีหน้าที่จัดเตรียมทุกวันสะบาโต
33 ต่อไปนี้เป็นนักร้อง คือหัวหน้าตระกูลคนเลวี ผู้อาศัยอยู่ในห้องในพระวิหารไม่ต้องทำการปรนนิบัติอย่างอื่น เพราะเขาอยู่เวรทั้งกลางวันและกลางคืน
34 คนเหล่านี้เป็นหัวหน้าตระกูลแห่งคนเลวี ตามชาติพันธุ์ของเขาเป็นชั้นหัวหน้า คนเหล่านี้ อาศัยอยู่ที่เยรูซาเล็ม
35 ในกิเบโอนนั้นเยอีเอลบิดาของกิเบโอนอาศัยอยู่ และภรรยาของท่านชื่อมาอาคาห์
36 และบุตรชายหัวปีของท่านชื่ออับโดน แล้วก็มี ศูร์ คีช บาอัล เนอร์ นาดับ
37 เกโดร์ อาหิโย เศคาริยาห์ และมิกโลท
38 และมิกโลท เป็นบิดาของชิเมอัม และคนเหล่านี้อาศัยอยู่ตรงข้ามกับญาติ ของเขาในเยรูซาเล็มด้วย อยู่กับญาติของเขา
39 เนอร์เป็นบิดาของคีช คีชเป็นบิดาของซาอูล ซาอูลเป็นบิดาของโยนาธาน มัลคีชูวา อาบีนาดับ และเอชบาอัล
40 บุตรโยนาธานชื่อเมริบบาอัล และเมริบบาอัลเป็นบิดาของมีคาห์
41 บุตรมีคาห์คือปิโธน เมเลค ทาเรีย และอาหัส
42 และอาหัสเป็นบิดาของยาราห์ และยาราห์เป็นบิดาของอาเลเมท อัสมาเวท และศิมรี และศิมรีเป็นบิดาของโมซา
43 โมซาเป็นบิดาของบิเนอา และบุตรบิเนอาคือเรไฟยาห์ บุตรเรไฟยาห์คือเอเลอาสาห์ บุตรเอเลอาสาห์คืออาเซล
44 อาเซลมีบุตรชายหกคน และต่อไปนี้เป็นชื่อของเขาทั้งหลายคืออัสรีคัม โบเครู อิชมาเอล เชอาริยาห์ โอบาดีห์ และฮานัน เหล่านี้เป็นบุตรอาเซล

1พงศาวดาร 10
1 คนฟีลิสเตียได้สู้กับคนอิสราเอล และคนอิสราเอลก็หนีคนฟีลิสเตีย ล้มตายอยู่ที่บนภูเขากิลโบอา
2 และคนฟีลิสเตียก็ไล่ทันซาอูลกับพวกราชโอรส และคนฟีลิสเตียก็ฆ่าโยนาธานอาบีนาดับ และมัลคีชูวา ราชโอรสของซาอูลเสีย
3 การรบหนักก็ประชิดซาอูลเข้าไป และนักธนู มาพบพระองค์เข้า พระองค์ก็ทรงบาดเจ็บสาหัสด้วยฝีมือของนักธนู
4 แล้วซาอูลรับสั่งคนถืออาวุธของพระองค์ว่า "จงชักดาบออกแทงเราเสียให้ทะลุเถิด เกรงว่าคนที่มิได้รับพิธีเข้าสุหนัตเหล่านี้ จะเข้ามาทำลบหลู่แก่เรา" แต่ผู้ถืออาวุธไม่ยอมกระทำตาม เพราะเขากลัวมาก ซาอูลจึงชักดาบของพระองค์ออก ทรงล้มทับดาบนั้น
5 และเมื่อผู้ถืออาวุธเห็นว่าซาอูลสิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ล้มทับดาบของเขาตายด้วย
6 ดังนั้นซาอูลก็สิ้นพระชนม์พร้อมกับราชโอรสทั้งสามของพระองค์ และราชวงศ์ทั้งสิ้นของพระองค์ก็ตายด้วยกัน
7 เมื่อคนอิสราเอลผู้อยู่ในหุบเขาเห็นว่ากองทัพหนีไป และซาอูลกับโอรสของพระองค์ก็สิ้นพระชนม์แล้ว เขาก็ทิ้งบ้านเมืองของเขาและหลบหนีไป คนฟีลิสเตียก็เข้ามาอาศัยอยู่ในนั้น
8 อยู่มาวันรุ่งขึ้น เมื่อคนฟีลิสเตียมาปลดเสื้อผ้าจากคน ที่ถูกฆ่า เขาพบพระศพซาอูลและราชโอรสทั้งสามอยู่บนภูเขากิลโบอา
9 เขาก็ถอดเครื่องทรงของพระองค์เอาพระเศียรและอาวุธ ของพระองค์ไป และส่งผู้สื่อสารไปทั่วดินแดนฟีลิสเตียให้นำข่าวดีไปยัง รูปเคารพและประชาชนของเขา
10 เขาเอาเครื่องอาวุธของพระองค์ไปไว้ใน วิหารพระของเขา และเอาพระเศียรของพระองค์มัดไว้ในวิหารของพระดาโกน
11 แต่เมื่อชาวยาเบชกิเลอาดทั้งสิ้น ได้ยินเรื่องทั้งหมดที่คนฟีลิสเตียได้กระทำแก่ซาอูล
12 ทหารเก่งกล้าทั้งสิ้นก็ลุกขึ้นไปเชิญพระศพของซาอูล และศพโอรสของพระองค์นำมาที่ยาเบช และเขาก็ฝังพระอัฐินั้นใต้ต้นก่อหลวงในยาเบช และได้อดอาหารเจ็ดวัน
13 ซาอูลจึงสิ้นพระชนม์ด้วยความไม่ซื่อสัตย์ของพระองค์ พระองค์มิได้ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ในเรื่องที่พระองค์มิได้รักษา พระบัญชาของพระเจ้า และได้ทรงแสวงการนำโดยทรงปรึกษาคนทรง
14 และมิได้ทรงแสวงการนำจากพระเจ้า พระเจ้าจึงทรงสังหารพระองค์เสีย และทรงยกราชอาณาจักรให้แก่ดาวิดบุตรเจสซี

1พงศาวดาร 11
1 แล้วคนอิสราเอลทั้งสิ้นก็ชุมนุมอยู่ด้วยกันเฝ้าดาวิด ที่เมืองเฮโบรนทูลว่า "ดูเถิด ข้าพระบาททั้งหลายเป็นกระดูกและเนื้อของฝ่าพระบาท
2 ในกาลก่อน แม้เมื่อซาอูลทรงเป็นพระราชา ฝ่าพระบาทก็ทรงนำอิสราเอลออกไปและเข้ามา และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของฝ่าพระบาทว่า 'เจ้าจะเป็นผู้ปกครองอิสราเอลประชากรของเรา อย่างผู้เลี้ยงแกะ และเจ้าจะเป็นเจ้าเหนืออิสราเอลประชากรเรา'"
3 ดังนั้นพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอลก็มาเฝ้า พระราชาที่เมืองเฮโบรน และดาวิดทรงกระทำพันธสัญญากับ เขาทั้งหลายที่เมืองเฮโบรนต่อพระพักตร์พระเจ้า และเขาทั้งหลายก็เจิมตั้งดาวิดให้ เป็นพระราชาเหนืออิสราเอล ตามพระวจนะของพระเจ้าโดยซามูเอล
4 ดาวิดและคนอิสราเอลทั้งสิ้นไปยังเยรูซาเล็ม คือเยบุส ที่นั่นคนเยบุสอยู่ ซึ่งเป็นชาวแผ่นดินนั้น
5 ชาวเมืองเยบุสทูลดาวิดว่า "พระองค์จะเสด็จเข้ามาที่นี่ไม่ได้" อย่างไรก็ดี ดาวิดทรงยึดที่กำบังเข้มแข็งคือศิโยนไว้ คือนครของดาวิด
6 ดาวิดรับสั่งว่า "ผู้ที่โจมตีคนเยบุสได้ก่อนจะได้เป็นหัวหน้า และผู้บังคับบัญชา" และโยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ได้ยกขึ้นไปก่อน ท่านจึงได้เป็นหัวหน้า
7 และดาวิดทรงประทับอยู่ในที่กำบังเข้มแข็ง เพราะฉะนั้น เขาจึงเรียกว่า นครของดาวิด
8 และพระองค์ทรงสร้างเมืองรอบ ตั้งแต่มิลโลโดยรอบ และโยอาบก็ซ่อมส่วนที่เหลือของเมืองนั้น
9 และดาวิดทรงจำเริญยิ่งๆขึ้น เพราะว่าพระเจ้าจอมโยธาทรงสถิตกับพระองค์
10 ต่อไปนี้เป็นคนที่เด่นในพวกวีรบุรุษของดาวิด ผู้สนับสนุนพระองค์อย่างแข็งแรงในราชอาณาจักรของพระองค์ ด้วยกันกับอิสราเอลทั้งสิ้น เชิญพระองค์ให้เป็นพระราชาตามพระวจนะของพระเจ้า เกี่ยวด้วยเรื่องอิสราเอล
11 ต่อไปนี้เป็นจำนวนวีรบุรุษของดาวิดคือยาโชเบอัม ตระกูลฮัคโมนีเป็นหัวหน้าของคนทั้งสาม เขายกหอกของเขาสู้คนสามร้อย และฆ่าเสียในคราวเดียวกัน
12 และในคนทั้งสาม คนที่ถัดเขาไปคือเอเลอาซาร์ บุตรโดโดตระกูลอาโหอาห์
13 เขาอยู่กับดาวิดที่ปัสดัมมิม เมื่อคนฟีลิสเตียชุมนุมกันทำสงคราม ที่นั่นมีที่ดินแปลงหนึ่งมีข้าวบารลีเต็มไปหมด และคนทั้งหลายก็หนีจากคนฟีลิสเตีย
14 แต่เขายืนหยัดอยู่ท่ามกลางที่ดินแปลงนั้น และป้องกันมันไว้ ได้ฆ่าคนฟีลิสเตียเสีย และพระเจ้าทรงช่วยเขาทั้งหลาย ให้พ้นด้วยชัยชนะอันยิ่งใหญ่
15 สามคนในพวกทหารเอกทั้งสามสิบคนนั้นได้ลงไป ถึงศิลาหาดาวิดที่ถ้ำอดุลลัม เมื่อกองทัพของคนฟีลิสเตียตั้งค่ายอยู่ที่หุบเขาเรฟาอิม
16 คราวนั้นดาวิดอยู่ในที่กำบังเข้มแข็งและทหาร ประจำป้อมของคนฟีลิสเตียอยู่ที่เบธเลเฮม
17 ดาวิดตรัสด้วยความอาลัยว่า "ใครหนอจะส่งน้ำจากบ่อที่เบธเลเฮมที่อยู่ข้าง ประตูเมืองมาให้เราดื่มได้"
18 แล้วคนทั้งสามก็แหกค่ายของคนฟีลิสเตียเข้าไป และตักน้ำมาจากบ่อเบธเลเฮมที่ข้างประตูเมือง นำเอามาถวายดาวิด แต่ดาวิดหาทรงดื่มน้ำนั้นไม่ พระองค์ทรงเทออกถวายแด่พระเจ้า
19 ตรัสว่า "ขอพระเจ้าของข้าทรงห้ามข้า ไม่ให้กระทำอย่างนี้ ควรหรือที่ข้าจะดื่มโลหิตของคนเหล่านี้ ผู้ที่เสี่ยงชีวิตของเขาเอาน้ำนี้มา" เพราะฉะนั้นพระองค์จึงหาทรงดื่มไม่ ทแกล้วทหารสามคนนั้นได้กระทำสิ่งนี้
20 ฝ่ายอาบีชัยน้องชายของโยอาบ เป็นหัวหน้าของทั้งสามสิบคนนั้น ท่านได้ยกหอกของท่านสู้คนสามร้อย และฆ่าเสีย และได้รับชื่อเสียงดั่งวีรบุรุษสามคนนั้น
21 ในสามสิบคนนั้นท่านมีชื่อเสียงที่สุด และได้เป็นผู้บังคับบัญชาของเขา แต่ท่าน ไม่มียศเท่ากับสามคนนั้น
22 และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดา เป็นคนเก่งกล้าแห่งเมืองขับเซเอล เป็นคนประกอบมหกิจ เขาได้ฆ่าบุตรอารีเอลแห่งโมอับเสียสองคน เขาลงไปฆ่าสิงห์ที่ในบ่อในวันที่หิมะตกด้วย
23 เขาได้ฆ่าคนอียิปต์คนหนึ่ง รูปร่างใหญ่โต สูงห้าศอก คนอียิปต์นั้นถือหอกเหมือนไม้กระพั่น แต่เบไนยาห์ถือไม้เท้าลงไปหาเขา และแย่งเอาหอกมาจากมือของคนอียิปต์ และฆ่าเขาเสียด้วยหอกของเขาเอง
24 สิ่งเหล่านี้เบไนยาห์บุตรชายเยโฮยาดา ได้กระทำ และได้ชื่อเสียงในหมู่พวกทแกล้วทหารสามคนนั้น
25 ดูเถิด เขาเป็นคนมีชื่อเสียงมากกว่าสามสิบคนนั้น แต่เขาได้ไม่เท่ากับสามคนนั้น และดาวิดไม่ได้ทรงตั้งเขาให้อยู่เหนือองครักษ์ของพระองค์
26 นอกนั้นมีพวกทแกล้วทหารของกองทัพคืออาสาเฮล น้องชายของโยอาบ เอลฮานันบุตรโดโด ชาวเบธเลเฮม
27 ชัมโมทชาวฮาโรด เฮเลส คนเปโลน
28 อิราบุตรอิกเขชชาวเทโคอา อาบีเยเซอร์ชาวอานาโธท
29 สิบเบคัย ตระกูลหุชาห์ อิลัย ตระกูลอาโหอาห์
30 มาหะรัย ชาวเนโทฟาห์เฮเลด บุตรบาอานาห์ ชาวเนโทฟาห์
31 อิธัยบุตรรีบัย แห่งเมืองกิเบอาห์ของคนเบนยามิน เบไนยาห์ชาวปิราโธน
32 หุรัย ชาวลำธารกาอัช อาบีเอล ตระกูลอารบาห์
33 ชาวอัสมาเวท ตระกูลบาฮูริม เอลียาบา ชาวชาอัลโบน
34 บุตรหลานฮาเชม ตระกูลกิมโซ โยนาธาน บุตรชากี ชาวฮาราห์
35 อาหิอัมบุตรสาคาร์ ชาวฮาราห์ เอลีฟัลบุตรอูระ
36 เฮเฟอร์คนเมเค-ราไธด์ อาหิยาห์คนเปโลน
37 เฮสโร ชาวคารเมล นาอารัยบุตรเอสบัย
38 โยเอล น้องนาธัน มิบฮาร์ บุตรฮากรี
39 เศเลก คนอัมโมน นาหะรัย ชาวเบเอโรท ผู้ถืออาวุธของโยอาบ บุตรนางเศรุยาห์
40 อิรา ตระกูลอิทไรต์ กาเรบ ตระกูลอิทไรต์
41 อุรียาห์ คนฮิตไทต์ ศาบาด บุตรอัคลัย
42 อาดีนาบุตรชิซา คนรูเบน หัวหน้าคนหนึ่งของคนรูเบน และสามสิบคนด้วยกันกับเขา
43 ฮานันบุตรมาอาคาห์ และโยชาฟัทตระกูลมิทเน
44 อุสชียา ชาวอัชทาโรท ซามาและเยอีเอล บุตรโฮธาม คนอาโรเออร์
45 เยดียาเอล บุตรชิมรี และโยฮา น้องของเขา ชาวทิไซต์
46 เอลีเอล ตระกูลมาหะไวต์ และเยรีบัย โยชาวิยาห์ บุตรเอลนาอัม และอิทมาห์คนโมอับ
47 เอลีเอล และโอเบด และยาอาซีเอล ตระกูลเมโซบัย

