Isabel - น้ำผึ้ง

สวัสดีค่ะ พี่ๆน้องๆ เพื่อนๆ ทุกคน  ฉันชื่อ อิซาเบล   มีชื่อเล่นภาษาไทย ว่า น้ำผึ้ง ค่ะ  อยากจะมาแบ่งปัน เรื่องราวที่อิซเบลมารู้จักพระเยซูคริสต์ และมาอยู่ที่เมืองไทยได้ยังไงค่ะ ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ฉันมักจะสงสัยในพระเจ้าว่าพระองค์มีอยู่จริงๆเหรอ แต่ฉันก็ยังไม่รู้จักใครที่เชื่อในพระเยซูคริสต์  ฉันเคยลองอ่านหนังสือเกี่ยวกับพระเจ้าในห้องสมุดแต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องแบบนี้ดูไกลตัวฉันมากแถมครอบครัวของฉันก็ไม่ใช่ คริสเตียนด้วย ในช่วงวัยที่เริ่มเป็นวัยรุ่นนั้น ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพระเจ้าเอาซะเลยและก็ไม่ค่อยชอบไปโรงเรียนด้วย  ปัญหานี้ฉันไม่ได้ปรึกษาหรือพูดคุยกับพ่อแม่แต่จะชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องมากกว่า ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงชีวิตที่ไม่มีความสุขและฉันก็พยามที่จะลืมปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับโรงเรียนและปัญหาเกี่ยวกับพ่อแม่  ทางออกที่ฉันมักจะทำคือดูทีวีและรับประทานอาหารเยอะมาก และฉันพยามหาอะไรมาเติมในแต่ละวันของฉันโดยการทำกิจกรรมไม่ว่าจะ เป็น พี่เลี้ยงเด็ก  ไปว่ายน้ำ หรือเรียนภาษาจีน แต่มันก็ยังไม่ได้ช่วยเปลี่ยนความรู้สึกลึกๆที่มีต่อชีวิตฉัน  ฉันรู้สึกว่าตัวเองนั้นดูขี้เหล่และไม่มีใครรักหรือสนใจ

เมื่อตอนที่ฉันย่างเข้าสู่อายุ15ปี ฉันสนใจที่อยากจะลองเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนดู เพราะ ฉันอยากจะเห็นโลกอีกใบนึงที่มันแตกต่างจากของฉันบ้าง และในเวลานั้น ฉันก็ เชิญ เพื่อนผู้หญิงชาวจีน คนนึง มาเยี่ยมบ้านฉัน  เธอน่ารักมาก เธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับโบสถ์ เธอจึงขอให้ฉันไปเป็นเพื่อนกับเธอในวันอาทิตย์ ซึ่งฉันไม่ได้ไปที่นั้นมานานพอสมควร

การไปโบสถ์กับเพื่อนชาวจีนในครั้งนั้น ฉันก็รู้สึกว่ายังไม่ได้รับรู้อะไรใหม่ๆและการร้องเพลงก็ไม่ได้ตรึงใจฉันมากนัก แต่ไม่รู้ทำไมหลังจากวันนั้น ฉันรับรู้ว่าพระเจ้านั้นมีอยู่จริง และมีบางสิ่งที่อยู่ข้างในใจฉันลึกๆได้สัมผัสอะไรบางอย่าง ..ว่าพระองค์นั้นคือ ความจริง

ความคิดนี้ ค่อยๆเปลี่ยนชีวิตฉัน และหนึ่งเดือนต่อมา ฉันได้เจอกลุ่มคริสเตียนอีกกลุ่ม พวกเขาก็ได้ชวนฉันไปโบสถ์ในวันอาทิตย์  เมื่อฉันได้รู้จักพวกเค้า ฉันสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง พวกเค้าดูมีความสุขและชื่นชมยินดีในชีวิตที่ซึ่งฉันได้ทำหายไป...หลังจากสัปดาห์นั้นต่อมา ฉันก็ได้รับเชื่อ พระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตฉัน

