นางรูธ
นางรูธ 1
1 ในสมัยเมื่อผู้วินิจฉัยครอบครองอยู่นั้น เกิดกันดารอาหารขึ้นในแผ่นดิน มีชายคนหนึ่งเป็นชาวเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ ไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินโมอับ คือตัวเขาพร้อมกับภรรยาและบุตรชายสองคน
2 ชายคนนั้นชื่อเอลีเมเลค ภรรยาชื่อนาโอมี บุตรสองคนชื่อมาห์โลนและคิลิโอน เป็นชาวเอฟราธาห์มาจากเมืองเบธเลเฮมในยูดาห์ เขาทั้งหลายเดินทางเข้าไปในแผ่นดินโมอับและ อาศัยอยู่ที่นั่น
3 แต่เอลีเมเลค สามีของนางนาโอมีสิ้นชีวิตเสีย ทิ้งนางไว้กับบุตรชายทั้งสอง
4 บุตรชายสองคนนี้ ก็ได้หญิงชาวโมอับมาเป็นภรรยา คนหนึ่งชื่อโอรปาห์ อีกคนหนึ่งชื่อรูธ เขาทั้งหลายอยู่ที่นั่นประมาณสิบปี
5 แล้วมาห์โลนและคิลิโอนทั้งสองคน ก็สิ้นชีวิต หญิงคนนั้นก็ต้องเปล่าเปลี่ยว เพราะเหตุสามีและบุตรชายทั้งสองของนางต้องล้มหายตายจากไป
6 แล้วนางนั้น พร้อมกับลูกสะใภ้ทั้งสอง ก็จะออกเดินทางจากแผ่นดินโมอับ เพราะว่าเมื่ออยู่ในแผ่นดินโมอับนั้น นางได้ยินข่าวว่า พระเจ้าได้ทรงเยี่ยมเยียนชนชาติของพระองค์ และประทานอาหารแก่เขาทั้งหลาย
7 นางจึงออกจากตำบลที่นางอยู่ พร้อมกับบุตรสะใภ้ทั้งสอง เดินตามทางกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์
8 แต่นาโอมีกล่าวแก่บุตรสะใภ้ทั้งสองของนางว่า "ไปเถิด ขอให้ต่างคนต่างกลับไปบ้านมารดาของตน ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาต่อเจ้าทั้งสอง ดังที่เจ้าได้เมตตาต่อผู้ที่ตายไปแล้วและต่อแม่
9 ขอพระเจ้าทรงโปรดให้เจ้ามีเหย้ามีเรือน ขอให้ต่างก็ได้เข้าอยู่ในเรือนของสามี" แล้วนาโอมีก็จุบลูกสะใภ้ทั้งสอง ต่างก็ส่งเสียงร้องไห้
10 นางทั้งสองจึงพูดกับแม่ผัวว่า "อย่าเลย เราทั้งสองจะกลับไปกับแม่ไปถึงชนชาติของแม่"
11 แต่นาโอมีตอบว่า "ลูกเอ๋ย จงกลับไปเสียเถอะ จะไปกับแม่ทำไมเล่า แม่ยังจะมีบุตรชายในครรภ์ให้เป็นสามีของเจ้าหรือ
12 ลูกของแม่เอ๋ย กลับไปเสียเถอะ กลับไปตามทางของเจ้า แม่แก่เกินที่จะมีสามีแล้ว หากแม่จะว่าแม่ยังมีความหวังอยู่ ถ้าแม่จะมีสามีคืนวันนี้และมีบุตรชาย
13 แล้วเจ้าจะรออยู่จนบุตรชายนั้นเติบโตได้หรือ เจ้าจะอดใจไม่แต่งงานหรือ อย่าเลย ลูกของแม่เอ๋ย แม่มีความขมขื่นมากเพราะเห็นแก่เจ้า ที่พระหัตถ์ของพระเจ้าได้กระทำแก่แม่ถึงเพียงนี้"
14 แล้วต่างก็ส่งเสียงร้องไห้อีก โอรปาห์ก็จุบลาแม่ผัว แต่รูธยังเกาะแม่ผัวอยู่