1พงศาวดาร 12
1 ต่อไปนี้เป็นคนที่มาหาดาวิดที่ศิกลาก ขณะเมื่อท่านไปไหนไม่ได้สะดวกเพราะเหตุซาอูล บุตรคีช เขาทั้งหลายเป็นคนในพวกทแกล้วทหารผู้ช่วยท่านในการรบ
2 เขาเป็นนักธนู เขาเหวี่ยงหินด้วยสลิ่งและยิงธนูได้ด้วยมือขวาหรือมือซ้าย เขาเป็นคนเบนยามินญาติของซาอูล
3 อาหิเยเซอร์เป็นหัวหน้า ถัดไปคือโยอาชบุตรเชมาอาห์ชาวเมือง กิเบอาห์และเยซีเอลกับเปเลท บุตรอัสมาเวท เบ-ราคาห์ และเยฮูชาวอานาโธท
4 อิชมัยยาห์แห่งกิเบโอน ทแกล้วทหารในพวกสามสิบคนนั้น และเป็นหัวหน้าเหนือสามสิบคนนั้น เยเรมีย์ ยาซีเอล โยฮานัน โยซาบาด ชาวเมืองเกเดราห์
5 เอลูซัย เยรีโมท เบอัลยาห์ เชมาริยาห์ เชฟาทิยาห์ ตระกูลฮารูฟ
6 เอลคานาห์ อิสซีอาห์ อาซาเรล โยเอเซอร์ ยาโชเบอัม คนตระกูลโคราห์
7 และโยเอลาห์ กับ เศบาดิยาห์ บุตรเยโรฮัม ชาวเกโดร์
8 มีทแกล้วทหารและผู้ชำนาญศึกจากคนกาดหนีเข้าไป หาดาวิด ณ ที่กำบังเข้มแข็งในถิ่นทุรกันดาร เขาชำนาญ โล่และหอก ผู้ซึ่งหน้าของเขาเหมือนหน้าสิงห์ และผู้ซึ่งรวดเร็วเหมือนละมั่งบนภูเขา
9 เอเซอร์เป็นหัวหน้า โอบาดีห์ที่สอง เอลีอับที่สาม
10 มิชมันนาห์ที่สี่ เยเรมีย์ที่ห้า
11 อัททัยที่หก เอลีเอลที่เจ็ด
12 โยฮานันที่แปด เอลซาบาดที่เก้า
13 เยเรมีย์ที่สิบ มัคบันนัยที่สิบเอ็ด
14 คนกาดเหล่านี้เป็นนายทหารในกองทัพ ผู้น้อยก็เป็นนายร้อยผู้ใหญ่ก็เป็นนายพัน
15 เหล่านี้เป็นคนที่ข้ามแม่น้ำจอร์แดนในเดือนแรก เมื่อน้ำท่วมฝั่งทั้งสิ้น และให้คนที่อยู่ ณ ลุ่มแม่น้ำแตกหนีไปทางทิศตะวันออก และทิศตะวันตก
16 มีคนในเผ่าเบนยามินและยูดาห์มาเฝ้าดาวิด ณ ที่กำบังเข้มแข็ง
17 ดาวิดทรงออกไปต้อนรับเขา และตรัสกับเขาว่า "ถ้าท่านทั้งหลายมาฉันมิตรเพื่อช่วยข้าพเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าจะพันผูกติดกับท่าน แต่ถ้าเพื่อขายข้าพเจ้าให้แก่ปฏิปักษ์ของข้าพเจ้า แม้ว่าในมือของข้าพเจ้าไม่มีความผิดใดๆ ก็ขอพระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราทั้งหลายทอดพระเนตร และทรงกล่าวโทษท่านทั้งหลายเถิด"
18 แล้วพระวิญญาณได้มาเหนืออามาสัย หัวหน้าของคนทั้งสามสิบนั้น และเขาทูลว่า "ข้าแต่ดาวิด ข้าพระบาททั้งหลายเป็นของฝ่าพระบาท และอยู่กับฝ่าพระบาท ข้าแต่บุตรเจสซี สวัสดิภาพ สวัสดิภาพ จงมีแก่ฝ่าพระบาท และสวัสดิภาพจงมีแก่ผู้ช่วยของฝ่าพระบาท เพราะว่าพระเจ้าทรงอุปถัมภ์ฝ่าพระบาท" แล้วดาวิดทรงรับเขาทั้งหลายไว้ และทรงตั้งให้เป็นนายทหารในกองทัพของพระองค์
19 คนเผ่ามนัสเสห์ด้วยได้หลบหนีไปเข้าฝ่ายดาวิดบ้าง เมื่อพระองค์ยกมากับคนฟีลิสเตีย เพื่อทำสงครามกับซาอูล (แต่พวกฝ่ายดาวิดมิได้ช่วยคนฟีลิสเตีย เพราะผู้ครอบครองของคนฟีลิสเตียได้หารือกัน และส่งพระองค์กลับไปเสีย บอกว่า "เขาจะหลบหนีไปคืนดีกับซาอูล นายของเขาโดยเอาหัวของเราไปด้วย")
20 ขณะเมื่อพระองค์ไปยังศิกลาก คนมนัสเสห์เหล่านี้หลบหนีไปสมทบพระองค์คืออัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮูและศิลเลธัย หัวหน้าบรรดากองพันในเผ่ามนัสเสห์
21 เขาทั้งหลายช่วยเหลือดาวิดต่อสู้พวกปล้น เพราะเขาทั้งหลายเป็นทแกล้วทหารทั้งสิ้น และเป็นผู้บังคับบัญชาในกองทัพ
22 ทุกๆวันมีคนมาเข้าฝ่ายดาวิด เพื่อจะช่วยเหลือพระองค์ จนเป็นกองทัพใหญ่อย่างกองทัพของพระเจ้า
23 ต่อไปนี้เป็นจำนวนทหารติดอาวุธ ผู้มาหาดาวิดในเมืองเฮโบรน เพื่อจะมอบราชอาณาจักรของซาอูลให้กับพระองค์ ตามพระวจนะของพระเจ้า
24 คนยูดาห์ที่ถือโล่และหอกมีหกพันแปดร้อย เป็นทหารติดอาวุธ
25 จากคนสิเมโอน มีทแกล้วทหารชำนาญศึกเจ็ดพันหนึ่งร้อย
26 จากคนเลวีสี่พันหกร้อย
27 เยโฮยาดาเป็นหัวหน้าพงศ์พันธุ์ของอาโรน มีคนมากับท่านสามพันเจ็ดร้อย
28 ศาโดกทแกล้วทหารหนุ่ม และคนจากตระกูลของเขาเองเป็นผู้บังคับ บัญชายี่สิบสองคน
29 จากคนเบนยามินญาติของซาอูลสามพันคน ซึ่งแต่ก่อนนี้จำนวนมากจงรักภักดีต่อราชวงศ์ซาอูล
30 จากคนเอฟราอิม ทแกล้วทหารแกล้วกล้าสองหมื่นแปดร้อยคน เป็นคนมีชื่อเสียงในตระกูลของเขา
31 จากคนมนัสเสห์กึ่งเผ่า หนึ่งหมื่นแปดพันคน ผู้ซึ่งเขาบ่งชื่อไว้ให้มาเชิญดาวิดไปเป็นกษัตริย์
32 จากเผ่าอิสสาคาร์ มีผู้รู้กาละ ทราบว่าอิสราเอลควรทำประการใด มีหัวหน้าสองร้อยคน และญาติของเขาทั้งสิ้นอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา
33 จากคนเศบูลุน มีห้าหมื่นคนที่ฝึกแล้วเตรียมพร้อมเข้าสู้รบ สรรพด้วยอาวุธทุกอย่างเพื่อทำสงครามเพื่อช่วยเหลือ มิใช่ด้วยสองจิตสองใจ
34 จากคนเผ่านัฟทาลี ผู้บังคับบัญชาหนึ่งพัน ซึ่งมีคนติดโล่และหอกมาด้วยสามหมื่นเจ็ดพันคน
35 จากคนเผ่าดาน มีคนเตรียมพร้อมทำสงครามสองหมื่นแปดพันหกร้อยคน
36 จากคนเผ่าอาเชอร์ สี่หมื่นคนฝึกพร้อมที่จะทำสงคราม
37 และจากฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน จากคนเผ่ารูเบน และคนกาด และคนมนัสเสห์กึ่งเผ่า มีหนึ่งแสนสองหมื่นคน ติดอาวุธทุกอย่างเพื่อทำสงคราม
38 ทหารทั้งสิ้นเหล่านี้ พร้อมที่จะทำศึก ได้มายังเฮโบรน ด้วยเจตนาเต็มเปี่ยมที่จะเชิญดาวิดเป็นพระราชาเหนือ อิสราเอลทั้งสิ้น ในทำนองเดียวกันคนอิสราเอลที่เหลืออยู่ ก็เป็นใจเดียวกันที่จะเชิญดาวิดเป็นพระราชา
39 เขาทั้งหลายอยู่ที่นั่นกับดาวิดสามวันกินและดื่ม เพราะว่าพี่น้องของเขาได้เตรียมไว้ให้เขา
40 และผู้ที่อยู่ใกล้เขาทั้งหลายด้วยคือ ไกลออกไปถึงอิสสาคาร์ และเศบูลุน และนัฟทาลีได้จัดอาหารบรรทุกลา อูฐ ล่อ และวัวกับเสบียงอาหารมากมายเป็นแป้ง ขนม มะเดื่อ ช่อองุ่นแห้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน วัว และแกะ เพราะว่ามีความชื่นบานในอิสราเอล

1พงศาวดาร 13
1 ดาวิดได้ทรงหารือกับนายพันและนายร้อย กับหัวหน้าทุกๆคน
2 และดาวิดตรัสกับชุมนุมชนอิสราเอลทั้งปวงว่า "ถ้าท่านทั้งหลายเห็นด้วยและถ้าเป็นน้ำพระทัยของ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา ก็ให้เราทั้งหลายส่งคนไปหาพี่น้องของเรา ผู้ที่เหลืออยู่ในแผ่นดินอิสราเอลทั้งสิ้น ให้ไปยังปุโรหิตและคนเลวีด้วย ผู้ซึ่งอยู่ในหัวเมืองของเขาที่มีทุ่งหญ้า เพื่อให้เขาทั้งหลายมาหาเราพร้อมกัน
3 และให้เราทั้งหลายนำหีบแห่งพระเจ้าของเรา มายังเราอีก เพราะเราทั้งหลายมิได้ไต่ถามถึงในสมัยของซาอูล"
4 ชุมนุมชนทั้งสิ้นนั้นก็ตกลงที่จะกระทำตามเพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ชอบในสายตาของประชาชน
5 เพราะฉะนั้น ดาวิดจึงประชุมอิสราเอลทั้งสิ้นตั้งแต่ ชิโหร์ลำธารแห่งอียิปต์ ถึงทางเข้าเมืองฮามัท เพื่อจะเชิญหีบแห่งพระเจ้ามา จากคีริยาทเยอาริม
6 ดาวิดกับอิสราเอลทั้งปวงขึ้นไปยังบาอาลาห์ คือคีริยาทเยอาริมซึ่งเป็นของยูดาห์ เพื่อจากที่นั่นจะได้เชิญหีบของพระเจ้า คือพระเยโฮวาห์ผู้ประทับเหนือเครูบ อันเป็นหีบที่เรียกกันตามพระนาม
7 และเขาทั้งหลายก็บรรทุกหีบของพระเจ้า ไปในเกวียนเล่มใหม่ จากเรือนของอาบีนาดับ และอุสซากับอาหิโย เป็นคนขับเกวียน
8 และดาวิดกับอิสราเอลทั้งปวงก็ร่าเริงกันอยู่ต่อ พระพักตร์พระเจ้าด้วยเต็มกำลังของเขาทั้งหลาย ด้วยเพลง พิณเขาคู่ พิณใหญ่ รำมะนา ฉาบ และแตร
9 และเมื่อเขาทั้งหลายมาถึงลานนวดข้าวของคิโดน อุสซาก็เหยียดมือออกกุมหีบไว้เพราะโคสะดุด
10 และพระพิโรธของพระเจ้าได้พลุ่งขึ้นต่ออุสซา และพระองค์ทรงประหารเขา เพราะเขาเหยียดมือออกยังหีบนั้นและเขาก็สิ้นชีวิตต่อ พระพักตร์พระเจ้า
11 และดาวิดไม่พอพระทัยเพราะพระเจ้าทรง ประหัตประหารอุสซา เขาจึงเรียกที่นั่นว่า เปเรศอุสซา จนถึงทุกวันนี้
12 และดาวิดทรงเกรงกลัวพระเจ้าในวันนั้น และพระองค์ตรัสว่า "เราจะนำหีบของพระเจ้าไปบ้านไปเมืองอย่างไรได้"
13 ดาวิดจึงมิได้ทรงย้ายหีบไปไว้ในนครของดาวิด แต่ทรงนำหีบแวะไปไว้ที่บ้านโอเบดเอโดมคนกัท
14 และหีบของพระเจ้าได้ค้างอยู่กับครัวเรือนของ โอเบดเอโดมที่เรือนของเขาสามเดือน และพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ครัวเรือนของ โอเบดเอโดมกับทั้งสิ้นซึ่งเขามีอยู่

1พงศาวดาร 14
1 ฮีรามพระราชาเมืองไทระ ได้ทรงส่งผู้สื่อสารมาเฝ้าดาวิด และทรงส่งไม้สนสีดาร์ ทั้งช่างก่อและช่างไม้เพื่อจะสร้างวังถวายพระองค์
2 และดาวิดทรงทราบว่าพระเจ้าทรงสถาปนาพระองค์เป็น พระราชาเหนืออิสราเอล เพราะพระราชอาณาจักรของพระองค์ก็เป็นที่ยกย่องอย่างยิ่ง เพื่อเห็นแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์
3 และดาวิดทรงรับมเหสีเพิ่มขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม และดาวิดทรงมีโอรสและธิดาอีก
4 ต่อไปนี้เป็นชื่อราชบุตรซึ่งพระองค์ทรงมีในเยรูซาเล็ม คือชัมมุวา โชบับ นาธัน ซาโลมอน
5 อิบฮาร์ เอลีชูวา เอลเปเลท
6 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย
7 เอลีชามา เบเอลยาดา เอลีเฟเลท
8 เมื่อคนฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดทรงรับการเจิมเป็น พระราชาเหนืออิสราเอลทั้งปวงแล้ว คนฟีลิสเตียทั้งปวงก็ขึ้นไปแสวงหาดาวิด ดาวิดทรงทราบก็เสด็จออกไปสู้รบกับเขาทั้งหลาย
9 ฝ่ายคนฟีลิสเตียได้มาปล้นในหุบเขาเรฟาอิม
10 และดาวิดก็ทรงทูลถามพระเจ้าว่า "ควรที่ข้าพระองค์จะขึ้นไปต่อสู้ฟีลิสเตียหรือ พระองค์จะทรงมอบเขาไว้ในมือของข้าพระองค์หรือ" และพระเจ้าตรัสตอบพระองค์ว่า "ขึ้นไปเถอะ และเราจะมอบเขาไว้ในมือเจ้า"
11 และพระองค์เสด็จไปยัง บาอัลเป-ราซิม และดาวิดทรงชนะเขาทั้งหลายที่นั่น และดาวิดตรัสว่า "พระเจ้าทรงทะลวงข้าศึกของข้าพเจ้าเหมือนดัง กระแสน้ำที่พุ่งใส่" เพราะฉะนั้นเขาจึงเรียกที่นั้นว่า บาอัลเป-ราซิม
12 เขาทั้งหลายก็ทิ้งรูปเคารพของเขาเสียที่นั่น และดาวิดก็ทรงมีพระบัญชา และรูปเคารพเหล่านั้นก็ถูกเผาเสียหมด
13 และคนฟีลิสเตียยังมาปล้นในหุบเขานั้นอีก
14 และเมื่อดาวิดทูลถามพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าตรัสตอบพระองค์ว่า "เจ้าอย่าขึ้นไปตามเขา จงอ้อมไปและโจมตีเขาที่ตรงข้ามกับหมู่ต้นโพธิ์
15 และเมื่อเจ้าได้ยินเสียงกระบวนทัพอยู่ที่ ยอดหมู่ต้นโพธิ์แล้ว จงออกไปทำศึก เพราะว่าพระเจ้าได้เสด็จออกไปข้างหน้าเพื่อโจมตี กองทัพของคนฟีลิสเตีย"
16 และดาวิดทรงกระทำตามที่พระเจ้าบัญชาแก่พระองค์ และเขาทั้งหลายโจมตีกองทัพคนฟีลิสเตียตั้งแต่ เมืองกิเบโอนถึงเมืองเกเซอร์
17 กิตติศัพท์ของดาวิดก็ลือไปสู่บรรดาประเทศทั้งหลาย และพระเจ้าทรงให้ประชาชาติทั้งปวงครั่นคร้ามดาวิด