ก่อนที่ฉันจะรับเชื่อนั้น ฉันได้มีแพลนเอาไว้แล้วว่า อยากจะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ใน ประเทศไทยที่ โรงเรียนมัธยมปลายชั้น มอ สี่ เป็นเวลา สิบเดือน  แต่ฉันก็ไม่รู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าอยากให้ฉันทำหรือไม่ ฉันไม่รู้ว่าควรจะอธิษฐานยังไงดี แต่แล้วเย็นวันหนึ่ง ฉันก็ขอกับพระเจ้า ที่จะให้สัญลักษณ์อะไรบางอย่างกับฉัน เพราะฉันจำเป็นต้องบอกถึงการตัดสินใจของฉันให้กับองค์กรนักเรียนแลกเปลี่ยน และในคืนนั้นฉันก็อธิฐานอยู่ในห้องของฉัน และเช้าวันถัดมา ฉันก็เจอ เหรียญ สิบ บาท ของ ประเทศไทย อยู่บนโต๊ะ ซึ่ง พ่อของฉันเป็นคนนำมาวางให้  นั้นเป็นหมายการที่ดีที่ฉันต้องการและฉันก็แน่ใจและเชื่อมั่นว่าพระองค์จะทรงจัดเตรียม เงินทุนต่างๆที่ฉันจำเป็นต้องใช้ในการเดินทางไปเรียนที่ประเทศไทย...และพระองค์ก็ทรงช่วย ฉันได้รับทุนการศึกษาจำนวนเต็มและรัฐบาลเยอรมันก็จ่ายเงินค่าชีวิตประจำให้กับฉัน พระเจ้าได้ทรงอวยพรชีวิตฉันอย่างมากที่ให้โอกาสมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองไทย และได้เรียนรู้ภาษา รู้จักเพื่อนใหม่ๆและได้รับประสบการณ์หลายๆอย่างที่ยอดเยี่ยมในประเทศไทย

เมื่อฉันได้เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้สอน ความประพฤติ ฉันก็ได้เปลี่ยนไปและนั้นก็นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่สนิทมากขึ้นกับพ่อแม่ของฉันด้วย ค่อยๆก้าวไปแต่ละขั้น ฉันก็ได้เรียนรู้ที่จะไม่วิ่งหนีปัญหาแต่เผชิญหน้ากับมันแทนและขอความช่วยเหลือจากพระเยซูคริสต์

และในวันนี้ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะหลีกหนีปัญหาโดยการรับประทานอาหารเยอะหรือใช้เวลาแต่กับทีวี เป็นตัวช่วย ในทางแก้ปัญหาที่สิ่งเหล่านี้ทำให้ฉันไขว้เขวออกจากความเป็นจริง แต่กลับกันฉันสามารถที่จะเผชิญหน้าได้เพราะรู้ว่าพระองค์จะอยู่ข้างๆฉันและพร้อมที่จะช่วยเหลือ และฉันได้รู้ว่าฉันนั้นพิเศษและมีคุณค่า และพระองค์ทรงรักฉันไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร

ตอนนี้ฉันได้เรียนจบมัธยมปลายที่ประเทศเยอรมันแล้ว และกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยและฉันก็ได้เห็นการดูแลที่มาจากพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยให้ฉันเรียนจบจากที่โรงเรียนเยอรมันกับเกรดเฉลี่ยที่ดี ถึงแม้ว่าฉันจะมีเวลาขาดไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองไทยในชั้นเรียนม.5ก็ตาม

ฉันมีความสุขมากค่ะที่ได้มีโอกาสกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง ฉันรักแทบจะหมดทุกสิ่งที่เป็นไทยแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น อากาศ ผู้คนที่น่ารักและมีอารมณ์ขัน อาหารหรือแม้แต่ภาษาด้วย ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงช่วยฉันให้ได้เรียนภาษาไทยได้อย่างเร็ว ฉันมาอยู่ที่ประเทศไทยรวมแล้วเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งแต่ได้มีโอกาสมาช่วยแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยในการเทศนาและแบ่งปันคำพยานชีวิต ที่โบสถ์ในวันอาทิตย์