15 นาโอมีจึงว่า "ดูซิ พี่สะใภ้ของเจ้ากลับไปหาชนชาติของเขา และหาพระของเขาแล้ว จงกลับไปตามพี่สะใภ้ของเจ้าเถิด"
16 แต่รูธตอบว่า "ขอแม่อย่าวิงวอนให้ฉันจากแม่หรือเลิกติดตามแม่ไปเลย เพราะแม่จะไปไหนฉันจะไปด้วย และแม่จะอาศัยอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่นด้วย ญาติของแม่จะเป็นญาติของฉัน และพระเจ้าของแม่ก็จะเป็นพระเจ้าของฉัน
17 แม่ตายที่ไหนฉันจะตายที่นั่น และจะขอให้ฝังฉันไว้ที่นั่นด้วย ถ้ามีอะไรมาพรากฉันจากแม่นอกจากความตาย ก็ขอพระเจ้าทรงลงโทษฉัน และให้หนักยิ่ง"
18 เมื่อนาโอมีเห็นว่ารูธตั้งใจจะไปด้วยจริงๆแล้ว นางก็ไม่พูดอะไรอีก
19 ดังนั้นทั้งสองนางก็พากันไปจนถึงเมืองเบธเลเฮม เมื่อนางทั้งสองมาถึงเบธเลเฮมแล้ว ชาวเมืองก็พากันแตกตื่นเพราะเหตุนางทั้งสอง พวกผู้หญิงพูดขึ้นว่า "นี่น่ะหรือ นางนาโอมี"
20 นาโอมีตอบเขาว่า "ขออย่าเรียกฉันว่านาโอมี เลย ขอเรียกฉันว่า มารา เถอะเพราะว่าองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงกระทำแก่ฉันอย่างขมขื่น
21 เมื่อฉันจากเมืองนี้ไป ฉันมีทุกอย่างครบบริบูรณ์ พระเจ้าทรงพาฉันกลับมาตัวเปล่า เมื่อพระเจ้าทรงให้ฉันทุกข์ใจดังนี้ และองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ให้ฉันต้องประสบเหตุร้ายเช่นนี้ จะเรียกฉันว่านาโอมีทำไมเล่า"
22 ดังนั้นนาโอมีจึงกลับมา และรูธลูกสะใภ้ชาวโมอับก็กลับมาด้วย ผู้กลับมาจากแผ่นดินโมอับ และเขาทั้งสองมายังเมืองเบธเลเฮมในต้นฤดูเกี่ยวข้าวบารลี
นางรูธ 2
1 ฝ่ายนาโอมีนั้นมีญาติข้างสามีคนหนึ่งเป็นคนมั่งมี ตระกูลเดียวกับเอลีเมเลค ชื่อโบอาส
2 และรูธชาวโมอับจึงพูดกับนาโอมีว่า "ขอให้ฉันไปที่ทุ่งนาเพื่อจะเก็บรวงข้าว ตกตามแต่ใครจะมีใจกรุณา" นาโอมีตอบนางว่า "ลูกของแม่เอ๋ย จงไปเถิด"
3 เธอก็ออกเดินตามหลังคนเกี่ยวเพื่อคอยเก็บข้าวตก เผอิญเข้าไปในนาของโบอาส ซึ่งเป็นคนตระกูลเดียวกับเอลีเมเลค
4 ดูเถิด โบอาสมาจากเบธเลเฮม พูดกับคนเกี่ยวข้าวว่า "ขอพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับเจ้าเถิด" เขาทั้งหลายตอบว่า "ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่ท่านเถิด"
5 โบอาสจึงถามคนใช้ผู้คอยควบคุมคนเกี่ยวข้าวนั้นว่า "หญิงสาวคนนี้เป็นคนของใคร"
6 คนใช้ซึ่งเป็นผู้ควบคุมคนเกี่ยวข้าวจึงตอบว่า "เธอเป็นหญิงชาวโมอับ กลับมาจากแผ่นดินโมอับพร้อมกับนาโอมี
7 นางพูดว่า 'ขออนุญาตให้ดิฉันเดินตามคนเกี่ยวคอยเก็บข้าวตกระหว่าง ฟ่อนข้าวเถอะค่ะ' นางก็มาเก็บข้าวตกตั้งแต่เวลาเช้าจนถึงบัดนี้ เว้นแต่ได้พักหน่อยหนึ่งที่เรือน"