1พงศาวดาร 15
1 ดาวิดทรงสร้างพระราชวังของพระองค์ในนครดาวิด และพระองค์ทรงเตรียมที่ไว้สำหรับหีบของพระเจ้าและ ทรงตั้งเต็นท์ไว้ให้
2 แล้วดาวิดตรัสว่า "นอกจากคนเลวีแล้วไม่ควรที่คนอื่นจะหามหีบของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเลือกเขาให้หามหีบของพระเจ้า และปรนนิบัติพระองค์เป็นนิตย์"
3 และดาวิดทรงประชุมอิสราเอลทั้งสิ้นที่เยรูซาเล็ม เพื่อจะนำหีบของพระเจ้ามาสู่ที่ของหีบนั้นซึ่งพระองค์ ได้ทรงเตรียมไว้ให้
4 และดาวิดทรงรวบรวมเชื้อสายของอาโรนและคนเลวี
5 คือจากเชื้อสายของโคฮาท ได้อุรีเอลเป็นหัวหน้าพร้อมกับพี่น้องของเขาหนึ่งร้อยยี่สิบคน
6 จากเชื้อสายของเมรารีได้อาสายาห์เป็น หัวหน้าพร้อมกับพี่น้องของเขาสองร้อยยี่สิบคน
7 จากเชื้อสายของเกอร์โชมได้โยเอลเป็นหัวหน้า กับพี่น้องของเขา หนึ่งร้อยสามสิบคน
8 จากเชื้อสายของเอลีชาฟานได้เชไมอาห์เป็นหัวหน้า กับพี่น้องของเขา สองร้อยคน
9 จากเชื้อสายของเฮโบรนได้เอลีเอลเป็นหัวหน้า กับพี่น้องของเขาแปดสิบคน
10 จากเชื้อสายของอุสซีเอล ได้อัมมีนาดับเป็นหัวหน้ากับ พี่น้องของเขาหนึ่งร้อยสิบสองคน
11 แล้วดาวิดทรงเรียกศาโดกและอาบียาธาร์ปุโรหิต และคนเลวีคืออุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอลและอัมมีนาดับ
12 และตรัสกับเขาทั้งหลายว่า เจ้าทั้งหลายเป็นหัวหน้าตระกูลของคนเลวี จงชำระตัวของเจ้าเสีย ทั้งเจ้าและพี่น้องของเจ้า เพื่อเจ้าจะนำหีบของพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่ง อิสราเอลขึ้นมายังสถานที่ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้ให้
13 เพราะเจ้ามิได้ไปหามเสียแต่ครั้งแรก พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราจึงทรงพระพิโรธต่อเรา เพราะเรามิได้แสวงหาตามกฎหมาย
14 แล้วปุโรหิตและคนเลวีจึงได้ชำระตัวของเขา เพื่อจะเชิญหีบของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของ อิสราเอลขึ้นมา
15 และคนเลวีได้หามหีบของพระเจ้าด้วยคานหาม ดังที่โมเสสได้บัญชาเขาไว้ตามพระวจนะของพระเจ้า
16 ดาวิดได้ทรงบัญชาแก่บรรดาหัวหน้าของคน เลวีให้แต่งตั้งพี่น้องของเขา ให้เป็นนักร้องเล่นเครื่องดนตรี มีพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบเพื่อทำเสียงดังด้วยความชื่นบาน
17 คนเลวีจึงแต่งตั้งเฮมานบุตรโยเอล และพี่น้องของเขา คืออาสาฟ บุตรเบเรคิยาห์ และจากเชื้อสายเมรารีพี่น้องของเขา คือเอธานบุตรคูชายาห์
18 และพร้อมกับเขาได้แต่งตั้งพี่น้องของเขาในอันดับสองคือ เศคาริยาห์ ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสอาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ และมิกเนยาห์ และโอเบดเอโดม กับเยอีเอล เป็นคนเฝ้าประตู
19 นักร้องคือเฮมาน อาสาฟ เอธานเป็นคนตีฉาบทองสัมฤทธิ์
20 เศคาริยาห์ อาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสยาห์ และเบไนยาห์ เล่นพิณใหญ่ ตามสำเนียงอาลาโมท
21 แต่มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอล และอาซาซิยาห์เป็นผู้นำด้วยพิณเขาคู่ตามสำเนียงเชมินิท
22 เคนานิยาห์หัวหน้าของคนเลวี ในเรื่องเพลงเป็นผู้อำนวยการเพลง เพราะเขาเข้าใจดี
23 เบเรคิยาห์และเอลคานาห์ เป็นนายประตูเฝ้าหีบ
24 เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์ และเอลีเอเซอร์ปุโรหิตได้เป่าแตรหน้าหีบของพระเจ้า โอเบดเอโดมและเยฮีห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบด้วย
25 ดาวิดและบรรดาผู้ใหญ่ของอิสราเอล และผู้บัญชากองพันจึงได้ไปนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้า ขึ้นจากเรือนของโอเบดเอโดมด้วยความเปรมปรีดิ์
26 และเพราะพระเจ้าทรงช่วยคนเลวีผู้หามหีบพันธสัญญา ของพระเจ้า เขาทั้งหลายก็ได้ถวายเครื่องบูชาเป็นวัวผู้เจ็ดตัว และแกะผู้เจ็ดตัว
27 ดาวิดทรงฉลองพระองค์ผ้าป่านเนื้อละเอียด ทั้งคนเลวีทั้งปวงผู้หามหีบและนักร้อง และเคนานิยาห์ผู้อำนวยการเพลงของนักร้อง และดาวิดทรงเอโฟดผ้าป่าน
28 ดังนี้แหละคนอิสราเอลทั้งปวง ได้นำหีบพันธสัญญาของพระเจ้าขึ้นมาด้วยเสียงโห่ร้อง เสียงเป่าเขา เสียงแตร และฉาบ และทำเพลงเสียงดังด้วยพิณใหญ่และพิณเขาคู่
29 และเมื่อหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามาถึงนครดาวิดแล้ว มีคาลราชธิดาของซาอูลแลดูตามช่องพระแกล เห็นกษัตริย์ดาวิดทรงเต้นรำและทรงร่าเริงอยู่ พระนางก็มีใจดูหมิ่นพระองค์

1พงศาวดาร 16
1 และเขาทั้งหลายได้นำหีบของพระเจ้าเข้ามา วางไว้ภายในเต็นท์ซึ่งดาวิดได้ทรงตั้งไว้ให้ และเขาทั้งหลายได้ถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาต่อพระเจ้า
2 และเมื่อดาวิดทรงถวายเครื่องเผาบูชา และเครื่องศานติบูชาเสร็จแล้ว พระองค์ทรงอวยพระพรแก่ประชาชน ในพระนามพระเยโฮวาห์
3 และทรงแจกขนมปังคนละก้อน เนื้อคนละส่วน และขนมองุ่นแห้งคนละอัน แก่บรรดาประชาชนอิสราเอลทั้งชายและหญิง
4 และพระองค์ทรงตั้งคนเลวีบางคนให้เป็นผู้ ปรนนิบัติหน้าหีบของพระเจ้า ให้ทูลยอพระเกียรติและสรรเสริญพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของอิสราเอล
5 อาสาฟเป็นหัวหน้า และรองท่านคือเศคาริยาห์ เยอีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มิททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล ผู้ซึ่งจะเล่นพิณใหญ่และพิณเขาคู่ อาสาฟเป็นคนตีฉาบ
6 และเบไนยาห์กับยาฮาซีเอล ปุโรหิตจะเป่าแตรเรื่อยไปหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า
7 แล้วในวันนั้นดาวิดทรงกำหนดเป็นครั้งแรก ให้มีการร้องเพลงโมทนาถวายแด่พระเจ้า โดยอาสาฟ และพี่น้องของท่าน
8 จงโมทนาพระคุณพระเจ้า และร้องทูลออกพระนามพระองค์ จงให้บรรดาพระราชกิจของพระองค์แจ้งแก่ชนชาติทั้งหลาย
9 จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องเพลงสดุดีถวายพระองค์ จงเล่าถึงการอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
10 จงอวดพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ ให้จิตใจของบรรดาผู้แสวงหาพระเจ้าเปรมปรีดิ์
11 จงแสวงพระเจ้า และพระกำลังของพระองค์ แสวงพระพักตร์ของพระองค์เรื่อยไป
12 จงระลึกถึงการอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ การอัศจรรย์และคำพิพากษาแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์
13 นะ พงศ์พันธุ์ของอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์ เชื้อสายของยาโคบ ผู้เลือกสรรของพระองค์
14 พระองค์คือพระเยโฮวาห์ พระเจ้าของเรา คำพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วไปในแผ่นดินโลก
15 จงจดจำพันธสัญญาของพระองค์อยู่เป็นนิตย์ คือพระวจนะที่พระองค์ทรงบัญชาไว้ตลอดทั่วพันชาติพันธุ์
16 คือพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับ อับราฮัม พระสัญญาซึ่งทรงปฏิญาณไว้กับอิสอัค
17 ซึ่งพระองค์ทรงยืนยันอีกกับยาโคบให้เป็นกฎเกณฑ์ แก่อิสราเอล ให้เป็นพันธสัญญานิรันดร์
18 ว่า "เราจะให้แผ่นดินคานาอันแก่เจ้า เป็นส่วนมรดกของเจ้าทั้งหลาย"
19 เมื่อเจ้าทั้งหลายยังมีคนจำนวนน้อย จำนวนน้อยจริง ยังเป็นแต่คนอาศัยอยู่ในนั้น
20 พเนจรไปจากประชาชาตินี้ถึงประชาชาตินั้น จากราชอาณาจักรนี้ถึงอีกชนชาติหนึ่ง
21 พระองค์มิได้ทรงยอมให้ผู้ใดบีบบังคับเขา พระองค์ทรงขนาบพระราชา หลายองค์ด้วยเห็นแก่เขา
22 ว่า "อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมไว้ อย่าทำอันตรายแก่ผู้เผยพระวจนะทั้งหลายของเรา"
23 แผ่นดินโลกทั้งสิ้น จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงประกาศความรอดของพระองค์ทุกๆ วัน
24 จงเล่าถึงพระสิริของพระองค์ ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ การอัศจรรย์ของพระองค์ ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
25 เพราะพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่ และสมควรจะสรรเสริญอย่างยิ่ง พระองค์ทรงเป็นที่เกรงกลัวเหนือพระทั้งปวง
26 เพราะพระทั้งปวงของชนชาติทั้งหลายเป็นรูปเคารพ แต่พระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์
27 เกียรติและความโอ่อ่าตระการมีอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ กำลังและความชื่นบานอยู่ในสถานที่ประทับของพระองค์
28 โอ ตระกูลของชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงถวายแด่พระเจ้า จงถวายพระสิริและกำลังแด่พระเจ้า
29 จงมอบพระสิริซึ่งควรแก่พระนามของพระองค์แด่พระเจ้า จงนำเครื่องบูชามาเข้าเฝ้าพระองค์ จงประดับกายด้วยเครื่องบริสุทธิ์นมัสการพระเจ้า
30 ชาวโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงตัวสั่นต่อพระพักตร์พระองค์ เออ พิภพถูกสถาปนาแล้ว จะไม่หวั่นไหวเลย
31 จงให้ฟ้าสวรรค์ยินดีและแผ่นดินโลกเปรมปรีดิ์ ให้เขาพูดในหมู่บรรดาประชาชาติว่า "พระเจ้าทรงครอบครอง"
32 ให้ทะเลคำรน กับสิ่งทั้งปวงที่อยู่ในนั้น ให้ทุ่งนาลิงโลด กับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนั้น
33 แล้วต้นไม้ทั้งสิ้นของป่าไม้ จะร้องเพลงด้วยความชื่นบาน เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ด้วยพระองค์เสด็จมาพิพากษาโลก
34 จงโมทนาขอบพระคุณพระเจ้าเพราะพระองค์ประเสริฐ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์
35 และท่านจงกล่าวว่า "ข้าแต่พระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอจงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอด และขอทรงรวบรวมข้าพระองค์ทั้งหลายและทรงช่วย ข้าพระองค์ทั้งปวงจากประชาชาติทั้งหลาย เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะโมทนา ขอบพระคุณพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์ และลิงโลดในการสรรเสริญพระองค์
36 จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล แต่นิรันดร์กาลจนถึงนิรันดร์กาล แล้วประชาชนทั้งปวงได้กล่าวว่า "อาเมน" และได้ซ้องสรรเสริญพระเจ้า
37 ดาวิดจึงทรงให้อาสาฟและพี่น้องของท่านอยู่ที่นั่น ต่อหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า ให้ปรนนิบัติอยู่หน้าหีบนั้นเรื่อยไปตามงานประจำวันที่ต้องทำ
38 ทั้งโอเบดเอโดมและพี่น้องหกสิบแปดคนของท่านด้วย ฝ่ายโอเบดเอโดมบุตรเยดูธูนกับโฮสาห์ให้เป็นคน เฝ้าประตู
39 และพระองค์ทรงให้ศาโดกปุโรหิต กับพี่น้องของท่านผู้เป็นปุโรหิตอยู่หน้า พลับพลาแห่งพระเจ้าซึ่งอยู่ในปูชนียสถานสูงเมืองกิเบโอน
40 เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้า บนแท่นเครื่องเผาบูชาในเวลาเช้าเวลาเย็นเสมอ ตามซึ่งได้บันทึกไว้ทั้งสิ้นในธรรมบัญญัติของพระเจ้าซึ่ง พระองค์ทรงบัญชาอิสราเอล
41 เฮมานและเยดูธูนอยู่กับเขาทั้งหลาย และบรรดาคนอื่นที่ถูกเลือก และบ่งชื่อไว้ให้ถวายโมทนาแด่พระเจ้า เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์
42 และพร้อมกับเขาเฮมานและเยดูธูน มีแตรและฉาบเพื่อบรรเลง และเครื่องดนตรีประกอบเพลงถวายพระเจ้า บุตรหลานของเยดูธูนได้รับแต่งตั้งให้ประจำประตู
43 และประชาชนทั้งปวงต่างก็จากไปยังบ้านของตน และดาวิดเสด็จกลับเพื่ออวยพรแด่เชื้อพระวงศ์ของพระองค์