การที่ได้มีชีวิตอยู่กับพระองค์นั้นนับเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่สำรับฉัน ถึงแม้ว่าเส้นทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตฉันที่ได้ทำ หัวใจของฉันได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่และได้รับการเติมเต็มด้วยความชื่นชมยินดีและอิสระที่จะเป็นตัวของตัวเอง รู้จักว่าเราเป็นใคร และแท้จริงเราเกิดมาเพื่ออะไร เมื่อเราได้กลับคืนดีสู่พระเยซูพระองค์ทรงเป็นทางนั้น เป็นความจริงและเป็นชีวิต (ยอห์น 14:6 )

ขอพระเจ้าอวยพร
น้ำผึ้ง อิซาเบล

Hello everybody, my name is Isabel (nickname Nampeung) and I’d like to share with you how I got to know Jesus and came to stay in Thailand.

I always wondered if God really exists but I didn’t know anyone who believed in God. I read books from the library about God but in them God seemed far away and I didn’t understand a lot. My family was not Christian as well.

When I was a teenager I didn’t know much about God and didn’t like to go to school a lot. I didn’t talk to my parents but rather stayed in my room. At that time I was often unhappy and tried to forget my problems in school and with my parents by watching TV and eating a lot. I filled my days with lots of activities like babysitting, swimming and learning Chinese but it didn’t help to change the way I felt about life. I felt ugly and unloved.

When I was 15 years old I wanted to be an exchange student abroad because I wanted to see another world different from my own.  At that time I also invited a Chinese girl to visit my home for some weeks. She was very nice and since she didn’t know what church was like so she asked me to go to German church with her. I hadn’t been there for many years and on Sunday I went with her.

I didn’t learn anything new from the preaching and it was not the singing that fascinated me, but after that day I knew that God lives. It was something I just felt deep inside of me. I didn’t know anything about God but I knew he was real.

This thought slowly changed my whole life. One month later I met other Christians and they invited me to their church. When I got to know the people at that church I noticed that they were different. They had a joy and a kindness I missed in my own life. A few weeks later I invited Jesus in my life there. 

Before I became a Christian, I already had planned to become an exchange student in Thai high school for 10 months but then I didn’t know whether God wanted me to. I didn’t know how to pray but one evening I asked God to give me a sign about it, because I needed to tell my decision to the exchange organization. I prayed only in my room that night but the next morning I found a “10 Baht” coin on my table. My Dad had put it there for me. That was the sign I needed. I knew God would provide the money I needed to go to Thailand- and he did. I got a full scholarship to go to Bangkok and the German government paid pocket money for me.   God blessed me so much by giving me the opportunity to study in Thailand and learn another language and make new friends and have many great experiences.

Even though in the beginning it was difficult for me to live in Thailand because of the different culture and language God helped me to learn Thai and keep on believing in him.

When I learned what the Bible teaches on relationships I changed my behavior towards my parents and we got much more intimate. Step by step I am learning not to run away from my problem but to face it and ask Jesus to help me. Today I don’t need food or TV to run away from real life but I can face it because I know Jesus helps me.  I know that God created me beautiful and that he loves me no matter what I do.

Now I’ve already finished high school in Germany and have come back to Thailand to live here and I can see how God took care of me.  He helped me to finish German high school with good grades even though I spent 11th grade in Thailand. 

I’m so happy I got the chance to come back to Thailand. I love almost everything about Thailand- the weather, the people, the food, the language.  God helped me to learn Thai very fast. I have been in Thailand altogether for one and a half years now but I’m already able to translate sermons and testimonies in Thai on Sundays.

Living with God has been a great adventure for me- though it is not always easy it is the best thing I could have done with my life. My heart has been changed and I am filled with a new joy and a freedom to do what I have dreamed of.  Once I changed my to be with Jesus he became the way, the truth and the life to me (John 14,6).

God bless you
Isabel