8 แล้วโบอาสจึงพูดกับรูธว่า "ลูกเอ๋ย ขอฟังหน่อย อย่าไปเก็บข้าวที่นาอื่น หรือทิ้งนานี้ไปเสียเลย จงอยู่ใกล้ๆสาวใช้ของฉัน
9 ตาของเจ้าจงมองดูตามนาที่เขากำลังเก็บเกี่ยวกันอยู่ แล้วก็จงติดตามเขาไป ฉันได้สั่งพวกหนุ่มๆ มิให้รบกวนเจ้าแล้วมิใช่หรือ เมื่อเจ้ากระหายน้ำก็เชิญไปที่หม้อน้ำ ดื่มน้ำซึ่งคนหนุ่มๆตักไว้"
10 รูธก็ซบหน้าลงที่ดินกราบท่านและพูดว่า "ดิฉันเป็นแต่เพียงคนต่างด้าว ทำไมท่านจึงมองดิฉันด้วยความเอาใจใส่"
11 แต่โบอาสตอบนางว่า "ทุกอย่างที่เจ้าได้ปฏิบัติต่อแม่ผัวของเจ้า ตั้งแต่สามีของเจ้าสิ้นชีวิตแล้วนั้น มีคนมาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว และเขาบอกด้วยว่า เจ้ายอมจากบิดามารดาและบ้านเกิดเมืองนอนของเจ้า มาอยู่กับชนชาติที่เจ้าไม่รู้จักมาก่อน
12 ขอพระเจ้าทรงตอบแทนความดีของเจ้าตามที่เจ้าได้กระทำ มาแล้วนั้นเถิด และขอให้พระเจ้าของชนชาติอิสราเอล ซึ่งเจ้าเข้ามาพึ่งใต้ร่มบารมีของพระองค์นั้น จงทรงปูนบำเหน็จอันบริบูรณ์แก่เจ้า"
13 รูธจึงตอบว่า "เจ้านายของดิฉัน ท่านมีพระคุณแก่ดิฉันมากที่สุดเพราะท่านได้ปลอบใจดิฉัน และกล่าวคำที่แสดงความเมตตาเอ็นดูต่อดิฉันทั้งๆ ที่ดิฉันมิได้เป็นคนใช้ของท่าน"
14 พอถึงเวลารับประทานอาหาร โบอาสก็บอกนางว่า "เชิญมานี่เถิด มารับประทานขนมปังบ้าง และเอาอาหารมาจิ้มน้ำส้มเถิด" นางจึงนั่งลงข้างๆพวกคนเกี่ยวข้าว โบอาสจึงส่งข้าวคั่วให้ และนางก็รับประทานจนอิ่ม และยังเหลือไว้บ้าง
15 เมื่อนางลุกขึ้นไปเก็บข้าว โบอาสก็บัญชาชายหนุ่มของท่านว่า "จงยอมให้นางเก็บข้าวตกระหว่างฟ่อนข้าวเถอะ อย่าได้ตำหนินางเลย
16 จงดึงข้าวออกจากฟ่อนทิ้งไว้ให้นางเก็บบ้าง อย่าว่านางเลย"
17 นางก็เที่ยวเก็บข้าวที่ตกในนาจนถึงเวลาเย็น แล้วก็ฟาดข้าวที่เก็บมาได้นั้น ได้ข้าวบารลีประมาณเอฟาห์หนึ่ง
18 นางยกข้าวนั้นขึ้นและเข้าไปในเมือง แม่ผัวก็เห็นข้าวที่นางได้เก็บมานั้น และนางเอาอาหารที่เหลือเมื่อนางรับประทานอิ่มแล้วนั้นให้ แก่แม่ผัวด้วย
19 แม่ผัวจึงกล่าวแก่นางว่า "วันนี้ลูกไปเก็บข้าวตกที่ไหนมา ลูกไปทำงานที่ไหน ขอให้ชายที่เอาใจใส่ลูกได้รับพระพรเถิด" นางจึงบอกแก่แม่ผัวให้ทราบว่า นางไปทำงานกับผู้ใด นางว่า "ผู้ชายที่ฉันไปทำงานด้วยในวันนี้นั้นชื่อโบอาส"