1พงศาวดาร 17
1 อยู่มาเมื่อดาวิดประทับในพระราชวังของพระองค์ ดาวิดตรัสกับนาธันผู้เผยพระวจนะว่า "ดูซิ เราอยู่ในบ้านทำด้วยไม้สนสีดาร์ แต่หีบพันธสัญญาแห่งพระเจ้าอยู่ภายใต้ม่านเต็นท์"
2 และนาธันทูลดาวิดว่า "ขอฝ่าพระบาททรงกระทำทั้งสิ้นตาม พระประสงค์ของฝ่าพระบาท เพราะพระเจ้าทรงสถิตกับฝ่าพระบาท"
3 แต่อยู่มาในคืนวันนั้นเอง พระวจนะของพระเจ้ามาถึงนาธันว่า
4 "จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า 'พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าอย่าสร้างนิเวศให้เราอยู่
5 เพราะเราไม่เคยอยู่ในนิเวศนับ แต่วันที่เราพาอิสราเอลขึ้นมาจนกระทั่งวันนี้ แต่เราได้ไปจากเต็นท์นี้ถึงเต็นท์โน้น และจากพลับพลาแห่งนี้ถึงแห่งโน้น
6 ในที่ต่างๆที่เราเคลื่อนไปมากับอิสราเอลทั้งหมด เราได้เคยพูดสักคำกับผู้วินิจฉัยของอิสราเอลคนใด ผู้ที่เราได้บัญชาให้เขาเลี้ยงดูประชากรของเราหรือว่า "ทำไมเจ้ามิได้สร้างนิเวศด้วยไม้สนสีดาร์ให้แก่เรา'"
7 เพราะฉะนั้นบัดนี้เจ้าจงกล่าวแก่ดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า 'พระเจ้าจอมโยธาตรัสว่า เราได้เอาเจ้ามาจากทุ่งหญ้าจากการตามฝูงแพะแกะ เพื่อให้เจ้าเป็นเจ้าเหนืออิสราเอลประชากรของเรา
8 และเราได้อยู่กับเจ้าไม่ว่าเจ้าไปที่ไหน และได้กำจัดศัตรูของเจ้าให้พ้นหน้าเจ้า และเราจะกระทำให้เจ้ามีชื่อเสียงใหญ่โต อย่างกับชื่อเสียงของผู้ยิ่งใหญ่ในโลก
9 และเราจะกำหนดที่หนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเรา และเราจะปลูกฝังเขาไว้ เพื่อเขาทั้งหลายจะได้อยู่ในที่ของเขาเอง และไม่ต้องถูกกวนใจอีก และคนชั่วจะไม่มา ตีปล้นเขาดังแต่ก่อนมา
10 ตั้งแต่สมัยเมื่อเราตั้งผู้วินิจฉัยเหนือ อิสราเอลประชากรของเรา และเราจะปราบปรามศัตรูทั้งสิ้นของเจ้า ยิ่งกว่านั้นอีก เรากล่าวแก่เจ้าว่า พระเจ้าจะทรงให้เจ้ามีราชวงศ์
11 และอยู่มาเมื่อวันของเจ้าครบแล้ว เจ้าจะไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า เราจะให้บุตรชายคนหนึ่งของเจ้าเกิดขึ้นสืบต่อจากเจ้า ผู้ซึ่งเกิดมาจากตัวเจ้าเอง และเราจะสถาปนาอาณาจักรของเขา
12 เขาจะเป็นผู้สร้างนิเวศให้เรา และเราจะสถาปนาบัลลังก์ของเขาไว้เป็นนิตย์
13 เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา เราจะไม่นำความรักมั่นคงของเราไปจากเขาเสีย อย่างที่เราเอาไปจากคนที่อยู่ก่อนเจ้านั้น
14 แต่เราจะให้เขาดำรงอยู่ในนิเวศของเรา และในอาณาจักรของเราเป็นนิตย์ เราจะสถาปนาบัลลังก์ของเขาไว้เป็นนิตย์'"
15 นาธันก็กราบทูลดาวิดตามถ้อยคำเหล่านี้ทั้งสิ้น และตามนิมิตนี้ทั้งหมด
16 แล้วกษัตริย์ดาวิดก็เสด็จเข้าไปเฝ้าพระเจ้า และกราบทูลว่า "ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า และพงศ์พันธุ์ของข้าพระองค์เป็นอะไรเล่าที่พระองค์ทรงนำ ข้าพระองค์มาไกลจนถึงแค่นี้
17 ข้าแต่พระเจ้า สิ่งนี้เป็นของเล็กน้อยใน สายพระเนตรของพระองค์ และพระองค์ยังตรัสถึงราชวงศ์ของข้าพระองค์ ในอนาคตอันไกลนั้น และทรงมองข้าพระองค์ว่าข้าพระองค์มีฐานะสูง ข้าแต่พระเจ้า
18 และดาวิดจะกล่าวทูลอะไรแก่พระองค์ ได้อีกในเรื่องเกียรติ อันทรงประทานแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรู้จักผู้รับใช้ของพระองค์
19 ข้าแต่พระเจ้า เพื่อทรงเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และตามน้ำพระทัยของพระองค์เองพระองค์ทรงกระทำ การใหญ่ยิ่งนี้ทั้งสิ้น เพื่อจะกระทำให้สิ่งใหญ่นี้เป็นที่รู้กันทั่วไป
20 ข้าแต่พระเจ้า หามีผู้ใดเหมือนพระองค์ไม่ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือพระองค์ ตามที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินกับหูของข้าพระองค์
21 ประชาชาติอื่นใดบนแผ่นดินโลกเหมือนอิสราเอล ประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระเจ้าเสด็จไปไถ่ให้เป็นประชากรของพระองค์ เพื่อทรงกระทำให้พระองค์มีพระนามใหญ่ยิ่งโดยสิ่งที่ใหญ่โต น่าสะพรึงกลัวในการที่ทรงขับไล่ ประชาชาติทั้งหลายให้พ้นหน้าประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ทรงไถ่มาจากอียิปต์
22 และพระองค์ทรงกระทำให้อิสราเอลประชากรของ พระองค์เป็นประชากรของพระองค์เป็นนิตย์ และข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเขาทั้งหลาย
23 ข้าแต่พระเจ้าขอให้พระวจนะซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับ ผู้รับใช้ของพระองค์ และเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์จงดำรงอยู่เป็นนิตย์ และขอพระองค์ทรงกระทำตามที่พระองค์ตรัสแล้วนั้นเถิด
24 และขอพระนามของพระองค์สถาปนาไว้และเกรียงไกร อยู่เป็นนิตย์ว่า "พระเยโฮวาห์จอมโยธาทรงเป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอล คือพระเจ้าแก่อิสราเอล และวงศ์ของดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จะถูกสถาปนาไว้ ต่อพระพักตร์ของพระองค์
25 เพราะข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ได้ทรงสำแดงแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ว่า พระองค์จะทรงสร้างวงศ์ให้ เพราะฉะนั้นผู้รับใช้ของพระองค์จึงได้ประสบความกล้าหาญ ที่จะอธิษฐานต่อพระพักตร์พระองค์
26 ข้าแต่พระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า และพระองค์ได้ทรงสัญญาสิ่งที่ดีนี้ให้แก่ ผู้รับใช้ของพระองค์
27 เพราะฉะนั้นขอให้เป็นที่พอพระทัยพระองค์ ที่จะทรงอวยพระพรแก่วงศ์ของผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อวงศ์นั้นจะดำรงอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์เป็นนิตย์ เพราะว่าข้าแต่พระเจ้า สิ่งใดที่พระองค์ทรงอำนวยพระพรสิ่งนั้นก็ได้รับพระพรเป็นนิตย์"

1พงศาวดาร 18
1 และอยู่ต่อมาดาวิดทรงโจมตีคนฟีลิสเตียและทรง ปราบปรามเขาเสีย ทรงยึดเมืองกัทและชนบทของเมืองนั้นจากมือคนฟีลิสเตีย
2 และพระองค์ทรงโจมตีโมอับและคนโมอับก็เป็น ผู้รับใช้ของดาวิดและนำบรรณาการมาถวาย
3 ดาวิดทรงโจมตี ฮาดัดเอเซอร์พระราชาของเมืองโศบาห์ด้วย ตรงไปยังเมืองฮามัท ขณะเมื่อพระองค์เสด็จไปตั้งกำลังของพระองค์ที่แม่น้ำยูเฟรติส
4 และดาวิดทรงยึดรถรบจากท่านมาหนึ่งพันคัน พลม้าเจ็ดพัน และทหารราบสองหมื่น และดาวิดทรงตัดเอ็นโคนขาม้ารถรบเสียสิ้น แต่ทรงเหลือไว้ให้พอแก่รถรบหนึ่งร้อยคัน
5 และเมื่อคนซีเรียแห่งเมืองดามัสกัสมาช่วยฮาดัดเอเซอร์ พระราชาแห่งเมืองโศบาห์ ดาวิดทรงประหารคนซีเรียเสียสองหมื่นสองพันคน
6 แล้วดาวิดทรงตั้งทหารประจำป้อมในซีเรีย แห่งเมืองดามัสกัส และคนซีเรียเป็นผู้รับใช้ของดาวิด และนำบรรณาการมาถวาย ดาวิดเสด็จไป ณ ที่ใดพระเจ้าทรงประทานชัยชนะแก่พระองค์ ที่นั่น
7 ดาวิดทรงยึดโล่ทองคำที่ผู้รับใช้ของฮาดัดเอเซอร์ถือ และทรงนำมาที่เยรูซาเล็ม
8 ดาวิดทรงยึดทองสัมฤทธิ์เป็นอันมาก จากทิบหาทและจากเมืองคูน หัวเมืองของฮาดัดเอเซอร์ ซึ่งซาโลมอนทรงใช้สร้างขันสาครทองสัมฤทธิ์และเสาหาน และเครื่องใช้ทองสัมฤทธิ์
9 เมื่อโทอูพระราชาแห่งเมืองฮามัท ได้ยินว่า ดาวิดทรงโจมตีกองทัพทั้งสิ้นของฮาดัดเอเซอร์ พระราชาแห่งเมืองโศบาห์แล้ว
10 พระองค์ทรงใช้ฮาโดรัมโอรสของพระองค์ไปเฝ้า ดาวิดเพื่อรับเสด็จ และถวายพระพรที่พระองค์ทรงรบกับฮาดัดเอเซอร์ และทรงชนะ เพราะว่าฮาดัดเอเซอร์ได้สู้รบกับโทอูบ่อยๆ และพระองค์ได้ส่งของทุกอย่างที่ทำด้วยทองคำ ด้วยเงิน และด้วยทองสัมฤทธิ์มาถวาย
11 และกษัตริย์ดาวิดทูลถวายสิ่งเหล่านี้ แก่พระเจ้าพร้อมกับเงิน และทองคำซึ่งพระองค์ทรงนำมาจาก ประชาชาติทั้งปวงจากเอโดม โมอับ คนอัมโมน คนฟีลิสเตีย และอามาเลข
12 และอาบีชัยบุตรนางเศรุยาห์ได้ประหารคนเอโดม หนึ่งหมื่นแปดพันคนเสียในหุบเขาเกลือ
13 และท่านตั้งทหารประจำป้อมในเอโดม และคนเอโดมทั้งสิ้นได้เป็นคนรับใช้ของดาวิด และพระเจ้าทรงประทานชัยชนะแก่ดาวิดไม่ว่า พระองค์เสด็จไป ณ ที่ใดๆ
14 ดาวิดจึงทรงครอบครองเหนืออิสราเอลทั้งสิ้น และพระองค์ทรงให้ความยุติธรรมและความเที่ยงธรรมแก่ ประชาชนของพระองค์ทั้งสิ้น
15 และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์เป็นผู้บัญชาการกองทัพ และเยโฮชาฟัทบุตรอาหิลูดเป็นเจ้ากรมสารบรรณ
16 และศาโดกบุตรอาหิทูบและอาหิเมเลค บุตรอาบียาธาร์เป็นปุโรหิต และชาวะชาเป็นราชเลขา
17 และเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาอยู่เหนือคนเคเรธี และคนเปเลธ และบรรดาโอรสของดาวิดก็เป็นเจ้าหน้าที่ชั้นหัวหน้าใน ราชการของพระราชา

1พงศาวดาร 19
1 และอยู่ต่อมาภายหลังนี้ นาหาชพระราชาของคนอัมโมนสิ้นพระชนม์ และโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครอบครองแทน
2 และดาวิดตรัสว่า "เราจะซื่อตรงต่อฮานูนโอรสของนาหาช เพราะว่าบิดาของท่านได้ซื่อตรงต่อเรา" ดาวิดจึงทรงส่งผู้สื่อสารไปเล้าโลมท่านเกี่ยวกับบิดาของท่าน และข้าราชการของดาวิดก็มายังฮานูนในแผ่นดินของคน อัมโมน เพื่อจะเล้าโลมท่าน
3 แต่บรรดาเจ้านายของคนอัมโมนทูลฮานูนว่า "ฝ่าพระบาทดำริว่า ดาวิดส่งผู้เล้าโลมมาหาฝ่าพระบาทเพราะนับถือ พระราชบิดาของฝ่าพระบาทเช่นนั้นหรือ ข้าราชการของท่านมาหาฝ่าพระบาทเพื่อค้นหาและคว่ำและ สอดแนมแผ่นดินมิใช่หรือ"
4 ฮานูนจึงจับข้าราชการของดาวิดและโกนเขาเสีย และตัดเครื่องแต่งกายเสียที่ตรงตอนกลางเพียงตะโพก และปล่อยเขากลับไป
5 เมื่อมีบางคนไปทูลดาวิดถึงเรื่องคนเหล่านั้น พระองค์ก็ทรงใช้ให้ไปรับเขา เพราะคนเหล่านั้นอายมาก และพระราชาตรัสว่า "จงพักอยู่ที่เมืองเยรีโคจนกว่าเคราของท่านทั้งหลายจะขึ้น แล้วจึงค่อยกลับมา"
6 เมื่อคนอัมโมนเห็นว่า เขาทั้งหลายเป็นที่เกลียดชังแก่ดาวิด ฮานูนและคนอัมโมนจึงส่งเงินหนึ่งพันตะลันต์ไปจ้างรถรบ และพลม้าจากเมโสโปเตเมีย จากอารัมมาอาคาห์ และจากโศบาห์
7 เขาได้จ้างรถรบสามหมื่นสองพันคัน และพระราชาแห่งเมืองมาอาคาห์กับกองทัพของท่าน ผู้ซึ่งมาตั้งค่ายอยู่ที่หน้าเมืองเมเดบา และคนอัมโมนก็รวบรวมกันมาจากหัวเมืองของเขาทั้งหลาย และมาทำสงคราม
8 เมื่อดาวิดทรงทราบจึงใช้โยอาบ และกองทัพทแกล้วทหารทั้งสิ้นไป
9 คนอัมโมนออกมาจัดทัพที่ทางเข้าประตูเมือง และบรรดาพระราชาที่ยกมาอยู่ที่ชนบทกลางแจ้งต่างหาก
10 เมื่อโยอาบเห็นว่าการศึกนั้น ขนาบอยู่ข้างหน้าและข้างหลัง ท่านจึงคัดเอาคนอิสราเอลที่ สรรไว้แล้วและจัดทัพเข้าไปต่อสู้คนซีเรีย
11 ส่วนคนของท่านที่เหลืออยู่ ท่านก็มอบไว้ในการบังคับบัญชาของ อาบีชัยน้องชายของท่าน คนเหล่านั้นก็จัดเข้าสู้กับคนอัมโมน
12 และท่านพูดว่า "ถ้ากำลังคนซีเรียแข็งเหลือกำลังของเราแล้ว เจ้าจงช่วยเรา แต่ถ้ากำลังคนอัมโมนแข็งเกินกำลังของเจ้า เราจะช่วยเจ้า
13 จงมีความกล้าหาญเถิด และให้เราเป็นลูกผู้ชายเพื่อชนชาติของเรา และเพื่อหัวเมืองของพระเจ้าของเรา และขอพระเจ้าทรงกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นชอบเถิด"
14 ดังนั้นโยอาบและประชาชนผู้อยู่กับท่าน ได้เข้ามาใกล้ข้างหน้าคนซีเรียเพื่อสู้รบกัน และเขาทั้งหลายก็แตกหนีไปต่อหน้าท่าน
15 และเมื่อคนอัมโมนเห็นว่าคนซีเรียหนีไปแล้ว เขาก็หนีไปให้พ้นหน้าอาบีชัยน้องชายของโยอาบด้วย และเข้าไปในเมือง แล้วโยอาบก็กลับมายังเยรูซาเล็ม
16 แต่เมื่อคนซีเรียเห็นว่าเขาพ่ายแพ้แก่อิสราเอล เขาจึงส่งผู้สื่อสารไปนำคนซีเรีย ซึ่งอยู่ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติสมา มีโชฟัคผู้บังคับบัญชากองทัพของฮาดัดเอเซอร์ เป็นหัวหน้าของเขาทั้งหลาย
17 และเมื่อมีคนกราบทูลดาวิด พระองค์ก็ทรงรวมอิสราเอลทั้งสิ้นเข้าด้วยกัน และข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาหาเขา และจัดทัพต่อสู้กับเขา และเมื่อดาวิดทรงจัดทัพเข้าต่อสู้กับคน ซีเรียเขาทั้งหลายต่อสู้กับพระองค์
18 และคนซีเรียก็หนีไปต่อหน้าอิสราเอล และดาวิดทรงประหารคนซีเรียคือคนของรถรบเจ็ดพันคน และทหารราบสี่หมื่นคน และฆ่าโชฟัคผู้บัญชาการกองทัพของเขาทั้งหลายด้วย
19 และเมื่อผู้รับใช้ของฮาดัดเอเซอร์เห็นว่าเขา พ่ายแพ้ต่ออิสราเอล เขาก็ยอมสงบสุขกับดาวิด และเป็นเมืองขึ้นของพระองค์ คนซีเรียจึงไม่ช่วยคนอัมโมนอีกต่อไป

1พงศาวดาร 20
1 ครั้นถึงฤดูแล้งเมื่อบรรดากษัตริย์ยกกองทัพออกไปรบ โยอาบก็นำกองทัพไปกวาดล้างแผ่นดินของคนอัมโมน และมาล้อมเมืองรับบาห์ไว้แต่ดาวิดประทับที่เยรูซาเล็ม และโยอาบก็โจมตีเมืองรับบาห์ และคว่ำเมืองนั้นเสีย
2 และดาวิดทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรของ พระราชาของเขาทั้งหลาย พระองค์ทรงทราบว่า มงกุฎนั้นมีทองคำหนักหนึ่งตะลันต์และมีเพชรพลอยซึ่ง ต่อมาอยู่บนพระเศียรของดาวิด และพระองค์ทรงริบของจากเมืองนั้น ได้ข้าวของเป็นอันมาก
3 พระองค์ทรงนำประชาชนที่อยู่ในเมืองนั้นออกมา ตั้งเขาให้ทำงานหนักอยู่กับเลื่อย และเหล็กขุดและขวาน และดาวิดทรงกระทำเช่นนั้นแก่หัวเมืองทั้งสิ้นของคนอัมโมน แล้วดาวิดกับประชาชนทั้งปวงก็กลับสู่เยรูซาเล็ม
4 และอยู่มาภายหลังเกิดสงคราม ขึ้นกับคนฟีลิสเตียที่เมืองเกเซอร์ แล้วสิบเบคัยตระกูลหุชาห์ได้ สังหารสิปปัยผู้เป็นเชื้อสายของมนุษย์ยักษ์เสีย และคนฟีลิสเตียก็ถูกปราบปราม
5 และมีสงครามกับคนฟีลิสเตียอีก และเอลฮานันบุตรยาอีร์ได้ฆ่าลามี น้องชายของโกลิอัทชาวกัทเสีย ผู้มีหอกที่มีด้ามโตเท่าไม้กระพั่นทอผ้า
6 และมีสงครามที่เมืองกัทอีก มีชายคนหนึ่งรูปร่างใหญ่โต ผู้ที่มือข้างหนึ่งมีนิ้วหกนิ้ว และนิ้วเท้าข้างละหกนิ้ว จำนวนยี่สิบสี่นิ้ว และเขามีเชื้อสายมาจากมนุษย์ยักษ์ด้วย
7 และเมื่อเขาท้าทายอิสราเอล โยนาธานบุตรชิเมอี พระเชษฐาของดาวิดก็ประหารเขาเสีย
8 คนเหล่านี้สืบเนื่องมาจากมนุษย์ยักษ์ในเมืองกัท และเขาล้มตายด้วยพระหัตถ์ของดาวิดและด้วยมือ ผู้รับใช้ของพระองค์

1พงศาวดาร 21
1 ซาตานได้ยืนขึ้นต่อสู้อิสราเอล และดลพระทัยให้ดาวิดนับจำนวนอิสราเอล
2 ดาวิดจึงตรัสกับโยอาบและผู้บังคับบัญชากองทัพว่า "จงไปนับอิสราเอลตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบาถึงเมืองดาน แล้วนำรายงานมาให้เรา เพื่อจะได้ทราบจำนวนรวมของเขาทั้งหลาย"
3 แต่โยอาบทูลว่า "ขอพระเจ้าทรงเพิ่มประชากรของพระองค์ อีกร้อยเท่าของที่มีอยู่แล้ว ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพระบาท แต่ประชาชนนี้ทั้งสิ้นเป็นผู้รับใช้ของ เจ้านายของข้าพระบาทมิใช่หรือ ไฉนเจ้านายของข้าพระบาทจึงรับสั่งเช่นนี้ ไฉนพระองค์จึงทรงนำกรรมชั่วมาสู่อิสราเอล"
4 แต่โยอาบขัดรับสั่งมิได้จึงจากไป และไปตลอดคนอิสราเอลทั้งสิ้น และกลับมายังเยรูซาเล็ม
5 และโยอาบถวายจำนวนประชาชนที่นับได้แก่ดาวิด ในอิสราเอลทั้งสิ้นมีหนึ่งล้านหนึ่งแสนคนที่ชักดาบ และในยูดาห์มีสี่แสนเจ็ดหมื่นคนที่ชักดาบ
6 แต่ในการนับนั้นท่านมิได้รวมเลวีและเบนยามิน เพราะว่าพระบัญชาของพระราชาเป็นที่น่าเกลียดแก่โยอาบ
7 แต่พระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยในเรื่องนี้ และพระองค์ทรงลงโทษอิสราเอล
8 และดาวิดทูลพระเจ้าว่า "ข้าพระองค์ได้ทำบาปใหญ่ยิ่งในการที่ข้าพระองค์ ได้กระทำสิ่งนี้ ข้าแต่พระองค์ ขอทรงให้อภัยความบาปชั่วของผู้รับใช้ของพระองค์ เพราะข้าพระองค์ได้กระทำการอย่างโง่เขลามาก"
9 และพระเจ้าตรัสกับกาดผู้ทำนายของดาวิดว่า
10 "จงไปบอกดาวิดว่า 'พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เราเสนอเจ้าสามประการจงเลือกเอาประการหนึ่ง เพื่อเราจะได้กระทำให้แก่เจ้า'"
11 กาดจึงเข้าเฝ้าดาวิดและกราบทูลพระองค์ว่า "พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า จงเลือกเอาตามที่เจ้าพอใจ
12 คือกันดารอาหารสามปี หรือการล้างผลาญโดยศัตรูของเจ้าสามเดือนขณะที่ดาบของศัตรูจะขับเจ้าทัน หรือดาบของพระเจ้าสามวันคือโรคระบาดบนแผ่นดิน และทูตของพระเจ้าทำลายทั่วไปในดินแดนทั้งสิ้น ของอิสราเอล บัดนี้ขอทรงพิจารณาดูว่าจะให้ข้าพระบาทกราบทูล พระองค์ผู้ทรงใช้ข้าพระบาทมาว่าประการใด"
13 แล้วดาวิดตรัสกับกาดว่า "เรามีความกระวนกระวายมาก ขอให้เราตกเข้าไปอยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้า เพราะพระกรุณาคุณของพระองค์ใหญ่ยิ่งนัก แต่ขอ อย่าให้เราตกเข้าไปในมือของมนุษย์เลย"
14 ดังนั้นพระเจ้าทรงให้โรคระบาดเกิดขึ้นในอิสราเอล และคนอิสราเอลได้ล้มตายเจ็ดหมื่นคน
15 และพระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์ไปยัง เยรูซาเล็มเพื่อจะทำลายเสีย แต่เมื่อท่านจะลงมือทำลาย พระเจ้าทรงเห็นและพระองค์ทรงกลับพระทัยในเหตุร้ายนั้น และพระองค์ตรัสกับทูตผู้ทำลายนั้นว่า "พอแล้ว ยับยั้งมือของเจ้าได้" ส่วนทูตของพระเจ้าก็กำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าว ของโอรนันคนเยบุส
16 และดาวิดแหงนพระพักตร์ทรงเห็นทูตของพระเจ้า ยืนระหว่างแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์ และในมือถือดาบที่ชักออกเหนือเยรูซาเล็ม แล้วดาวิดและพวกผู้ใหญ่สวมผ้ากระสอบซบหน้าลง
17 และดาวิดทูลพระเจ้าว่า "ข้าพระองค์มิใช่หรือที่บัญชาให้นับประชาชน ข้าพระองค์เป็นผู้ได้กระทำบาป และได้กระทำความชั่วร้ายยิ่งนัก แต่บรรดาแกะเหล่านี้เขาได้กระทำอะไร ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ ขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่เหนือข้าพระองค์ และพงศ์พันธุ์ของข้าพระองค์ แต่ขออย่าให้โรคร้ายนั้นอยู่เหนือประชากรของพระองค์"
18 แล้วทูตของพระเจ้าได้บัญชาให้กาดทูลดาวิดว่า ให้ดาวิดขึ้นไปสร้างแท่นบูชาถวายแด่พระเจ้าที่ลาน นวดข้าวของโอรนันคนเยบุส
19 ดาวิดจึงเสด็จขึ้นไปตามคำของกาด ซึ่งท่านได้กราบทูลในพระนามของพระเจ้า
20 ฝ่ายโอรนันกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ ท่านหันมาเห็นทูตสวรรค์ บุตรชายสี่คนของท่านที่อยู่กับท่านก็ซ่อนตัวเสีย
21 เมื่อดาวิดเสด็จมายังโอรนัน โอรนันมองเห็นดาวิด และออกไปจากลานนวดข้าว ถวายบังคมดาวิดด้วยซบหน้า ลงถึงดิน
22 และดาวิดตรัสกับโอรนันว่า "จงให้ที่ลานนวดข้าวแก่เราเถิด เพื่อเราจะสร้างแท่นบูชาถวายแด่พระเจ้าบนนั้น จงให้แก่เราตามราคาเต็ม เพื่อว่าภัยพิบัตินั้น จะได้ระงับเสียจากประชาชน"
23 แล้วโอรนันกราบทูลดาวิดว่า "ขอทรงรับไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ และขอพระราชาเจ้านาย ของข้าพระบาทกระทำสิ่งที่พระองค์ทรงเห็นชอบเถิด นี่พ่ะย่ะค่ะ ข้าพระบาทขอถวายโคสำหรับเครื่องเผาบูชา และถวายเลื่อนนวดข้าวให้เป็นฟืน แล้วข้าวสาลีเป็นธัญญบูชา ข้าพระบาทขอถวายหมด"
24 แต่กษัตริย์ดาวิดตรัสกับโอรนันว่า "หามิได้ แต่เราจะซื้อเอาตามราคาเต็ม เราจะไม่เอาของของเจ้าถวายพระเจ้า หรือถวายสิ่งที่เรามิได้เสียค่าเป็นเครื่องเผาบูชา"
25 ดาวิดจึงทรงชำระให้โอรนันเป็นทองคำน้ำหนัก หกร้อยเชเขลเพื่อที่นั้น
26 ดาวิดก็ทรงสร้างแท่นบูชาถวายแด่พระเจ้าที่นั่น และทรงถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องศานติบูชา และกราบทูลออกพระนามพระเยโฮวาห์ และพระเจ้าทรงตอบพระองค์ด้วยไฟจาก สวรรค์บนแท่นเครื่องเผาบูชา
27 แล้วพระเจ้าก็ทรงบัญชาทูตสวรรค์ และท่านก็เอาดาบใส่ฝักเสีย
28 ครั้งนั้น เมื่อดาวิดทรงเห็นว่าพระเจ้าทรง ตอบพระองค์ที่ลานนวดข้าวของโอรนันคนเยบุส พระองค์ก็ทรงถวายสัตวบูชาที่นั่น
29 เพราะพลับพลาของพระเจ้าซึ่งโมเสสได้สร้างขึ้น ในถิ่นทุรกันดาร และแท่นเครื่องเผาบูชา ในเวลานั้นอยู่ในปูชนียสถานสูงที่กิเบโอน
30 แต่ดาวิดจะไปทูลถามพระเจ้าที่นั่นไม่ได้ เพราะพระองค์ทรงกลัวดาบของเทวทูตของพระเจ้า

1พงศาวดาร 22
1 แล้วดาวิดตรัสว่า "นี่แหละพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้า นี่แหละ แท่นเครื่องเผาบูชาสำหรับอิสราเอล"
2 ดาวิดทรงบัญชาให้รวบรวมคนต่างด้าวที่อยู่ในแผ่นดินอิสราเอล และพระองค์ทรงจัดคนสกัดหินให้เตรียมหินสกัดเพื่อสร้างพระนิเวศของพระเจ้า
3 ดาวิดยังทรงจัดสะสมเหล็กเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นตะปูของบานประตูรั้วและเป็นเหล็กหนีบ ทั้งทองสัมฤทธิ์เป็นจำนวนมากเหลือที่จะชั่งได้
4 และไม้สนสีดาร์นับไม่ถ้วน เพราะว่าชาวไซดอน และชาวไทระ ได้นำไม้สนสีดาร์จำนวนมากมายมาถวายดาวิด
5 เพราะดาวิดตรัสว่า "ซาโลมอนบุตรของเรายังเด็กอยู่และไม่เคยงาน และพระนิเวศซึ่งจะสร้างถวายพระเจ้านั้นต้องหรูหราอย่างยิ่ง มีชื่อเสียงและศักดิ์ศรีในบรรดาประเทศทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเราจึงจะจัดเตรียมไว้" ดาวิดจึงทรงจัดวัตถุเป็นจำนวนมากก่อนพระองค์สิ้นพระชนม์
6 แล้วพระองค์ทรงเรียกซาโลมอนราชโอรสของพระองค์ และกำชับท่านให้สร้างพระนิเวศถวายพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
7 ดาวิดรับสั่งซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า "ลูกเอ๋ย เรามีใจประสงค์ที่จะสร้างพระนิเวศถวายพระนามแห่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา
8 แต่พระวจนะของพระเจ้ามายังเราว่า 'เจ้าได้ทำให้โลหิตตกมาก และได้ทำสงครามใหญ่โต เจ้าอย่าสร้างพระนิเวศเพื่อนามของเราเลย เพราะเจ้าได้ทำให้โลหิตตกเป็นอันมากต่อหน้าเราบนแผ่นดินโลก
9 ดูเถิด บุตรชายคนหนึ่งจะบังเกิดมาแก่เจ้า เขาจะเป็นคนแห่งความสงบ เราจะให้ความสงบแก่เขาให้พ้นจากศัตรูทั้งสิ้นของเขารอบข้าง เพราะเขาจะมีชื่อว่าซาโลมอน และเราจะให้ศานติภาพและความสงบแก่อิสราเอลในสมัยของเขา
10 เขาจะสร้างพระนิเวศเพื่อนามของเรา เขาจะเป็นบุตรชายของเรา และเราจะเป็นบิดาของเขา และเราจะสถาปนาราชบัลลังก์ของเขาเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์'
11 นี่แหละ ลูกของข้าเอ๋ย ขอพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเจ้า และขอให้เจ้ามีความสำเร็จ และสร้างพระนิเวศของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าสำเร็จ ดังที่พระองค์ตรัสถึงเรื่องเจ้า
12 ขอเพียงพระเจ้าประสาทให้เจ้ามีความเฉลียวฉลาด และความเข้าใจและทรงตั้งเจ้าให้ปกครองอิสราเอล และทรงโปรดให้เจ้ารักษาธรรมบัญญัติของ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า
13 แล้วเจ้าจะทำสำเร็จ ถ้าเจ้าจะระมัดระวังที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย ซึ่งพระเจ้าทรงบัญชากับโมเสสเกี่ยวกับอิสราเอล จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด อย่ากลัวและอย่าท้อถอยเลย
14 และดูเถิด เราได้จัดเตรียมไว้เพื่อพระนิเวศของพระเจ้าด้วยความยากเหนื่อยอย่างยิ่ง เป็นทองคำหนักหนึ่งแสนตะลันต์ เงินหนักหนึ่งล้านตะลันต์ ทองสัมฤทธิ์และเหล็กเหลือที่จะชั่ง เพราะมีมากมายเหลือเกิน เราได้จัดเตรียมตัวไม้และหินด้วย เจ้าจะเพิ่มเติมเข้าอีกก็ได้
15 ยิ่งกว่านั้นเจ้ามีคนทำงานมากมาย คือช่างสกัดหิน ช่างก่อ ช่างไม้ และช่างฝีมือทุกชนิด
16 ทำเครื่องทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ และเหล็ก ลุกขึ้นทำไปเถิด ขอพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเจ้า"
17 ดาวิดทรงบัญชาประมุขทั้งปวงของอิสราเอลให้ช่วย ซาโลมอนโอรสของพระองค์ด้วยว่า
18 "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตอยู่กับเจ้ามิใช่หรือ และพระองค์มิได้ประทานการหยุดพักสงบแก่เจ้าทุกด้านหรือ เพราะพระองค์ทรงมอบชาวแผ่นดินนี้ไว้ในมือของเรา และแผ่นดินนั้นก็ราบคาบต่อพระพักตร์พระเจ้าและ ต่อหน้าประชากรของพระองค์
19 บัดนี้จงตั้งจิตตั้งใจของเจ้าที่ จะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า จงลุกขึ้นสร้างสถานนมัสการของพระเจ้า เพื่อว่าหีบพันธสัญญาของพระเจ้าก็ดี และเครื่องใช้อันบริสุทธิ์ของพระเจ้าก็ดี จะได้นำเอามาไว้ในพระนิเวศที่สร้าง ขึ้นเพื่อพระนามของพระเจ้า"