20 นาโอมีจึงพูดกับบุตรสะใภ้ว่า "ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่เขาเถิด พระกรุณาของพระองค์ไม่เคยขาดจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือผู้ที่สิ้นชีวิตไปแล้ว" นาโอมีกล่าวแก่นางด้วยว่า "ชายคนนั้นเป็นญาติของเรา เขาเป็นญาติสนิท คนหนึ่งของเรา"
21 รูธชาวโมอับกล่าวว่า "นอกจากนั้นเขายังพูดกับฉันว่า 'เจ้าจงอยู่ใกล้ๆคนใช้หนุ่มของฉัน จนกว่าเขาจะเกี่ยวข้าวของฉันเสร็จ'"
22 นาโอมีพูดกับรูธบุตรสะใภ้ว่า "ดีแล้ว ลูกของแม่เอ๋ย ที่เจ้าจะไปทำงานกับสาวใช้ของเขา เกรงว่าถ้าเจ้าไปในนาอื่นจะถูกเขารบกวน"
23 ดังนั้นนางจึงอยู่ใกล้ๆสาวใช้ของโบอาส เที่ยวเก็บข้าวตกจนสิ้นฤดูเกี่ยวข้าวบารลีและข้าวสาลี และนางก็อาศัยอยู่กับแม่ผัว
นางรูธ 3
1 นาโอมีแม่ผัวของนางพูดกับนางว่า "ลูกของแม่เอ๋ย ถ้าแม่จะหาที่พึ่งพักให้เจ้า เพื่อเจ้าจะได้มีความสุขไม่ควรหรือ
2 โบอาสผู้ที่เจ้าไปกับพวกสาวใช้ของเขานั้น เป็นญาติของเรามิใช่หรือ ดูซิ คืนวันนี้เขาจะซัดข้าวบารลีที่ลานนวดข้าว
3 จงอาบน้ำ ทาน้ำมัน สวมเครื่องแต่งกายแล้วลงไปที่ลานนวดข้าว แต่อย่าให้ท่านเห็นตัวจนกว่าท่านจะรับประทาน และดื่มเสร็จแล้ว
4 เขานอนที่ไหนจงสังเกตไว้ให้ดี แล้วจงไปเปิดผ้าคลุมเท้าขึ้นและจงนอนที่นั่น ต่อไปท่านจะบอกเจ้าเองว่า เจ้าจะต้องทำประการใด"
5 นางตอบว่า "แม่ว่าอย่างไร ฉันจะกระทำตามทุกอย่าง"
6 ดังนั้นนางจึงลงไปยังลานนวดข้าว และกระทำตามที่แม่ผัวบอกทุกอย่าง
7 เมื่อโบอาสรับประทานและดื่มจนสำราญใจแล้ว ท่านก็ไปนอนอยู่ที่ปลายกองข้าว แล้วนางก็ย่องเข้ามา เปิดผ้าคลุมเท้าของเขาขึ้น และนอนลงที่นั่น
8 พอถึงเที่ยงคืน ชายคนนั้นก็ตกใจตื่นพลิกตัว ดูเถิด มีผู้หญิงมานอนอยู่ที่เท้าของท่าน
9 เขาจึงถามว่า "เจ้าเป็นใคร" นางตอบว่า "ดิฉันคือรูธคนใช้ของท่านค่ะ ขอให้ท่านกางชายเสื้อของท่านห่มคนใช้ของท่านด้วย เพราะท่านเป็นญาติสนิทถัดมา"
10 ท่านจึงว่า "ลูกเอ๋ย ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรแก่เจ้าเถิด คุณของเจ้าครั้งหลังนี้ก็ใหญ่ยิ่งกว่าครั้งก่อน ด้วยว่าเจ้ามิได้ไปหาคนหนุ่ม ไม่ว่าจนหรือมั่งมี
11 ลูกเอ๋ย เจ้าอย่ากลัวเลย สิ่งที่เจ้าขอร้องเราจะกระทำตาม บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองเราทราบดีอยู่ว่าเจ้าเป็น ผู้หญิงที่ดี
12 และก็เป็นความจริงด้วยที่ฉันเป็นญาติสนิท แต่ยังมีญาติอีกคนหนึ่งที่สนิทกว่าฉัน