1พงศาวดาร 23
1 เมื่อดาวิดทรงชราและหง่อมแล้ว พระองค์ทรงตั้งซาโลมอน โอรสของพระองค์ให้เป็นพระราชาเหนือ อิสราเอล
2 ดาวิดทรงให้ประชุมเจ้านายทั้งสิ้นของอิสราเอล และบรรดาปุโรหิตและคนเลวี
3 คนเลวีนั้นอายุตั้งแต่สามสิบปีขึ้นไปก็ให้นับไว้ และรวมได้สามหมื่นแปดพันคน
4 ดาวิดตรัสว่า "จากพวกนี้ สองหมื่นสี่พันคนจะต้องดูแลการงานในพระนิเวศของพระเจ้า และหกพันคนเป็นเจ้าหน้าที่และผู้วินิจฉัย
5 สี่พันคนเป็นนายประตู และอีกสี่พันคนจะถวายสรรเสริญแก่พระเจ้าด้วยเครื่องดนตรี ซึ่งเราได้สร้างไว้ให้ใช้สรรเสริญ"
6 และดาวิดทรงจัดแบ่งเป็นกองๆ ตามบุตรเลวี คือเกอร์โชม โคฮาท และเมรารี
7 จากคนเกอร์โชม คือลาดาน และชิเมอี
8 บุตรลาดานคือเยฮีเอลผู้เป็นหัวหน้า และเศธามและโยเอล สามคน
9 บุตรชิเมอีคือเชโลโมท ฮาซีเอล และฮาราน สามคน คนเหล่านี้เป็นหัวหน้า ตระกูลลาดาน
10 และบุตรชิเมอีคือยาหาท คินา เยอูช และเบรียาห์ ทั้งสี่คนนี้เป็นบุตรชิเมอี
11 และยาหาทเป็นหัวหน้า และศิซาห์เป็นที่สอง แต่เยอูชและเบรียาห์ ไม่มีบุตรชายมาก เพราะฉะนั้นในการนับจึงรวมเข้าเป็นตระกูลเดียวกัน
12 บุตรโคฮาท คืออัมราม อิสฮาร์ เฮโบรน และอุสซีเอล สี่คน
13 บุตรอัมราม คืออาโรน และโมเสส เขาตั้งอาโรนไว้ต่างหากให้เป็นผู้ ทำพิธีชำระของที่บริสุทธิ์ที่สุด ทั้งเขาและบุตรของเขาสืบไปเป็นนิตย์ เพื่อเผาเครื่องหอมถวายพระเจ้า และปรนนิบัติพระองค์ และอวยพระพรในพระนามของพระองค์เป็นนิตย์
14 ฝ่ายโมเสสคนของพระเจ้านั้น บุตรของท่านมีชื่อเสียงท่ามกลางคนเผ่าเลวี
15 บุตรของโมเสส คือเกอร์โชม กับเอลีเอเซอร์
16 บุตรเกอร์โชม คือเชบูเอล ผู้เป็นหัวหน้า
17 บุตรเอลีเอเซอร์ คือเรหับยาห์ ผู้เป็นหัวหน้า เอลีเอเซอร์ไม่มีบุตรชายอีก แต่บุตรเรหับยาห์มีมากนัก
18 บุตรอิสฮาห์ คือเชโลมิท ผู้เป็นหัวหน้า
19 บุตรเฮโบรน คือเยรียาห์ผู้เป็นหัวหน้า อามาริยาห์ที่สอง ยาฮาซีเอลที่สาม และเยคาเมอัมที่สี่
20 บุตรอุสซีเอล คือมีคาห์ผู้เป็นหัวหน้า และอิสชีอาห์ที่สอง
21 บุตรเมรารี คือมาห์ลีและมูชี บุตรมาห์ลีคือเอเลอาซาร์ และคีช
22 เอเลอาซาร์สิ้นชีวิตไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรหญิง บุตรคีช ผู้เป็นญาติของเขา แต่งงานกับเขา
23 บุตรมูชี คือมาห์ลี เอเดอร์ และเยเรโมท สามคน
24 คนเหล่านี้เป็นคนเลวีตามตระกูลของเขา เป็นหัวหน้าของตระกูลของเขา ตามที่เขาได้ขึ้นทะเบียนไว้ ตามจำนวนชื่อรายบุคคล อายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป ผู้ซึ่งจะทำงานปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า
25 เพราะดาวิดตรัสว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ได้ประสาทการหยุดพักสงบแก่ประชากรของพระองค์ และพระองค์ประทับในเยรูซาเล็มเป็นนิตย์
26 และคนเลวีจึงไม่ต้องหาบหามพลับพลา หรือเครื่องใช้ใดๆ เพื่องานปรนนิบัติอีกเลย"
27 (เพราะตามพระดำรัสสุดท้ายของดาวิด คนเลวีตั้งแต่อายุยี่สิบปีขึ้นไปถูกนับ)
28 "แต่หน้าที่ของเขาจะต้องคอยช่วยบุตรอาโรนในงาน ปรนนิบัติพระนิเวศแห่งพระเจ้า มีงานดูแลลานและห้องและงานชำระของทุกอย่างที่บริสุทธิ์ และงานใดๆซึ่งเป็นงานปรนนิบัติของพระนิเวศแห่งพระเจ้า
29 และช่วยเกี่ยวกับเรื่องขนมปังตั้งถวายด้วย เรื่องยอดแป้งสำหรับธัญญบูชา ขนมปังไร้เชื้อ ของปิ้งบูชา ของบูชาเคล้าน้ำมัน และเครื่องตวง เครื่องวัดทุกขนาด
30 และทุกๆเช้า เขาจะต้องยืนโมทนาและสรรเสริญพระเจ้า และเวลาเย็นก็เช่นเดียวกัน
31 ทั้งในเวลาเมื่อประชาชนถวาย เครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้าในวันสะบาโต ในวันขึ้นหนึ่งค่ำ ในวันเทศกาล ตามจำนวนที่กำหนดให้ถวายบูชา ต่อพระพักตร์พระเจ้าทุกวันเรื่อยไป
32 ดังนี้แหละเขาจะดูแลเต็นท์นัดพบและวิสุทธิสถาน และจะรับใช้บุตรอาโรนพี่น้องของเขา เพื่องานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระเจ้า"

1พงศาวดาร 24
1 กองเวรของพงศ์พันธุ์อาโรนมีดังนี้ บุตรอาโรนคือนาดับ อาบีฮู เอเลอาซาร์ และอิธามาร์
2 แต่นาดับและอาบีฮูสิ้นชีวิตก่อนบิดาของตน และไม่มีบุตร เอเลอาซาร์และอิธามาร์จึงทำหน้าที่ตำแหน่งปุโรหิต
3 ด้วยความช่วยเหลือของศาโดกบุตรเอเลอาซาร์และ อาหิเมเลคบุตรอิธามาร์ ดาวิดได้ทรงจัดเป็นเวรตามหน้าที่ในการปรนนิบัติของเขาทั้งหลาย
4 มีหัวหน้าในหมู่บุตรเอเลอาซาร์มากกว่าในหมู่บุตรอิธามาร์ เขาจึงจัดแบ่งดังนี้ พวกบุตรเอเลอาซาร์มีสิบหกคนเป็นหัวหน้าของตระกูล และพวกบุตรอิธามาร์ตามตระกูลของเขามีแปดคน
5 เขาทั้งหลายจัดแบ่งด้วยฉลากเหมือนกันหมด เพราะมีเจ้าหน้าที่ของสถานนมัสการ และเจ้าหน้าที่ของพระเจ้าเป็นบุตรเอเลอาซาร์ กับบุตรอิธามาร์ทั้งสองฝ่าย
6 และเชไมอาห์ บุตรนาธันเอลอาลักษณ์ ผู้เป็นพวกเลวีได้บันทึกไว้ต่อพระพักตร์พระราชา ต่อหน้าเจ้านายและศาโดกปุโรหิต และอาหิเมเลคบุตรอาบียาธาร์ และหัวหน้าตระกูลของปุโรหิตและของคนเลวี เขาจับฉลากตระกูลหนึ่งจากเอเลอาซาร์ และจับฉลากตระกูลหนึ่งจากอิธามาร์
7 ฉลากแรกตกกับเยโฮยาริบ ที่สองตกแก่เยดายาห์
8 ที่สามแก่ฮาริม ที่สี่แก่เสโอริม
9 ที่ห้าแก่มัลคิยาห์ ที่หกแก่มิยามิน
10 ที่เจ็ดแก่ฮักโขส ที่แปดแก่อาบียาห์
11 ที่เก้าแก่เยชูอา ที่สิบแก่เชคานิยาห์
12 ที่สิบเอ็ดแก่ชิเอลียาชีบ ที่สิบสองแก่ยาคิม
13 ที่สิบสามแก่หุปปาห์ ที่สิบสี่แก่เยเชเบอับ
14 ที่สิบห้าแก่บิลกาห์ ที่สิบหกแก่อิมเมอร์
15 ที่สิบเจ็ดแก่เฮซีร์ ที่สิบแปดแก่ฮัปปิสเซส
16 ที่สิบเก้าแก่เปธาหิยาห์ ที่ยี่สิบแก่เยเฮเซเคล
17 ที่ยี่สิบเอ็ดแก่ยาคีน ที่ยี่สิบสองแก่กามูล
18 ที่ยี่สิบสามแก่เดไลยาห์ ที่ยี่สิบสี่แก่มาอาซิยาห์
19 คนเหล่านี้มีหน้าที่กำหนดของเขา ในการปรนนิบัติที่จะเข้าไปในพระนิเวศของพระเจ้า ตามระเบียบที่อาโรน บิดาของเขาได้ตั้งไว้สำหรับเขาทั้งหลาย ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ได้ทรงบัญชาเขาไว้
20 ฝ่ายเชื้อสายของเลวีที่เหลืออยู่คือจากบุตรอัมราม มีชูบาเอล จากบุตรชูบาเอลมี เยเดยาห์
21 ฝ่ายเรหับยาห์ คือจากบุตรเรหับยาห์ มีอิสชีอาห์ ผู้เป็นหัวหน้า
22 จากคนอิสฮาร์มีเชโลโมท จากบุตรเชโลโมทมียาหาท
23 และบุตรเฮโบรน คือเยรียาห์ผู้เป็นหัวหน้า อามาริยาห์ที่สอง ยาฮาซีเอลที่สาม เยคาเมอัมที่สี่
24 บุตรอุสซีเอล คือมีคาห์ บุตรมีคาห์ คือชามีร์
25 น้องชายของมีคาห์ คืออิสชีอาห์ บุตรอิสชีอาห์ คือเศคาริยาห์
26 บุตรเมรารี คือมาห์ลีและมูชี บุตรยาอาซียาห์คือเบโน
27 ฝ่ายพงศ์พันธุ์เมรารีคือของยาอาซียาห์ มีเบโนโชฮัม ศักเกอร์ และอิบรี
28 ของมาห์ลี คือเอเลอาซาร์ผู้ไม่มีบุตรชาย
29 ของคีช บุตรคีช คือเยราเมเอล
30 บุตรมูชี คือมาห์ลี เอเดอร์และเยรีโมท คนเหล่านี้เป็นพงศ์พันธุ์ของคนเลวี ตามตระกูลของเขาทั้งหลาย
31 คนเหล่านี้ คือแต่ละหัวหน้าของตระกูล และน้องชายของเขาก็เหมือนกันได้จับฉลาก ด้วยอย่างเดียวกับพี่น้องของเขา คือบุตรอาโรน ต่อพระพักตร์ของกษัตริย์ดาวิด ศาโดก อาหิเมเลค และต่อหน้าหัวหน้าของตระกูลของปุโรหิตและของคนเลวี

1พงศาวดาร 25
1 ดาวิดและบรรดาหัวหน้าของผู้ปรนนิบัติได้จัดแยก บางคนไว้คือจากบุตรหลานของอาสาฟ และของเฮมาน และของเยดูธูน ผู้ซึ่งจะเผยพระวจนะด้วยพิณเขาคู่ ด้วยพิณใหญ่และด้วยฉาบ รายชื่อของผู้ทำงานตามหน้าที่ของเขา คือ
2 จากพงศ์พันธุ์ของอาสาฟ คือศักเกอร์ โยเซฟ เนธานิยาห์ และอาชาเรลาห์ บุตรหลานของอาสาฟ ภายใต้การนำของอาสาฟ ผู้เผยพระวจนะภายใต้การทรงนำของพระราชา
3 จากเยดูธูน คือพงศ์พันธุ์เยดูธูน มีเกดาลิยาห์ เศรี เยชายาห์ ฮาชาบิยาห์ และมัททีธิยาห์ หกคนภายใต้การนำของเยดูธูน บิดาของเขา ผู้เผยพระวจนะด้วยพิณเขาคู่ในการโมทนา และสรรเสริญต่อพระเจ้า
4 จากเฮมาน คือพงศ์พันธุ์เฮมาน มีบุคคียาห์ มัทธานิยาห์ อุสซีเอล และเยรีโมท ฮานานิยาห์ ฮานานี เอลียาธาห์ กิดดาลที และโรมัมทีเอเซอร์ โยชเบคาชาห์ มัลโลธี โฮธีร์ มาหะซิโอท
5 คนเหล่านี้เป็นบุตรเฮมานผู้ทำนายของพระราชา ตามพระสัญญาของพระเจ้า เพื่อจะเป่าแตร และพระเจ้า ทรงประทานบุตรชายสิบสี่คน และบุตรหญิงสามคนแก่เฮมาน
6 เขาทั้งหลายทุกคนอยู่ภายใต้การนำของบิดาของเขา เพื่อประกอบเพลงในพระนิเวศของพระเจ้า ด้วยฉาบ พิณใหญ่ และพิณเขาคู่ เพื่อการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า อาสาฟ เยดูธูน และเฮมาน อยู่ภายใต้พระราชดำรัสสั่งของพระราชา
7 จำนวนคนของเขารวมทั้งพี่น้องของเขา ผู้รับการฝึกในการร้องเพลงถวายพระเจ้า ทุกคนผู้มีความชำนาญ มีสองร้อยแปดสิบแปดคน
8 เขาทั้งหลายจับฉลากหน้าที่ของเขา ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ครูและศิษย์ก็เหมือนกัน
9 ฉลากแรกตกเป็นพวกของอาสาฟได้แก่โยเซฟ ที่สองได้แก่เกดาลิยาห์ ฉลากตกแก่เขา และพี่น้องและบุตรของเขา สิบสองคน
10 ที่สามตกแก่ศักเกอร์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
11 ที่สี่ได้แก่อิสรี บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
12 ที่ห้าได้แก่เนธานิยาห์ บุตรของเขา และพี่น้องของเขา สิบสองคน
13 ที่หกได้แก่บุคคิยาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
14 ที่เจ็ดได้แก่เยชาเรลาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
15 ที่แปดได้แก่เยชายาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
16 ที่เก้าได้แก่มัทธานิยาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
17 ที่สิบได้แก่ชิเมอี บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
18 ที่สิบเอ็ดได้แก่อาซาเรล บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
19 ที่สิบสองได้แก่ฮาชาบิยาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
20 ที่สิบสามได้แก่ชูบาเอล บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
21 ที่สิบสี่ได้แก่มัททีธิยาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
22 ที่สิบห้าได้แก่เยเรโมท บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
23 ที่สิบหกได้แก่ฮานานิยาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
24 ที่สิบเจ็ดได้แก่โยชเบคาชาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
25 ที่สิบแปดได้แก่ฮานานี บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
26 ที่สิบเก้าได้แก่มัลโลธี บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
27 ที่ยี่สิบได้แก่เอลียาธาห์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
28 ที่ยี่สิบเอ็ดได้แก่โฮธีร์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
29 ที่ยี่สิบสอง ได้แก่กิดดาลที บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
30 ที่ยี่สิบสามได้แก่มาหะซิโอท บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน
31 ที่ยี่สิบสี่ได้แก่โรมัมทีเอเซอร์ บุตรของเขาและพี่น้องของเขา สิบสองคน

1พงศาวดาร 26
1 ฝ่ายกองเวรเฝ้าประตู จากคนโคราห์มีเมเชเลมิยาห์บุตรโคเร เป็นพงศ์พันธุ์ของอาสาฟ
2 และเมเชเลมิยาห์มีบุตร คือเศคาริยาห์บุตรหัวปี เยดียาเอลที่สอง เศบาดิยาห์ที่สาม ยาทนีเอลที่สี่
3 เอลามที่ห้า เยโฮฮานันที่หก เอลีโฮนัยที่เจ็ด
4 และโอเบดเอโดมมีบุตร คือเชไมอาห์บุตรหัวปีเยโฮซาบาดที่สอง โยอาห์ที่สาม สาคาร์ที่สี่ เนธันเอลที่ห้า
5 อัมมีเอลที่หก อิสสาคาร์ที่เจ็ด เปอุลเลธัยที่แปด เพราะว่าพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่เขา
6 และแก่เชไมอาห์บุตรของเขาด้วย มีบุตรชายหลายคนเกิดแก่เขา เป็นผู้ปกครองในครัวเรือนบิดาของเขา เพราะเขาทั้งหลายเป็นคนมีความสามารถ
7 บุตรเชไมอาห์คือโอทนี เรฟาเอล โอเบดและเอลซาบาด ผู้ซึ่งพี่น้องของเขาเป็นคนสามารถ คือเอลีฮู และเสมาคิยาห์
8 คนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นบุตรโอเบดเอโดมกับบุตรชาย และพี่น้องเขา เป็นคนสามารถ มีกำลังเหมาะแก่การปรนนิบัติเป็นของ โอเบดเอโดมหกสิบสองคน
9 และเมเชเลมิยาห์มีบุตรชายและพี่น้องเป็นคน สามารถสิบแปดคน
10 และโฮสาห์ผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของ เมรารีมีบุตรคือชิมรีผู้เป็นหัวหน้า (เพราะถึงเขาจะไม่เป็นบุตรหัวปี บิดาของเขาก็ให้เขาเป็นหัวหน้า)
11 ฮิลคียาที่สอง เทบาลิยาห์ที่สาม เศคาริยาห์ที่สี่ บุตรชายและพี่น้องของโฮสาห์ ทั้งสิ้นมีสิบสามคน
12 กองเวรเฝ้าประตูเหล่านี้ตามคนผู้เป็นหัวหน้าของเขา มีหน้าที่เช่นเดียวกับพี่น้องของเขา ในการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า
13 และเขาจับฉลากกันตามตระกูลของเขา ทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่เหมือนกัน สำหรับใครอยู่ประตูไหน
14 ฉลากสำหรับด้านตะวันออกตกแก่เชเลมิยาห์ เขาจับฉลากให้บุตรเศคาริยาห์ด้วย เขาเป็นที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาด และฉลากของเขาออกมาสำหรับด้านเหนือ
15 ของโอเบดเอโดมออกมาสำหรับด้านใต้ คลังพัสดุนั้นเขาจัดให้บุตรของเขาดูแล
16 ส่วนของชุปปิมและโฮสาห์ออกมาสำหรับด้านตะวันตก ที่ประตูชัลเลเคท ตามถนนที่ขึ้นไป กำหนดยามตามยาม
17 ด้านตะวันออกมีคนเลวีหกคน ด้านเหนือมีสี่คนทุกวัน ด้านใต้วันละสี่คนทุกวัน และสองคู่ที่คลังพัสดุ
18 สำหรับระเบียงทางตะวันตกนั้น มีสี่คนที่ถนนและ สองคนที่ระเบียง
19 คนเหล่านี้เป็นเวรเฝ้าประตูจากพงศ์พันธุ์โคราห์ และพงศ์พันธุ์เมรารี
20 จากคนเลวีนั้น อาหิยาห์ดูแลคลังพระนิเวศของพระเจ้า และคลังสิ่งของถวาย
21 บุตรหลานของลาดานคือบุตรหลานของคนเกอร์โชน ที่เป็นบุตรของลาดาน หัวหน้าตระกูลที่เป็นของลาดาน คนเกอร์โชน คือเยฮีเอลี
22 บุตรเยฮีเอลี คือเศธามและโยเอลน้องชายของเขา เป็นผู้ดูแลคลังพระนิเวศของพระเจ้า
23 จากคนอัมราม คนอิสฮาร์ คนเฮโบรน และคนอุสซีเอล
24 และเชบูเอลบุตรเกอร์โชมผู้เป็นบุตรโมเสส เป็น นายคลังใหญ่
25 พี่น้องของเขา คือจากเอลีเอเซอร์มีเรหับยาห์เป็นบุตร บุตรเรหับยาห์ คือเยชายาห์ บุตรเยชายาห์ คือโยรัม บุตรโยรัม คือศิครี บุตรศิครี คือเชโลโมท
26 เชโลโมทคนนี้และ พี่น้องของเขาเป็นผู้ดูแลคลังของถวายทั้งสิ้น ซึ่งดาวิดพระราชา และบรรดาหัวหน้าตระกูล และนายพันนายร้อย และผู้บัญชาการกองทัพได้มอบถวายไว้
27 จากของที่ริบได้ซึ่งเขาได้ในสงคราม เขาทั้งหลายมอบถวายเพื่อแก่การซ่อมแซมพระนิเวศของพระเจ้า
28 และซึ่งซามูเอลผู้ทำนาย และซาอูลบุตรคีช และอับเนอร์บุตรเนอร์และโยอาบบุตรนางเศรุยาห์ได้ถวายไว้ ของถวายทั้งสิ้นอยู่ในความดูแลของเชโลโมทและพี่น้องของ เขา
29 จากคนอิสฮาร์ เคนานิยาห์ และบุตรของเขาได้รับแต่งตั้งให้มี หน้าที่ภายนอกสำหรับอิสราเอล ให้เป็นเจ้าหน้าที่และเป็นผู้วินิจฉัย
30 จากคนเฮโบรนฮาชาบิยาห์ และพี่น้องของเขาเป็นคนมีความสามารถหนึ่งพันเจ็ดร้อยคน ได้เป็นผู้ดูแลอิสราเอลทางฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน ในเรื่องกิจการทั้งสิ้นของพระเจ้า และราชการของพระราชา
31 จากคนเฮโบรน มี เยรียาห์เป็นหัวหน้าของคนเฮโบรน ตามชาติพันธุ์ตามตระกูล (ในปีที่สี่สิบของรัชกาลดาวิด เขาได้สำรวจและพบคนที่มีความสามารถอย่างยิ่งที่ยาเซอร์ในเมืองกิเลอาด)
32 กษัตริย์ดาวิดได้ทรงแต่งตั้งให้ท่านและพี่น้องของท่าน คือคนที่มีความสามารถสองพันเจ็ดร้อยคนผู้เป็นหัวหน้า ตระกูล ให้เป็นผู้ดูแลคนรูเบน คนกาด และคนเผ่ามนัสเสห์กึ่งหนึ่ง ในกิจธุระทุกอย่างเกี่ยวกับพระเจ้า และกิจธุระเกี่ยวกับพระราชา

1พงศาวดาร 27
1 ต่อไปนี้เป็นรายชื่อประชาชนอิสราเอลตามจำนวน คือบรรดาหัวหน้าตระกูล บรรดานายพันนายร้อย และบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รับใช้พระราชา ในราชการทุกอย่างที่เกี่ยวกับกองเวรที่เข้ามาและออกไป เดือนแล้วเดือนเล่าตลอดปี กองเวรหนึ่งๆ มีจำนวนสองหมื่นสี่พันคน
2 คือยาโชเบอัมบุตรศับดีเอล เป็นผู้ดูแลกองเวรที่หนึ่งในเดือนต้น ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
3 เขาเป็นเชื้อสายของเปเรศ และเป็นหัวหน้าผู้บัญชาการกองทัพทั้งสิ้นในเดือนต้น
4 โดดัยตระกูลอาโหอาห์ เป็นผู้ดูแลกองเวรของเดือนที่สอง ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
5 ผู้บังคับบัญชาการกองทัพคนที่สามสำหรับเดือนที่สาม คือเบไนยาห์บุตรเยโฮยาดาปุโรหิตเป็นหัวหน้า ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
6 เบไนยาห์นี้คือผู้ที่เป็นทแกล้วทหารในสามสิบคน และเป็นผู้บัญชาการของสามสิบคนนั้น อัมมีซาบาดบุตรของเขาเป็นผู้ดูแลกองเวรของเขา
7 อาสาเฮลน้องชายของโยอาบเป็นเวรที่สี่ สำหรับเดือนที่สี่ และเศบาดิยาห์บุตรของเขาดูแลต่อจากเขา ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
8 ผู้บัญชาการคนที่ห้า สำหรับเดือนที่ห้า คือชัมหุทตระกูลอิสราห์ ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
9 คนที่หก สำหรับเดือนที่หก คืออิราบุตรอิกเขชชาวเทโคอา ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
10 คนที่เจ็ด สำหรับเดือนที่เจ็ด คือเฮเลสคนเปโลน เป็นพงศ์พันธุ์ของเอฟราอิม ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
11 คนที่แปด สำหรับเดือนที่แปด คือสิบเบคัยตระกูลหุชาแห่งตระกูลเศ-ราห์ ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
12 คนที่เก้า สำหรับเดือนที่เก้า คืออาบีเอเซอร์ ชาวอานาโธท คนเบนยามิน กองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
13 คนที่สิบ สำหรับเดือนที่สิบ คือมาหะรัยชาวเนโทฟาห์ จากตระกูลเศ-ราห์ กองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
14 คนที่สิบเอ็ด สำหรับเดือนที่สิบเอ็ด คือเบไนยาห์ ชาวปิราโธน จากพงศ์พันธุ์เอฟราอิม ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
15 คนที่สิบสองสำหรับเดือนที่สิบสอง คือเฮลดัยชาวเนโทฟาห์ จากตระกูลโอทนีเอล ในกองเวรของเขามีสองหมื่นสี่พันคน
16 เหนือเผ่าต่างๆของอิสราเอล คือสำหรับคนรูเบน มีเอลีเอเซอร์บุตรศิครีเป็นประมุข สำหรับคนสิเมโอนมีเชฟาทิยาห์บุตรอาคาห์
17 สำหรับคนเลวี มีฮาชาบิยาห์บุตรเคมูเอล สำหรับอาโรนมีศาโดก
18 สำหรับยูดาห์มีเอลีฮู พี่ชายคนหนึ่งของดาวิด สำหรับอิสสาคาร์มีอมรีบุตรมีคาเอล
19 สำหรับเศบูลุน มีอิชมัยอาห์บุตรโอบาดีห์ สำหรับนัฟทาลี มีเยรีโมทบุตรอัสรีเอล
20 สำหรับคนเอฟราอิม มีโฮเชยาบุตรอาซาซิยาห์ สำหรับมนัสเสห์กึ่งเผ่า มีโยเอลบุตรเปดายาห์
21 สำหรับมนัสเสห์กึ่งเผ่าในกิเลอาด มีอิดโดบุตรเศคาริยาห์ สำหรับเบนยามิน มียาอาซีเอลบุตรอับเนอร์
22 สำหรับดานมีอาซาเรล บุตรเยโรฮัม คนเหล่านี้เป็นประมุขของเผ่าต่างๆแห่งอิสราเอล
23 ดาวิดมิได้ทรงนับจำนวนคนที่อายุต่ำกว่ายี่สิบปี เพราะพระเจ้าทรงสัญญาว่าจะกระทำให้ อิสราเอลมากเหมือนดาวแห่งท้องฟ้า
24 โยอาบบุตรนางเศรุยาห์ได้ตั้งต้นนับ แต่ไม่สำเร็จ ถึงกระนั้น พระพิโรธก็มาเหนืออิสราเอลในเรื่องนี้ และจำนวนนั้นก็มิได้ลงไว้ในหนังสือพงศาวดารของกษัตริย์ดาวิด
25 อัสมาเวทบุตรอาดีเอลเป็นเจ้ากรมพระคลังนครหลวง และโยนาธานบุตรของอุสซียาห์เป็นเจ้ากรมคลังนอกนคร ในหัวเมืองในชนบทและในป้อม
26 เอสะรีบุตรเคลูบ เป็นผู้ดูแลบรรดาผู้ที่ทำไร่นาหลวง
27 ชิเมอีชาวรามาห์ดูแลสวนองุ่น และศับดีชาวเชฟามดูแลผลิตผลของสวนองุ่นสำหรับ ห้องเก็บเหล้าองุ่น
28 บาอัลฮานัน ชาวเกเดอร์เป็นผู้ดูแลต้นมะกอกเทศ และต้นมะเดื่อที่ในถิ่นเนินเชเฟลาห์ โยอาชดูแลคลังน้ำมัน
29 ชิตรัยชาวชาโรนดูแลฝูงโคซึ่งหากินอยู่ในชาโรน ชาฟัทบุตรอัดลัยดูแลฝูงโคในที่ลุ่มทั้งหลาย
30 และโอบิลคนอิชมาเอลดูแลอูฐ เยดายาห์ ชาวเมโรโนทดูแลลา ยาซีสชาวฮาการ์ดูแลฝูงแพะแกะ
31 เหล่านี้เป็นพนักงานดูแลทรัพย์สมบัติของกษัตริย์ดาวิด
32 โยนาธานลุงของดาวิดเป็นที่ปรึกษา เป็นคนที่มีความเข้าใจและเป็นอาลักษณ์ และเยฮีเอลบุตรฮัคโมนีเป็นผู้เลี้ยงดูราชบุตร
33 อาหิโธเฟลเป็นที่ปรึกษาของพระราชา และหุชัยตระกูลอารคีเป็นพระสหายของพระราชา
34 เยโฮยาดาบุตรเบไนยาห์ และอาบียาธาร์เป็นผู้ทำงานต่อจากอาหิโธเฟล โยอาบเป็นผู้บัญชาการกองทัพของพระราชา