13 คืนนี้เจ้าจงค้างที่นี่ก่อน พรุ่งนี้เช้า ถ้าเขาจะทำหน้าที่ญาติสนิทเพื่อเจ้าก็ดีแล้ว ให้เขาทำเถอะ ถ้าเขาไม่เต็มใจที่จะทำหน้าที่ญาติสนิทที่ถัดมาเพื่อเจ้า พระเจ้าทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ฉันจะทำหน้าที่ญาติสนิทที่ถัดมาเพื่อเจ้าแน่ฉันนั้น จงนอนลงเถิดจนกว่าจะรุ่งเช้า"
14 ดังนั้นนางจึงนอนอยู่ที่เท้าของท่านจนรุ่งเช้า แต่นางลุกขึ้นก่อนคนจะจำหน้ากันได้ เพราะท่านคิดว่า "อย่าให้ใครทราบว่ามีผู้หญิงมาที่ลานนวดข้าว"
15 ท่านพูดว่า "จงเอาผ้าคลุมที่เจ้าใช้อยู่นั้นคลี่ออก" นางก็คลี่ผ้าคลุมออก ท่านก็ตวงข้าวบารลีหกทะนานให้นางแบกไป แล้วก็เข้าไปในเมือง
16 เมื่อนางมาถึง แม่ผัวจึงถามว่า "ลูกของแม่เอ๋ย เป็นอย่างไรบ้าง" แล้วนางก็เล่าตามที่ท่านได้กระทำต่อนางให้แม่ผัวฟัง
17 ว่า "ท่านให้ข้าวบารลีหกทะนานนี้แก่ฉัน ท่านว่า 'เจ้าอย่ากลับไปหาแม่ผัวมือเปล่าเลย'"
18 แม่ผัวจึงว่า "ลูกของแม่เอ๋ย จงคอยอยู่ก่อน จนกว่าจะทราบว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร เพราะว่าท่านจะไม่หยุดเลย จนกว่าท่านจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จในวันนี้"
นางรูธ 4
1 โบอาสก็ไปที่ประตูเมืองและนั่งอยู่ที่นั่น ดูเถิด ญาติสนิทคนที่ถัดมา ซึ่งโบอาสกล่าวถึงก็เดินผ่านมา โบอาสจึงกล่าวว่า "สหายเอ๋ย แวะนั่งที่นี่ก่อนเถิด" เขาก็แวะมานั่งลง
2 ท่านจึงไปเชิญพวกผู้ใหญ่ในเมืองนั้นมาสิบคนกล่าวว่า "เชิญนั่งที่นี่เถิด" เขาทั้งหลายก็นั่งลง
3 ท่านจึงพูดกับญาติสนิทที่ถัดมานั้นว่า "นาซึ่งเป็นส่วนของเอลีเมเลคญาติของเรานั้น นาโอมีผู้ที่กลับมาจากแผ่นดินโมอับอยากจะขายเสีย
4 ข้าพเจ้าคิดว่า ข้าพเจ้าควรบอกให้ท่านทราบ และขอบอกว่าขอท่านซื้อไว้ ต่อหน้าคนที่นั่งอยู่ที่นี่และต่อหน้าพวกผู้ใหญ่ของชาวเมืองเรา ถ้าท่านอยากจะไถ่ไว้ก็จงไถ่เถิด ถ้าท่านไม่ไถ่จงบอกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะได้ทราบ นอกจากท่านแล้วไม่มีใครมีสิทธิ์ไถ่ได้ ข้าพเจ้ามีสิทธิ์ถัดท่านไป" ผู้นั้นจึงบอกโบอาสว่า "ข้าพเจ้าจะไถ่"
5 แล้วโบอาสบอกว่า "ในวันที่ท่านซื้อที่นาจากมือนาโอมีนั้น ท่านก็จะได้รูธชาวโมอับ แม่ม่ายของผู้ตายด้วย เพื่อนามของผู้ตายจะได้สืบต่อไปบนที่ดินอันเป็น มรดกของเขา"
6 ญาติสนิทที่ถัดมาคนนั้นตอบว่า "ข้าพเจ้าจะไถ่เพื่อตนเองอย่างนั้นไม่ได้ จะทำให้มรดกข้าพเจ้าเสียไป ท่านจงเอาสิทธิในการไถ่ของข้าพเจ้าไปจัดการเองเถิด เพราะข้าพเจ้าไถ่ไม่ได้แล้ว"
7 ต่อไปนี้เป็นธรรมเนียมในอิสราเอลสมัยก่อน เกี่ยวกับการไถ่และการแลกเปลี่ยน คือเพื่อจะรับรองการตกลงกัน คนหนึ่งจะถอดรองเท้าของเขาเองยื่นให้อีกคนหนึ่ง นี่เป็นธรรมเนียมของการแสดงสักขีพยานในอิสราเอล