1พงศาวดาร 28
1 ณ เยรูซาเล็ม ดาวิดได้ทรงเรียกประชุมบรรดาเจ้านายทั้งสิ้นของอิสราเอล คือเจ้านายของเผ่าและผู้บัญชาการกองทัพที่รับราชการ นายพันนายร้อย และพนักงานทั้งสิ้นผู้ดูแลทรัพย์สมบัติ และฝูงสัตว์ของพระราชาและโอรสของพระองค์ พร้อมกับพนักงานราชสำนัก ทแกล้วทหาร และวีรบุรุษทั้งสิ้น
2 แล้วกษัตริย์ดาวิดทรงลุกขึ้นประทับยืน และตรัสว่า "พี่น้องของข้าพเจ้า และประชาชนของข้าพเจ้า ขอจงฟังข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีใจประสงค์ที่จะสร้างพระนิเวศ อันเป็นที่พักของหีบพันธสัญญาของพระเจ้า และเพื่อเป็นที่รองพระบาทของพระเจ้าของเรา และข้าพเจ้าได้จัดเตรียมการก่อสร้างไว้เสร็จแล้ว
3 แต่พระเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า 'เจ้าอย่าสร้างนิเวศเพื่อนามของเราเลย เพราะเจ้าเป็นนักรบและได้ทำโลหิตให้ตก'
4 ถึงกระนั้นก็ดีพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ทรงเรียกข้าพเจ้าจากตระกูลของข้าพเจ้า ให้เป็นพระราชาเหนืออิสราเอลเป็นนิตย์ เพราะพระองค์ทรงเลือกยูดาห์ให้เป็นประมุข และในวงศ์ของยูดาห์ ตระกูลของข้าพเจ้า และในบรรดาบุตรชายของบิดาข้าพเจ้า พระองค์ทรงพอพระทัยในข้าพเจ้า และทรงให้ข้าพเจ้าเป็นพระราชาเหนืออิสราเอลทั้งปวง
5 และบุตรชายทั้งสิ้นของข้าพเจ้า (เพราะพระเจ้าทรงประทานบุตรชายเป็นอันมากแก่ข้าพเจ้า) พระองค์ทรงเลือกซาโลมอนบุตรข้าพเจ้า ให้นั่งบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าเหนืออิสราเอล
6 พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า 'ซาโลมอนบุตรของเจ้า จะสร้างนิเวศของเราและลานนิเวศของเรา เพราะเราได้เลือกเขาให้เป็นลูกของเรา และเราจะเป็นพ่อของเขา
7 เราจะสถาปนาราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์ ถ้าเขาจะเพียรแน่วแน่อยู่ในการรักษาปฏิบัติตามบัญญัติ ของเรา และกฎหมายของเรา อย่างที่เขาทำอยู่ในวันนี้'
8 เพราะฉะนั้นต่อหน้าบรรดาคนอิสราเอลทั้งปวง อันเป็นชุมนุมชนของพระเจ้า และต่อพระกรรณของพระเจ้าของเรา จงประพฤติตามและแสวงพระบัญญัติทั้งสิ้น ของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย เพื่อเจ้าจะได้กรรมสิทธิ์แผ่นดินอันดีนี้ และมอบไว้ให้เป็นมรดกของลูกหลานผู้มาภายหลังเจ้า สืบไปเป็นนิตย์
9 "ซาโลมอนบุตรของเราเอ๋ย เจ้าจงรู้จักพระเจ้า และจงปรนนิบัติพระองค์ด้วยใจจริงและด้วยความเต็มใจของเจ้า เพราะพระเจ้าทรงพิจารณาจิตใจทั้งปวง และทรงเข้าใจในแผนงานและความคิดทั้งปวง ถ้าเจ้าแสวงหาพระองค์เจ้าจะพบพระองค์ แต่ถ้าเจ้าทอดทิ้งพระองค์ พระองค์จะทรงเหวี่ยงเจ้าออกไปเสียเป็นนิตย์
10 บัดนี้จงฟังให้ดี เพราะว่าพระเจ้าทรงเลือกเจ้าให้ สร้างพระนิเวศเพื่อเป็นสถานนมัสการ จงเข้มแข็งและทำให้สำเร็จเถิด"
11 แล้วดาวิดทรงมอบให้กับซาโลมอน ซึ่งแผนผังมุขของพระวิหารและแผนผังเรือนต่างๆ ของพระวิหารนั้น คลังและห้องชั้นบน และห้องชั้นใน และห้องสำหรับพระที่นั่งกรุณา
12 และแผนผังซึ่งพระองค์มีอยู่ในพระทัย ในเรื่องลานของพระนิเวศของพระเจ้า และห้องระเบียงรอบ และคลังสำหรับพระนิเวศของพระเจ้า และคลังสำหรับบรรดาของถวาย
13 และผังสำหรับเวรปุโรหิตและเวรคนเลวี และงานปรนนิบัติทั้งสิ้นในพระนิเวศของพระเจ้า และสำหรับเครื่องใช้ในงานปรนนิบัติในพระนิเวศของพระเจ้า
14 น้ำหนักทองคำของเครื่องใช้ทองคำทุกอย่าง สำหรับการปรนนิบัติแต่ละอย่าง น้ำหนักเงินของเครื่องใช้เงินทุกอย่าง สำหรับงานปรนนิบัติแต่ละอย่าง
15 น้ำหนักของเชิงประทีปทองคำและตะเกียง น้ำหนักทองคำของเชิงประทีปแต่ละคันกับตะเกียงแต่ละดวง น้ำหนักเงินของเชิงประทีปคันหนึ่งกับตะเกียงคู่กัน ตามที่จะใช้คันประทีปแต่ละคันในการปรนนิบัติ
16 น้ำหนักทองคำสำหรับโต๊ะขนมตั้งถวายแต่ละโต๊ะ เงินสำหรับโต๊ะเงิน
17 และส้อม อ่าง กับถ้วยเป็นทองคำบริสุทธิ์ ชามทองคำและน้ำหนักของแต่ละลูก ชามเงินและน้ำหนักของแต่ละลูก
18 แท่นเครื่องหอมทำด้วยทองคำเนื้อละเอียดและน้ำหนักของแท่นนั้น ทั้งแผนผังสำหรับรถรบทองคำของเครูบ ซึ่งกางปีกออกปกหีบพันธสัญญาของพระเจ้า
19 สิ่งเหล่านี้ดาวิดทรงกระทำให้กระจ่างแจ้ง โดยอาศัยลายพระหัตถ์ของพระเจ้าเกี่ยวด้วยเรื่องนี้ คืองานทุกอย่างซึ่งจะต้องกระทำตามแผนผังนั้น
20 แล้วดาวิดตรัสกับซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า "จงเข้มแข็งและกล้าหาญและทำให้สำเร็จเถิด อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้า คือพระเจ้าของข้าทรงสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้เจ้าล้มเหลวหรือทอดทิ้งเจ้า จนกว่างานทั้งสิ้นสำหรับงานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของ เจ้าจะสำเร็จ
21 ดูเถิด มีเวรปุโรหิตและเวรคนเลวี สำหรับงานปรนนิบัติทุกอย่างแห่งพระนิเวศของพระเจ้า ในการนี้ทั้งสิ้น จะมีคนอยู่กับเจ้า คือทุกคนที่เต็มใจ และเป็นผู้มีฝีมือในงานปรนนิบัติทุกอย่าง ทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนทั้งปวงจะอยู่ ในบังคับบัญชาของเจ้าทั้งสิ้น"

1พงศาวดาร 29
1 และดาวิดพระราชาตรัสกับชุมนุมชนทั้งสิ้นว่า "ซาโลมอนบุตรของเราซึ่งเป็นผู้เดียวที่พระเจ้าทรง เลือกไว้นั้น ยังเป็นคนหนุ่มและไม่มีความชำนาญ การงานก็ใหญ่โต เพราะว่ามหานิเวศนั้นมิใช่สำหรับคน แต่สำหรับพระเจ้า
2 เพราะฉะนั้นเราจึงจัดเตรียมไว้สำหรับพระนิเวศของพระเจ้า เต็มความสามารถของเรา คือทองคำสำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองคำ และเงินสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเงิน และทองสัมฤทธิ์สำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ และเหล็กสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเหล็ก และไม้สำหรับสิ่งที่ทำด้วยไม้ นอกเหนือจากนี้ก็มีแก้วโกเมน และแก้วสำหรับฝัง พลวง หินลาย เพชรพลอยทุกชนิดและหินอ่อน
3 ยิ่งกว่านั้นอีกนอกจากสิ่งที่เราจัดหาไว้สำหรับ นิเวศศักดิ์สิทธิ์แล้ว เรายังมีทองคำและเงินเป็นสมบัติของเราเอง และเพราะความรักของเราที่มีต่อพระนิเวศของพระเจ้าของเรา เราขอมอบให้แก่พระนิเวศแห่งพระเจ้าของเรา ดังนี้
4 ทองคำสามพันตะลันต์ เป็นทองคำเมืองโอฟีร์ และเงินถลุงแล้วเจ็ดพันตะลันต์ เพื่อจะบุผนังพระนิเวศ
5 ทองคำสำหรับสิ่งที่ทำด้วยทองคำ และเงินสำหรับสิ่งที่ทำด้วยเงิน และเพื่องานทั้งสิ้นที่ช่างจะต้องทำด้วยมือ ใครบ้างเต็มใจที่จะถวายของพร้อมกับถวาย ตัวแด่พระเจ้าในวันนี้"
6 แล้วหัวหน้าของตระกูล บรรดาเจ้านายของเผ่า ทั้งนายพันนายร้อยและพนักงานดูแลราชการก็ถวาย ด้วยความเต็มใจ
7 เขาทั้งหลายถวายเพื่องานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของพระเจ้า เป็นทองคำห้าพันตะลันต์ และหนึ่งหมื่นดาริค เงินหนึ่งหมื่นตะลันต์ทองสัมฤทธิ์หนึ่งหมื่นแปดพันตะลันต์ และเหล็กหนึ่งแสนตะลันต์
8 ผู้ใดที่มีเพชรพลอยก็ถวายไว้ที่คลังพระนิเวศของพระเจ้า ในความดูแลของเยฮีเอลตระกูลเกอร์โชน
9 แล้วประชาชนก็เปรมปรีดิ์ เพราะเขาถวายสิ่งเหล่านี้ตามความสมัครใจของเขา เพราะเขาถวายด้วยความจริงใจแด่พระเจ้า ดาวิดพระราชาก็ทรงเปรมปรีดิ์เป็นที่ยิ่งด้วย
10 เพราะฉะนั้นดาวิดจึงสรรเสริญพระเจ้าต่อหน้าชุมนุมชนทั้งปวง และดาวิดทูลว่า "ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย สาธุการแด่พระองค์เป็นนิตย์และเป็นนิตย์
11 ข้าแต่พระเจ้า ความยิ่งใหญ่ ฤทธานุภาพ พระสิริ ชัยชนะ และความโอ่อ่าตระการเป็นของพระองค์ และบรรดาสิ่งที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์ และในแผ่นดินโลกเป็นของพระองค์ ข้าแต่พระเจ้า ราชอาณาจักรเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นที่ยกย่องเป็นจอมของสิ่งสารพัด
12 ทั้งความมั่งคั่งและเกียรติมาจากพระองค์ และพระองค์ทรงครอบครองอยู่เหนือทุกสิ่ง ฤทธานุภาพและมหิทธิฤทธิ์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และอยู่ที่พระหัตถ์ของพระองค์ที่จะทรงกระทำให้ ใหญ่ยิ่งและประทานกำลังแก่ทั้งมวล
13 บัดนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายโมทนาพระคุณพระองค์ ผู้เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ และสรรเสริญพระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
14 "แต่ข้าพระองค์เป็นผู้ใด และชนชาติของข้าพระองค์เป็นผู้ใด ที่ข้าพระองค์ทั้งหลายจะสามารถถวาย แด่พระองค์ด้วยความเต็มใจเช่นนี้ เพราะว่าสิ่งของทุกอย่างมาจากพระองค์ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ถวายของที่เป็น ของพระองค์แด่พระองค์เท่านั้น
15 เพราะว่าข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นคนต่างด้าวต่างแดนต่อพระพักตร์พระองค์ และเป็นคนอาศัยอยู่ชั่วคราว ดังที่บรรพบุรุษของข้าพระองค์ได้เป็นอย่างนั้นมาแล้ว วันปีของข้าพระองค์บนแผ่นดินโลกเป็นเหมือนเงา และไม่มีอะไรจิรัง
16 ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ของมากมายเหล่านี้ทั้งสิ้นซึ่งข้าพระองค์จัดหาเพื่อสร้าง พระนิเวศถวายแด่พระองค์ เพื่อพระนามบริสุทธิ์ของพระองค์มาจากพระหัตถ์ของพระองค์ และเป็นของพระองค์ทั้งสิ้น
17 ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ทราบแน่ว่า พระองค์ทรงทดลองจิตใจ และทรงพอพระทัยในความเที่ยงธรรม ส่วนข้าพระองค์ ข้าพระองค์ได้ถวายทุกสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น ด้วยความเต็มใจในความเที่ยงธรรมแห่งจิตใจของข้าพระองค์ และบัดนี้ข้าพระองค์ชื่นใจที่ได้เห็นประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งอยู่ ณ ที่นี้ได้เต็มใจถวายด้วยความชื่นบานต่อพระองค์
18 ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัคและอิสราเอลบรรพบุรุษของข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอพระองค์ทรงรักษาความประสงค์ และความคิดในใจของประชากรของพระองค์ให้เป็น เช่นนี้เสมอไป และขอทรงตั้งจิตใจของเขาทั้งหลายให้มั่นในพระองค์
19 ขอพระองค์ทรงโปรดซาโลมอนบุตรของข้าพระองค์ ให้มีจิตใจจริง ที่จะรักษาบรรดาพระบัญญัติของพระองค์ พระโอวาท ของพระองค์ และกฎเกณฑ์ของพระองค์ และให้กระทำทุกอย่างเหล่านี้ และสร้างนิเวศตามซึ่งข้าพระองค์ได้ตระเตรียมไว้แล้วนั้น"
20 แล้วดาวิดตรัสกับชุมนุมชนทั้งปวงว่า "จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลาย" และชุมนุมชนทั้งปวงก็สรรเสริญพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่ง บรรพบุรุษของเขาทั้งหลาย และก้มศีรษะของเขาทั้งหลายลงและนมัสการพระเจ้า และถวายบังคมแด่พระราชา
21 และเขาทั้งหลายได้ถวายสัตวบูชาแด่พระเจ้า และถวายเครื่องเผาบูชาแด่พระเจ้าในวันรุ่งขึ้นต่อจากวันนั้น เป็นวัวผู้หนึ่งพันตัว แกะผู้หนึ่งพันตัว ลูกแกะหนึ่งพันตัวพร้อมกับเครื่องดื่มบูชาที่คู่กัน และถวายสัตวบูชาอย่างมากมายเพื่ออิสราเอลทั้งปวง
22 และเขาทั้งหลายได้กินได้ดื่มต่อพระพักตร์พระเจ้าในวันนั้น ด้วยความยินดียิ่ง และเขาทั้งหลายได้ตั้งซาโลมอน โอรสของดาวิดเป็นพระราชาเป็นคำรบสอง และเขาทั้งหลายได้เจิมท่านไว้ให้เป็นเจ้านาย เพื่อพระเจ้า และศาโดกให้เป็นปุโรหิต
23 แล้วซาโลมอนทรงประทับบนพระที่นั่งของพระเจ้า เป็นพระราชาแทนดาวิดราชบิดาของพระองค์ และพระองค์ทรงเจริญขึ้นและอิสราเอลทั้งปวงก็เชื่อฟังพระองค์
24 บรรดาประมุขทั้งปวง และทแกล้วทหารทั้งหลาย ทั้งบรรดาโอรสของกษัตริย์ดาวิดได้สาบานตัวต่อกษัตริย์ ซาโลมอน
25 และพระเจ้าทรงประทานชื่อเสียงใหญ่โตแก่ซาโลมอน ต่อหน้าต่อตาของอิสราเอลทั้งปวง และทรงประทานความโอ่อ่าตระการของพระราชาแก่พระองค์ อย่างที่ไม่มีพระราชาองค์ใดในอิสราเอลก่อน พระองค์ได้รับ
26 ฝ่ายดาวิดบุตรเจสซีได้ครอบครองเหนืออิสราเอลทั้งปวง
27 เวลาที่พระองค์ทรงครอบครองเหนืออิสราเอลนั้นเป็น สี่สิบปี พระองค์ทรงครอบครองในเฮโบรนเจ็ดปี และในเยรูซาเล็มสามสิบสามปี
28 แล้วพระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระชรามาก หง่อมแล้ว ทั้งทรงมั่งคั่งและมีพระเกียรติและซาโลมอนโอรสของ พระองค์ครอบครองแทนพระองค์
29 ส่วนพระราชกิจของกษัตริย์ดาวิด ตั้งแต่ต้นจนที่สุด ดูเถิด ได้บันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของซามูเอล ผู้ทำนาย และในหนังสือพงศาวดารของนาธันผู้เผยพระวจนะ และในหนังสือพงศาวดารของกาดผู้ทำนาย
30 มีเรื่องราวการครอบครองของพระองค์ทั้งสิ้น และยุทธพลังของพระองค์ และเรื่องราวที่บังเกิดกับพระองค์ และกับอิสราเอลและบรรดาราชอาณาจักรทั้งสิ้นของ ประเทศต่างๆ

 © Copyright 2009. Christian Siam.com