8 ดังนั้นเมื่อญาติสนิทคนถัดมากล่าวแก่โบอาสว่า "ท่านจงซื้อเสียเองเถิด" เขาก็ถอดรองเท้าออก
9 แล้วโบอาสจึงกล่าวแก่พวกผู้ใหญ่และประชาชนทั้งปวงว่า "ท่านทั้งหลายเป็นพยานในวันนี้ว่า ข้าพเจ้าได้ซื้อทรัพย์สินทั้งหมดของเอลีเมเลค และทรัพย์สินทั้งหมดของคิลิโอนและมาห์โลนจากมือนาโอมีแล้ว
10 ทั้งรูธชาวโมอับแม่ม่ายของมาห์โลน ข้าพเจ้าก็ได้มาเป็นภรรยาของข้าพเจ้า เพื่อจะดำรงนามของผู้ตายไว้ บนที่ดินมรดกของเขาสืบต่อไป เพื่อนามของผู้ตายจะไม่ต้องถูกตัดออกจากพวกพี่น้องของเขา และจากประตูบ้านเกิดเมืองนอนของเขา ท่านทั้งหลายเป็นพยานแล้วในวันนี้"
11 ประชาชนทั้งปวงที่อยู่ที่ประตูเมืองและพวกผู้ใหญ่กล่าวว่า "เราทั้งหลายเป็นพยานแล้ว ขอพระเจ้าทรงกระทำให้หญิงนั้นที่กำลังจะเข้ามาใน เรือนของท่าน เหมือนนางราเชลและนางเลอาห์ ผู้ซึ่งช่วยกันสร้างวงศ์ตระกูลอิสราเอล ขอให้ท่านจงจำเริญอยู่ในเอฟราธาห์และมีชื่อเสียงใน เบธเลเฮม
12 ขอให้พงศ์พันธุ์ของท่านเหมือนพงศ์พันธุ์ของเปเรศ ซึ่งทามาร์คลอดให้แก่ยูดาห์ เนื่องด้วยลูกหลานซึ่งพระเจ้าจะประทานแก่ท่านโดยผู้หญิงคนนี้"
13 ดังนั้นโบอาสก็รับรูธมาเป็นภรรยาของท่าน และท่านก็เข้าหานาง และพระเจ้าประทานให้นางตั้งครรภ์คลอดบุตรชายคนหนึ่ง
14 ฝ่ายพวกผู้หญิงก็พูดกับนาโอมีว่า "สาธุการแด่พระเจ้า พระองค์มิได้ทรงละทิ้งเจ้าไว้ให้ปราศจากญาติที่ถัดมา ขอให้ทารกนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปในอิสราเอล
15 ให้เด็กคนนี้เป็นผู้ชุบชีวิตของเจ้าและเลี้ยงดูเจ้าเมื่อชรา เพราะว่าเด็กคนนี้เกิดมาจากลูกสะใภ้ที่รักเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าบุตรชายเจ็ดคน"
16 แล้วนาโอมีก็รับเด็กนั้นมาอุ้มไว้แนบอก และรับเป็นผู้เลี้ยงดูแลเด็กคนนั้น
17 หญิงชาวบ้านข้างเคียงก็ให้ชื่อเด็กนั้น พูดกันว่า "มีบุตรชายคนหนึ่งเกิดให้แก่นาโอมี" เขาตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่า โอเบด ผู้เป็นบิดาของเจสซี ซึ่งเป็นบิดาของดาวิด
18 ต่อไปนี้เป็นพงศ์พันธุ์ของเปเรศ เปเรศเป็นบิดาของเฮสโรน
19 เฮสโรนเป็นบิดาของราม รามเป็นบิดาของอัมมีนาดับ
20 อัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโชน นาโชนเป็นบิดาของสัลโมน
21 สัลโมนเป็นบิดาของโบอาส โบอาสเป็นบิดาของโอเบด
22 โอเบดเป็นบิดาของเจสซี และเจสซีเป็นบิดาของดาวิด